‘อนุทิน’ ไม่มีปัญหากฎ 180 วันเลือกตั้ง โต้มอง รบ.ได้เปรียบเพราะทำงานหนัก

‘อนุทิน’ ยันภูมิใจไทยไม่มีปัญหา ‘กกต.’ ออกกฎ 180 วัน คุม ‘พรรคการเมือง’ ก่อนเลือกตั้งโต้ ‘พรรคซีกรัฐบาล’ ถือไพ่ได้เปรียบ เพราะทำงานหนัก เผย เจอ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ 2 ครั้ง ดูมีความสบายใจ เข้มแข็งอยู่แล้ว 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกประกาศหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สมัครส.ส.และพรรคการเมืองปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ภายในกรอบเวลา 180 วัน ซึ่งจะเริ่มนับในวันนี้(24ก.ย.)นี้ว่า ไม่เป็นอุปสรรคในการหาเสียง เพราะเราลงพื้นที่มาตลอดอยู่แล้วตั้งแต่ปี2562 เราก็ศึกษาอะไรทำได้หรือไม่ ข้อกำหนดของกกต.ในช่วงใกล้เลือกตั้งส่วนใหญ่จะต้องระวังเรื่องการสัญญาว่าจะให้ การนำของไปแจก หรือทำผิดระเบียบต่างๆ ทางพรรคภูมิใจไทยก็แจ้งผ่านไลน์กลุ่มพรรคตลอดว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เชื่อว่าผู้สมัครส.ส.ทุกคนมีความมั่นใจ อย่างเช่นที่เราเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่23ก.ย.ที่ผ่านมา ก็เพื่อให้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย และเกิดความเรียบร้อย เราจัดก่อนวันนี้ (24ก.ย.) ที่จะเข้าสู่ห้วงเวลา 180 วัน สำหรับกรณีป้ายหาเสียงที่ตามข้อกำหนดกกต. จะมีการคิดคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ก็ต้องมีการแก้ไขให้ถูกต้อง แต่การติดตั้งป้ายหาเสียงของพรรคได้เกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีข้อกำหนดในช่วง180วัน และเกิดมานานแล้ว 

เมื่อถามว่า มีการมองกันว่า พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ อาจจะมีข้อได้เปรียบเนื่องจากสวมหมวก2ใบที่เป็นพรรคการเมือง และเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า เราได้เปรียบเพราะเราทำงานก่อนคนอื่น ทำงานหนักกว่าคนอื่น ก็ต้องได้เปรียบว่า ไม่ใช่ได้เปรียบเพราะไปเอาเปรียบคนอื่น เราทำอะไรด้วยความขยันขันแข็ง พรรคภูมิใจไทยขยันลงพื้นที่ไม่เคยขาด รัฐมนตรีของพรรคก็ทำงานหนักตลอด

“ได้เปรียบในที่นี้คือเป็นเปรียบที่ควรจะ ไม่ใช่อยู่ๆไปกีดกันคนอื่น อย่างนี้ไม่ได้ เราเอางานหนักเข้าทำมันก็ต้องได้เปรียบ” นายอนุทิน กล่าว 

ส่วนกรณีที่ได้ประกาศว่าพรรคภูมิใจไทยจะขอเป็นพรรคแกนหลักต้นขั้วการเมือง จะพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเลยหรือไม่ว่า นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามว่าพรรคภูมิใจไทยเสนอใครเป็นนายกฯ ส่วนคำว่าแกนหลักจะคือพรรคอันดับ1หรือไม่ ก็ต้องมีการขับเคลื่อนให้ประชาชนมั่นใจ ไว้วางใจว่าเราจะทำประโยชน์ให้เขาได้มากที่สุด การจะไปถึงจุดนั้นได้ ถ้าเรามีส.ส.เยอะ มันก็จะผลักดันทุกอย่างได้ง่ายขึ้น ไม่เป็นอุปสรรค ไม่เป็นเหยื่อของการเมืองจากใคร 

