จ่อดำเนินคดี “วัดเมตตาธรรม” เมืองกาญจน์ หลังพบสร้างรุกล้ำป่า-ไม้ในวัดส่อพิรุธ

ประเด็นคือ – ชุดพญาเสือ กรมอุทยาน สำนักงานพระพุทธศาสนา ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ พบยื่นขออนุญาตปลูกสร้างวัดถูกต้อง แต่พบอาคาร 2 หลัง สร้างรุกล้ำในเขตป่าฟื้นฟู เจ้าหน้าที่เตรียมร้องทุกข์ดำเนินคดี

วันที่ 13 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี นายสมศักดิ์ แป้นถนอม ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจ และ กอ.รมน. จังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบการขอนุญาตก่อสร้างวัด ในพื้นที่ ส.ป.ก. จำนวน 242 ไร่ ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่

หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจพญาเสือได้เข้าอายัดแผ่นไม้ภายในวัดจำนวนหลายพันแผ่น มูลค่านับพันล้านบาท เพื่อตรวจสอบว่าไม้ทั้งหมดเป็นไม้ที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน จึงจะทราบว่าไม้ทั้งหมดได้มาอย่างไร

แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ติดใจคือไม้ที่ทางวัดกล่าวอ้างว่า ไม้ทั้งหมดเป็นไม้เฟอร์นิเจอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน แต่จากการตรวจสอบพบว่า ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้แผ่น ไม่ใช่ไม้เฟอร์นิเจอร์ ไม้ที่พบมีทั้งไม้ประดู่ ตะเคียนทอง และกระบาก ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งที่หาได้ในประเทศไทย ดังนั้น จึงต้องตรวจสอบว่าเป็นไม้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องจริงหรือไม่

ส่วนการตรวสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ของวัด จำนวน 242 ไร่ เบื้องต้นข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และข้อมูลของปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ตรงกันว่าทางวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ได้ขอใช้พื้นที่จาก ส.ป.ก. เพื่อสร้างวัดจำนวน 242 ไร่ ถูกต้อง แต่มีอาคาร 2 หลัง ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ป่าฟื้นฟู ซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นที่ลาดชันและเป็นป่าอนุรักษ์ ที่ ส.ป.ก. ได้กันออกไม่ให้ใช้ประโยชน์

ดังนั้น กรมอุทยานฯ จึงเตรียมทำบันทึกและเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับทางวัดในข้อกล่าวหาเข้ายึดถือ ครอบครอง แผ้วถาง ก่นสร้าง ในพื้นที่ป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

ขณะเดียวกัน จากการสำรวจพื้นที่ภายในวัด นอกจากจะมีไม้ท่อนและไม้แผ่นจำนวนมาก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาทแล้ว ภายในวัดยังมีการสะสมเครื่องจักรขนาดใหญ่จำนวนมาก ทั้งแบ็กโฮ รถแทร็กเตอร์ เครื่องปั่นไฟ รวมทั้งรถเก่าอีกจำนวนมาก กรมอุทยานฯ จึงเตรียมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบว่าเส้นทางการเงินของวัดแห่งนี้ได้มาอย่างไร แผ่นไม้และเครื่องจักรกลขนาดใหญ่จำนวนมากมาอยู่ในวัดได้อย่างไร เข้าข่ายกระบวนการฟอกเงินอยู่เบื้องหลังหรือไม่