‘จุรินทร์’ มั่นใจคนกทม.ตอบรับ ปชป. หลังให้ ‘องอาจ-สุชัชวีร์-วทันยา’ ลงพื้นที่

‘จุรินทร์’ มั่นใจเสียงตอบรับ กทม. ดีขึ้นอย่างน่าพอใจ หลังให้ ‘องอาจ – สุชัชวีร์ – วทันยา’ ลุยกิจกรรม ทำพื้นที่ต่อเนื่องไม่หยุด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำกิจกรรมใน กทม. มากขึ้นว่า เป็นภารกิจในฐานะพรรคการเมืองที่ผูกพันกับ กทม.มายาวนาน และเราให้ความสำคัญกับพื้นที่กรุงเทพมหานครไม่แพ้ภาคอื่น เพราะเคยมีผู้แทนราษฎรที่นี่มาเกือบจะเรียกว่าทุกยุคทุกสมัย ยกเว้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ไม่ได้ส.ส. เลย แต่หลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำให้เห็นว่าสัญญาณตอบรับพรรคประชาธิปัตย์จากชาวกรุงเทพฯ ดีขึ้นในลำดับที่ถือว่าน่าพอใจ เพราะนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มาเป็นลำดับที่ 2 เราได้ ส.ก. มาถึง 9 ที่ และได้ที่ 2 ถึง 7 ที่ ดังนั้นก็ถือว่าเสียงตอบรับประชาธิปัตย์สำหรับชาวกรุงเทพฯ ดีขึ้น และเราก็มีการวางตัวผู้สมัครมาก่อนหน้านี้โดยลำดับแล้ว ขณะนี้ก็ได้พิจารณาตัดสินใจไปหลายเขต ยกเว้นในบางเขต เช่น เขตใหม่ซึ่งยังไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วจะเพิ่มเติมขึ้นในรูปแบบไหนอย่างไร ต้องรอไประยะหนึ่ง 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทีมกรุงเทพฯ มีความชัดเจนแล้วในเชิงโครงสร้างสำหรับการเตรียมการเลือกตั้ง จึงได้มอบ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กรุงเทพฯ เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม และมี ดร.สุชัชวีร์ และน.ส.วทันยา บุนนาค และมีผู้แทนราษฎร อดีตผู้แทนราษฎร ส.ก. รวมทั้งผู้มีประสบการณ์หลายท่านเข้ามาอยู่ร่วมในทีม เพราะฉะนั้นจะเห็นว่ากิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความต่อเนื่อง และมีความหลากหลายรูปแบบทั้งการลงพื้นที่พบประชาชน และในรูปแบบของการจัดระดมความคิดเห็น รวมถึงรูปแบบอื่นๆ อีกมาก ซึ่งถ้าติดตามจะเห็นความต่อเนื่องของประชาธิปัตย์

“ผมมั่นใจว่าเลือกตั้งเที่ยวหน้า เราจะได้เสียงตอบรับจากชาวกรุงเทพฯ ดีขึ้นมาก สำหรับการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ดูเหมือนตอนนี้จะกลายเป็นประเด็นการเมือง มีการโยนความรับผิดชอบกันไปมาในพรรครัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปโยนให้ใคร ในส่วนของรัฐบาลก็มีผู้รับผิดชอบชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นใครอย่างไรบ้าง ซึ่งตนก็เห็นว่าท่านก็พยายามทำหน้าที่อยู่ พล.อ.ประวิตร ก็ถือว่าท่านเป็นหัวเรือใหญ่ ท่านก็ทำหน้าที่อยู่ และหลายหน่วยงานก็ต้องเข้ามาช่วยกัน ทั้งในส่วนของจังหวัด รวมทั้งในส่วนของท้องถิ่น ต้องเข้ามาร่วมมือสอดประสานกัน ความสำเร็จจึงจะเกิดขึ้นได้ 

“น้ำท่วมนั้นมันไม่ได้ขีดวงเฉพาะพื้นที่ตามระบบระเบียบราชการ หรือขีดเส้นตามวงจังหวัด ตามหน่วยงานปกครองท้องถิ่น เวลาน้ำมามันก็ผ่านมาทั่ว เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาสำคัญที่สุดก็คือต้องแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ผมก็เห็นอยู่ว่าผู้มีหน้าที่ท่านก็พยายามทำอยู่ และเห็นใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพราะในหลายพื้นที่ก็ท่วมขังมาเป็นเวลานาน” นายจุรินทร์ กล่าว 

“สำหรับนักการเมืองก็มีข้อจำกัด ทั้งผู้สมัคร ผู้แทนราษฎร ก็ไม่สามารถที่จะลงพื้นที่ในการไปช่วยบรรเทาทุกข์ในบางรูปแบบที่จะมีส่วนช่วยได้มาก แต่ว่าก็ติดกฎระเบียบของ กกต. ที่ได้กำหนดบังคับไว้ เพราะฉะนั้นทุกคนก็เลยต้องปฏิบัติตามกฎ กติกาของ กกต. อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ประชาชน ผู้ประสบภัยก็ขาดนักการเมือง หรือผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทน จะไปลงพื้นที่ หรือตัวแทนพรรคการเมืองเข้าไปช่วยเหลือได้อีกมุมหนึ่งก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ นอกจากไปเยี่ยมเยียน ถ้าทำอะไรได้มากไปกว่านั้นก็จะถือว่าเป็นเรื่องดี ก็จะได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ” นายจุรินทร์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรต่อไปนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องอยู่ที่ กกต. ด้วย เพราะ กกต. ต้องไปพลิกกฎหมายดูว่าจะสามารถที่จะทำให้มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพเหมือนกัน ไปช่วยบรรเทาทุกข์ร่วมกับรัฐบาล หรือทำงานคู่ขนานไปกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้หรือไม่