เมื่อถามว่า แกนหลักต้องได้ส.ส.เกิน 100 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เอาไว้รอถึงวันนั้นก่อน เราก็ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เราทำงานเพื่อประชาชนเต็มที่ แทนที่สิ่งเหล่านั้นจะได้รับการสนับสนุนจากคนการเมืองด้วยกัน กลับมีการบล็อค เตะตัดแข้งตัดขา ผลเสียเกิดกับประชาชน ไม่ได้เกิดต่อพรรคภูมิใจไทยเลย ใครทำงานอะไรย่อมรู้อยู่แล้วว่าเนื้องานเป็นอย่างไร คนที่ไม่ทำงาน ไม่เข้าใจ แล้วพูดออกมาก็เหมือนกับปล่อยไก่ มันทำให้การเมืองไม่เข้มแข็ง เราถึงไม่หวั่นไหว แต่ก็โอเคบางคนเขาอาจจะตัดสินใจทำแบบนี้กับพรรคภูมิใจไทย เพราะคงไม่ต้องพึ่งพาอะไรกันแล้ว ไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีการผ่านกฎหมายสำคัญแล้ว เลยปฏิบัติกับเราแบบนี้ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าประชาชนคือหลักชัยของเรา ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าจะเจ็บฝังใจที่เคยร่วมงานกันมา นายอนุทิน กล่าวว่า เจ็บที่ประชาชนเสียประโยชน์ ไม่ได้เจ็บเพราะตัวเอง หรือพรรคเสียประโยชน์อะไร คนเสียโอกาสคือประชาชน แต่ไม่มีปัญหาอะไร เราก็มุ่งมั่นทำงานต่อ อย่างที่ตนเคยบอกไป อย่ามามีเรื่องกับพรรคภูมิใจไทยเลย เราต้องการทำงานเพื่อประชาชนอย่างเดียว อย่ามาตีพรรคภูมิใจไทย เพราะไม่มีประโยชน์ อย่างเช่น แนวคิดปลอดดอกเบี้ยกยศ.ที่ตรงกับพรรคเพื่อไทยเพราะเห็นประโยชน์ประชาชนตรงกัน แต่พอต่อมาพรรคเพื่อไทยค้านร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เราก็ไม่ว่าอะไร เล่นแบบมีสปิริตนักกีฬา 

ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคภูมิใจไทยถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่เคยโต้ตอบกับพรรคเพื่อไทย จะเป็นการส่งสัญญาณเตรียมการจับมือกันทางการเมืองในอนาคตร่วมกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ถ้อยทีถ้อยอาศัย เราเป็นของเราแบบนี้ เราไม่เคยยุ่งกับใคร เวลาพรรคอื่นทำประโยชน์เราพร้อมสนับสนุน แต่พอเราจะทำประโยชน์ให้ประชาชน ทำไมพรรคอื่นๆต้องมาขัดแข้งขัดขาพรรคภูมิใจไทย การสู้กันทางการเมือง ไม่ควรเอาประโยชน์ที่ประชาชนพึงจะได้มาขัดขวาง แต่เราโชคดีที่รู้ว่าปัญหาเหล่านี้จะเกิดจึงเตรียมการไว้ก่อน อย่างเช่น ร่างกฎหมายกัญชาที่ถูกถอนออกจากสภาฯ ก็ยังมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขรองรับสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ส่วนจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ ให้ผลการเลือกตั้งแสดงออกมาก่อน 

เมื่อถามว่า ที่เราต้องเตรียมการไว้ก่อน แสดงว่าไม่ไว้ใจพรรคร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อาจเป็นสัญชาตญาณของหัวหน้าพรรค 

“เราเคยถูกกดดันตลอดเวลา คนนั้นจะเอาเรามั้ย คนนี้จะเอาเรามั้ย เราจึงต้องกำหนดตำแหน่งของเรา พยายามทำให้ถึงจุดที่ว่าเราจะเอาใครดีกว่า” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า พูดได้เลยหรือไม่ว่าขอเป็นคนเลือกบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า พูดมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เมื่อถามว่า เห็นชาวขอนแก่นชูป้ายอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบสั้นๆว่า “สมพรปาก”

มั่นใจภท.ปักธง ‘ขอนแก่น’ 8เขต สู้แลนด์สไลด์ ‘เพื่อไทย’

