‘สมชัย’ ยื่นหลักฐานสอบปม ป้ายต้อนรับ ‘ประวิตร’ ขัดกฎเหล็ก 180 วันหรือไม่

‘สมชัย’ ขีดเส้นตาย 1 เดือน กกต. สอบปมป้ายต้อนรับพล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ขัดกฎเหล็ก 180 วัน หรือไม่ พร้อมยื่นหลักฐานต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ หลังจากวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในขอบเขตระยะเวลา 180 วัน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ

นายสมชัย ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ได้ไปตรวจราชการที่ จ.เพชรบูรณ์ และมีการขึ้นป้ายต้อนรับซึ่งมีข้อความว่า “ชาวเพชรบูรณ์ยินดีต้อนรับ” แต่ในป้ายดังกล่าว ปรากฏรูปของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เพชรบูรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รวมถึง ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.เพชรบูรณ์ โดยรูปของส.ส.ทั้ง 5 คน ได้เขียนเขตเลือกตั้งที่ตรงกับเขตเลือกตั้งใหม่ และยังมีรูปว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเจตนาชัดเจนว่าสิ่งนี้เป็นไปเพื่อที่จะใช้ในการหาเสียง นอกจากนี้ป้ายดังกล่าวยังมีการกล่าวอ้างว่าติดไว้แต่ถึงเวลาจริงนำออก แต่ตนมีหลักฐานทั้งคลิปวิดีโอและภาพนิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ณ วันที่พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ป้ายยังปรากฏภาพอยู่ต่อหน้า

อดีต กกต. กล่าวว่า วันนี้ (29 ก.ย. 2565) จึงได้นำมาเสนอต่อ กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจากอยากให้มีการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐคือ กกต.ได้ใส่ใจในการที่จะดูแลเรื่องนี้หรือไม่ใส่ใจที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะหลังจากที่มีข่าวออกมาไม่นานก็มีข่าวปรากฏในสื่อว่า แหล่งข่าวใน กกต.ระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่ผิด แต่ไม่มีการมาชี้แจงจากเจ้าหน้าที่หรือผู้รับผิดชอบโดยตรง แต่เป็นการพูดโดยลอยๆ เพื่อกลบข่าวให้ปิดไป

นายสมชัย กล่าวว่า การมายื่นในวันนี้เพื่อให้ กมธ.ป.ป.ช.ได้มีโอกาสเชิญตัวแทนของสำนักงานเลขาธิการ กกต. เลขาธิการ กกต. มาชี้แจงต่อกรรมาธิการว่าป้ายต้อนรับดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าผิดจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หรือถ้าไม่ผิดเป็นเหตุผลประการใดเพื่อที่จะได้ถือเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินการเรื่องการหาเสียงต่อไป ส่วนที่ตนจะไปยื่นต่อกกต.นั้น ทราบจากข่าวว่า เลขาธิการกกต.ได้รับทราบเรื่องแล้วและระบุว่าตนจะมายื่นหรือไม่ยื่นก็ได้ ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะไปยื่นในวันที่ 4 ต.ค.นี้จะถึงนี้ ดังนั้นก็จะให้โอกาสกกต.ในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และถ้าครบ 1 เดือนยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่โปร่งใสและตรงไปตรงมาตนจะไม่ไปยื่นต่อ กกต. แต่จะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งสองห้อง

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า กรณีที่นายสมชัยมาร้องเรียนกล่าวหาพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรค นายสันติ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้กระทำผิดตามกฎระเบียบและคำสั่งของ กกต.ที่พึ่งออกมาใหม่ เพราะจะเป็นการจูงใจหาเสียงก่อนมีประกาศพระราชกฤษฎีกา นอกจากนี้ยังมีรูปผู้สมัคร 6 คนซึ่งในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เดิมทีมีส.ส.เขต 5 คน แต่ในการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่จะมี ส.ส. 6 คน ซึ่งในแผ่นป้ายนี้นอกจากจะขนาดใหญ่เกินกำหนดแล้วยังมีรายชื่อผู้สมัครเป็น ส.ส. โดยเฉพาะเขต 3 เป็นเขตผู้สมัครใหม่ ตรงนี้ถือว่ามีเจตนาจงใจกระทำการหาเสียงเพื่อจงใจให้ประชาชนได้เลือกตั้งบุคคลในพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยความรู้เห็นของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค

ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. ออกมาระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ผิดนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ กกต. ที่เป็นแหล่งข่าวนี้คือใคร แทนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดที่เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ แต่กลับมาปกป้องพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ถือว่าโชคดีที่ประชาชนมี กกต. 7 คน และนายสมชัย เป็นคนที่ 8 มาช่วยตรวจสอบความไม่ถูกต้องทั้งหลายทั้งปวง โดยรัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้ผมก็ขอบคุณท่านสมชัยที่ได้นำเรื่องนี้มาเสนอต่อคณะกรรมาธิการ ก็จะได้ตรวจสอบความไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสต่างๆ ต่อไป และเรื่องเหล่านี้ก็รู้ว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนก็จะรีบดำเนินการให้