‘คิม จอง อึน’ ปลื้มทดสอบขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ได้สำเร็จ ลั่นพร้อมรับมือศัตรูอย่างเต็มที่

‘คิม จอง อึน’ ปลื้มประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ ประกาศพร้อมตอบสนองการยั่วยุจากภัยคุกคามด้วยปฏิบัติการนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือเผยภาพ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางไปร่วมสังเกตการณ์ยิงขีปนาวุธร่อนทางยุทธศาสตร์พิสัยไกล 2 ลูกด้วยตนเอง ที่ฐานยิงในเมืองแคช็อน จังหวัดพย็องอันใต้ เมื่อวันพุธ (12 ต.ค.) พร้อมแสดงความพึงพอใจอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุด

KCNA รายงานว่า ขีปนาวุธทั้งสองลูกถูกยิงออกจากชายฝั่งทางตะวันตกของเกาหลีเหนือ ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยสามารถเคลื่อนที่ไปเป็นระยะทาง 2,000 กิโลเมตร ตามวงโคจรในรูปแบบเลข 8 และรูปไข่ ก่อนจะพุ่งโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมีระดับต่ำกว่าขีปนาวุธปกติ ทำให้ถูกตรวจจับและสกัดยากยิ่งขึ้น

การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นการทดสอบครั้งที่ 8 ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์ของเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมทางทะเลระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี โดยหนึ่งในการยิงขีปนาวุธทั้ง 7 ครั้งที่ผ่านมา เป็นขีปนาวุธพิสัยกลางที่ถูกยิงผ่านน่านฟ้าญี่ปุ่นไปตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ญี่ปุ่นต้องยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงปักกิ่งของจีนมาแล้ว 

KCNA ระบุในรายงานว่า การยิงขีปนาวุธเมื่อวันพุธ (12 ต.ค.) มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้และศักยภาพของขีปนาวุธร่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทโธปกรณ์สำคัญของหน่วยปฏิบัติการนิวเคลียร์ในกองทัพเกาหลีเหนือ และในตอนนี้ขีปนาวุธชนิดนี้ก็ได้ถูกส่งไปประจำการในหน่วยบัญชาการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับปฏิบัติการนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีแล้ว 

KCNA ยังอ้างคำพูดของผู้นำเกาหลีเหนือด้วยว่า กองกำลังต่อสู้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อยู่ในสถานะที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการทำสงครามจริงแล้ว และการทดสอบครั้งนี้ก็เป็นคำเตือนที่เกาหลีเหนือต้องการส่งไปยังศัตรู โดยนายคิมเน้นว่า เกาหลีเหนือจำเป็นที่จะต้องขยายขอบเขตปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อยับยั้งวิกฤตทางทหารและสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด 

ทางด้าน ฮง หมิน นักวิเคราะห์จากสถาบันเพื่อการรวมชาติเกาหลีเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า การทดสอบครั้งล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาความสามารถในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนขีปนาวุธร่อน ซึ่งบินในระดับที่ต่ำว่าขีปนาวุธปกติและมีเส้นทางการบินที่ไม่สม่ำเสมอ เพื่อวัตถุประสงค์ในการหลบเลี่ยงการสกัดกัน 

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานของสื่อเกาหลีเหนือ เพียงแต่ระบุว่า สหรัฐฯ ยังคงมุ่งเน้นไปที่การประสานงานกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการกับภัยคุกคามที่มาจากเกาหลีเหนือ 

ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล แห่งเกาหลีใต้ ได้ออกมาแถลงว่า เกาหลีใต้ไม่ได้มองว่าขีปนาวุธร่อนของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อเกาหลีเหนือ เพราะเป็นขีปนาวุธที่เคลื่อนตัวช้าและสามารถสกัดได้ แต่เกาหลีใต้ก็พร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการยั่วยุที่มาจากเกาหลีเหนือด้วยกองกำลังที่มีประสิทธิภาพ

ที่มา The Guardian, CNN, Reuters