อยากเติบโตใน ‘Career path’ ต้องหยุดโฟกัสที่เงินเดือนก่อน

ไม่มีใครปฏิเสธว่า ‘เงินเดือน’ มีนัยสำคัญทั้งในแง่ของการดำเนินชีวิต รวมถึงฐานเงินเดือนเองก็เป็นส่วนประกอบหลักที่มีผลทำให้ ‘Career path’ ของเราเติบโตไปอย่างที่ตั้งเป้าไว้ได้

แต่บางครั้งการพุ่งเป้าไปที่เรื่องของเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ก็อาจไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนหลักที่จะทำให้ Career path โตไปพร้อมๆ กัน หากน้ำหนักการโฟกัสเอนเอียงไปทางเรื่องของเงินเดือนมากกว่า การเปลี่ยนแปลงและเป้าหมายเพื่อการเติบโตในอาชีพการงาน ก็จะถูกล็อกเป้าที่การมีฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นทุกปีๆ

ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณกลายเป็น ‘Job Hopper’ หรือคนที่เปลี่ยนงานบ่อยๆ เพราะต้องการขยับตัวเลขโดยไม่ต้องรอการปรับประจำปีก็เท่านั้น

ข้อน่ากังวลของคนที่เปลี่ยนงานบ่อยๆ และมีเงินเดือนเป็นแกนหลัก ก็คือหลายครั้งอาจทำให้คุณสูญเสียการเรียนรู้หรือเข้าถึงทรัพยากรบางอย่างในออฟฟิศเดิมไปด้วย

เวลาเพียง 1 ปี อาจทำให้คุณเข้าใจเนื้องานที่ได้รับมอบหมายได้ดี แต่บางครั้งก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในตำแหน่งงานดังกล่าวก็เป็นได้

TODAY Bizview อยากชวนทุกคนมาไล่เรียงถึงการสร้าง ‘Career’ ที่เป็นมากกว่า ‘Job’ จะทำอย่างไรให้เรามี Career path ที่ใช่กับตัวเองมากที่สุด และทำไมการให้ความสำคัญกับ Career จึงเป็นเรื่องที่ต้องปักหมุดไว้

[ ตั้งเป้าหมาย รีเซ็ตวิถีชีวิตให้ตรงกับสิ่งที่อยากไปให้ถึง ]

ความน่าสนใจของการชวนโฟกัสไปที่ ‘Career’ นั้น นักเขียนจากเว็บไซต์ Harvard Business Review ขยายความว่า คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ ‘Job’ มากกว่า ‘Career’

แน่นอนว่า เพราะเราอยู่กับงานที่ต้องรับผิดชอบทั้งวัน รู้ว่าแต่ละวันตัวเองมี task อะไรที่ต้องทำให้ลุล่วงบ้าง นี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่ แต่ก็ทำให้หลายๆ คนมองข้าม ตัดขาดทักษะหรือการมองโลกบางอย่างออกไป เพราะติดกับกิจวัตรที่ว่า วันนี้ต้องทำอะไร ทำสิ่งไหนให้เสร็จ และมีงานอะไรที่ต้องเริ่มดำเนินการต่อบ้าง

จนทำให้คุณเองลืมให้น้ำหนักกับการพัฒนา-ติดอาวุธให้กับตัวเอง จดจ่อกับ ‘Job’ จนลืมไปว่า ‘Career’ นั้นอาศัยการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างมาก

นั่นจึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพบอกว่า “การโฟกัสหรือ ให้ความสำคัญไปกับงานเพียงอย่างเดียว เป็นราคาที่ต้องจ่ายให้กับอาชีพการงานของคุณด้วย”

ฉะนั้น สิ่งแรกที่อยากจะให้เริ่มต้นทำดูก่อนก็คือ ลองวาดวงกลมสองวงให้มีพื้นที่ทับซ้อนระหว่างกันตรงกลาง  โดยวงแรกบรรจุความรับผิดชอบที่คุณถืออยู่ ส่วนอีกวงคือรายละเอียดงานที่คุณปรารถนา ดูว่าวงกลมทั้งสองนี้มีพื้นที่ทับซ้อนกันมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่คุณพึงปรารถนาด้วยรึเปล่า

ไดอะแกรมนี้จะช่วยให้คุณสามารถระบุงานที่ต้องรักษาไว้ได้ด้วย 2 ตัวแปร คือ งานที่กำลังรับผิดชอบอยู่ และสามารถไปต่อกับ Career ในอนาคตที่มองไว้ กับงานที่ไม่ได้ทำอยู่ ณ ตอนนี้ แต่มีความต้องการไปให้ถึงในอนาคต

[ สร้างสตอรี่ให้ตัวเอง ปั้นแบรนด์ดิ้งให้เฉิดฉายกว่าใครๆ ]

หนึ่งในความท้าทายที่สุดเพื่อที่จะก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ คือการสร้าง ‘presonal branding’ ของตัวเองขึ้นมา อย่างที่บอกไปว่า การโฟกัสกับ Job เพียงอย่างเดียว อาจทำให้เราละเลยที่จะหาทางไปสู่การปั้น Career ที่ใช่ขึ้นมาได้

ง่ายๆ เลยก็คือ อยากเป็นแบบไหน อยากให้คนอื่นๆ มองมาที่คุณ แล้วจินตนาการว่าเป็นคนแบบไหน มีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ จง ‘โชว์’ สิ่งนั้นบ่อยๆ

นี่อาจไม่ใช่เรื่องคุ้นเคยของคนไทยเท่าไร บางครั้ง เราปั้นโปรเจกต์เจ๋งๆ ขึ้นมาได้ ก็ไม่กล้าลงโซเชียลมีเดียเพราะกลัวว่าคนนอกจะมองเราเข้ามาด้วยท่าทีอย่างไร จะดูโอ้อวดเกินไปรึเปล่า?

แต่ในขณะเดียวกัน การรักษาภาพ ‘Low profile’ ไว้ต่างหาก ที่ไม่ส่งผลดีให้กับ Career ของตัวเองเลย สิ่งสำคัญคือต้อง “dress for the job you want” ทำให้คนอื่นๆ ที่มองมารู้ได้ทันทีว่า คุณเชี่ยวชาญเรื่องไหน เก่งอะไร โดดเด่นทักษะใดบ้าง และเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมคุณก็จะได้รับมันโดยง่ายกว่ามาก

จงอุดช่องว่างระหว่างสิ่งที่ต้องทำในวันนี้กับสิ่งที่เราอยากเห็นและอยากเป็นในอนาคต ตอนเริ่ม มันอาจจะยุ่งยากและดูเป็นเรื่องน่ารำคาญ

แต่เชื่อเถอะว่า ในอนาคตหากคุณยังหา Career ไม่เจอ หรือหาเจอแล้วแต่ยังคว้ามันไว้ไม่ได้ นั่นต่างหากที่จะยิ่งกว่าเสียดายหรือเสียใจ เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร การก้าวไปให้ถึง Career ก็ดูจะยากเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้เสียแล้ว

ที่มา:

https://hbr.org/2022/08/dont-focus-on-your-job-at-the-expense-of-your-career?autocomplete=true

https://www.linkedin.com/pulse/why-you-should-focus-your-career-job-iyamu-mohammed