นายอนุทิน กล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ขอนแก่น จำนวน 8 เขต จาก 11 เขต จะตั้งเป้ากวาดทั้ง 8 เขตเลยหรือไม่ว่า เราเปิดตัวผู้สมัครก็ต้องมั่นใจว่าสู้ได้ ส่วนอีก3เขตที่เหลือ จะทยอยเปิดตัว ทางนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้สมัครส.ส.ขอนแก่น เขต4 ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงาน กำลังดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่า จังหวัดขอนแก่นที่ถือเป็นฐานเสียงหลักสำคัญของพรรคเพื่อไทยนั้น มันไม่มีใครเป็นจังหวัดหลักของใคร มันอยู่ที่ใครทำงานให้ประชาชนแค่ไหน จังหวัดบุรีรัมย์ก็ไม่ใช่จังหวัดหลักของเรา ลองส.ส.บุรีรัมย์ขี้เกียจเมื่อไหร่ก็เรียบร้อย มันอยู่ที่ความทุ่มเทของส.ส. ถ้าอยากเข้าไปในสภาฯก็ต้องทำตัวให้ประชาชนไว้วางใจให้มากที่สุด และตนไม่ต้องมาประเมินความยากง่ายในการเจาะฐานเสียง เพราะเราประเมินบุคลากรของเราที่จะมาทำงานในจังหวัดขอนแก่นจากความทุ่มเท เข้าใจพื้นที่ตัวเอง ความอยากรับใช้ประชาชน เราก็สนับสนุนให้ได้รับชัยชนะ

เผย เจอ ‘บิ๊กตู่’ 2ครั้ง ดูมีความสบายใจ เข้มแข็งอยู่แล้ว 

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ว่า ตนได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ 2 ครั้ง ล่าสุดไปขอพรวันเกิดตนจาก พล.อ.ประยุทธ์ ดู พล.อ.ประยุทธ์ มีความสบายใจ เราไปก้าวล่วงคำวินิจฉัยของศาลฯไม่ได้ เพราะไม่สมควร แต่ในฐานะที่เป็นรัฐบาลร่วมกัน พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้ เราก็ต้องให้กำลังใจท่าน แต่พล.อ.ประยุทธ์ เข้มแข็งอยู่แล้ว

รับ ภท.เป็นพรรคดูด แต่ดูดด้วยผลงาน สั่งลุยเลือกตั้ง หน้าต้องดำ ผิวต้องกร้าน เอาตัวเองเข้าสภาให้ได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสัมมนาพรรคภูมิใจไทยสัญจรวานนี้ (23 ก.ย.) นายอนุทิน ได้ร่วมงานเลี้ยงพบปะ ส.ส.พรรค โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทยมีแต่คนไหลเข้า ยังไม่เห็นไหลออก แต่อย่าให้มีคนแรกจะถูกพวกเราโห่จนกลับบ้านไม่ถูก เพราะเราสำเร็จมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน เวลามันมีพลวัตขับเคลื่อนเราเปรียบเสมือนสิ่งที่หมุนรอบ ซึ่งหากหมุนไปเรื่อยๆในทางฟิสิกส์จะเกิดเป็นแรงดูด จึงขอให้หมุนไปแบบนี้ หมุนด้วยความเร่ง ความตั้งใจ ความจริงใจต่อประชาชน แรงดูดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงถูกแล้ว ที่เขาพูดว่าพรรคภูมิใจไทยเป็น”พรรคดูด” แต่ดูดด้วยผลงาน ดูดด้วยความนิยม 

นายอนุทิน ย้ำว่า ขอให้คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจะสนุกสนานกัน แต่นับจากวันนี้ หน้าต้องดำ ผิวต้องกร้าน และต้องได้รับคะแนนนิยม ความเชื่อมั่นจากประชาชน แล้ววันรุ่งขึ้น หลังการเลือกตั้งเราจะฉลองอย่างยิ่งใหญ่ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ติดดิน ต่อให้ฝนตกหนักแค่ไหน หัวหน้าพรรคจะยืนเคียงข้างลูกพรรค เราตากแดด ตากลม ตากฝน ได้หมด ขออย่างเดียวให้ได้เดินเข้าสภา จากนี้ไปอีก 6 เดือน เราจะอยู่ในโหมดของการต่อสู้และขอให้ทุกคนสู้แบบ อสม. คือ สู้จนกว่าจะชนะและเอา ส.ส.ตัวเป็นๆ เข้าสภาเท่านั้น และเราจะชนะอย่างแน่นอน