SHARE

คัดลอกแล้ว

กระทรวงกลาโหมรัสเซียปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินทหารพุ่งชนอพาร์ทเมนต์ในเมืองเยสค์ เพิ่มเป็น 13 ศพ รวมเด็ก 3 คน ชาวบ้านกว่า 300 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ 

สื่อรัสเซียรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินทหาร Su-34 ของกองทัพรัสเซีย พุ่งชนอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองเยสค์ ทางตอนใต้ของรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครน พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 25 คน 

จำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าวได้รับการเปิดเผยออกมาใหม่จากตัวเลขเดิมที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คน และได้รับบาดเจ็บ 19 คน หลังจากที่หน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยปฏิบัติการกู้ภัยยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ชาวบ้านกว่า 360 คน รวมถึงเด็กนักเรียนของโรงเรียนที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ได้รับการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว โดยหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ในอพาร์ทเมนต์ที่ถูกไฟไหม้ออกมาได้แล้วอย่างน้อย 68 คน 

จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เครื่องบินลำเกิดเหตุกำลังอยู่ระหว่างการฝึกซ้อมบินในช่วงเย็นวันจันทร์ (17 ต.ค.) ก่อนที่จะเกิดไฟลุกไหม้บริเวณเครื่องยนต์ จนนำไปสู่การพุ่งชนอาคารพักอาศัย โดยนักบินสามารถดีดตัวออกมาจากเครื่องได้ทัน 

ภาพจากคลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์เผยให้เห็นเปลวไฟลุกไหม้และกลุ่มควันหนาทึบปกคลุมอพาร์ทเมนต์ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ว่าเครื่องบินรบลำดังกล่าวบรรทุกกระสุนมาเต็มลำอย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการคราสโนดาร์ ซึ่งเป็นที่ทั้งของเมืองเยสค์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ โดยระบุว่า หากมีการบรรทุกกระสุนจริงจะต้องระเบิดอาคารไปมากกว่าครึ่งหลัง 

ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ได้สั่งการให้รัฐมนตรีสาธารณสุข รัฐมนตรีด้านบริการฉุกเฉิน รวมถึงผู้ว่าการที่เป็นเจ้าของจุดเกิดเหตุลงพื้นที่ทันที พร้อมมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นทั้งหมดให้กับผู้ประสบเหตุ

สำหรับเมืองเยสค์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย บริเวณทะเลอาซอฟ ซึ่งเป็นทะเลที่กั้นระหว่างพื้นที่ทางตอนใต้ของรัสเซียกับพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน ที่กำลังเป็นหนึ่งในสมรภูมิรบที่สำคัญในตอนนี้ โดยเมืองเยสค์ยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศของรัสเซีย โดยมีประชากรอยู่ในเมืองนี้ราว 90,000 คน

 


ที่มา Reuters, CNN, BBC

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า