SHARE

คัดลอกแล้ว

ศ.ดร.พิรงรอง หนึ่งในคณะกรรมการ กสทช. ตั้งคำถามปมซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลโลกกว่า 1,600 ล้าน ย้ำ กสทช. ต้องคำนึงถึงความถูกต้องทางกฎหมาย และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ และ กสทช. จำเป็นที่จะต้องเร่งทบทวนผลดี ผลเสียของการบังคับใช้กฎ Must Have และ Must Carry ให้สอดคล้องกับบริบททางอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป 

ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โพสต์บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว จั่วหัวไว้อย่างน่าสนใจว่า “5 ประเด็นชวนคิด กรณีใช้เงินกองทุน กทปส. ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลโลก” ถึงกรณีที่วันนี้บอร์ด กสทช.จะประชุมเคาะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก ใช้เงินกองทุน กทปส.กว่า 1,600 ล้านบาท โดยระบุว่า ใกล้วันที่ศึกฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ในประเทศไทยยังไม่มีผู้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขัน นำไปสู่กระแสในสังคมที่กลัวว่าคนไทยอาจจะไม่มีโอกาสได้ชมการดวลแข้งระดับโลกในปีนี้

ขณะเดียวกันก็มีความคาดหวังจากฝ่ายการเมืองให้ กสทช. ใช้เงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) จำนวน 42.3 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.6 พันล้านบาท) เพื่อการนี้ นอกจากนี้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งวางตัวเป็นโต้โผจัดการสิทธิการถ่ายทอดและขอรับการสนับสนุนจาก กสทช. ก็ระบุว่า กฎ “Must Have” ของ กสทช. ทำให้เกิดความยากลำบากมากขึ้นในการต่อรองราคาค่าลิขสิทธิ์

ศ.ดร.พิรงรอง ระบุว่า ก่อนที่ กสทช. จะพิจารณาและตัดสินใจในกรณีดังกล่าว มี 5 ประเด็นที่สังคมควรได้รับทราบและพิจารณาถึงข้อเท็จจริงและผลกระทบที่จะมีต่อสาธารณะ สรุปสาระสำคัญบางส่วน คือ

ประเด็นที่ 1. กสทช. มีภารกิจตามกฎหมายในการสนับสนุนการแสวงหาเนื้อหาหรือซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเพื่อนำมาออกอากาศหรือไม่

ประเด็นที่ 2. กฎ Must Carry และ Must Have ของ กสทช. เป็นอุปสรรคต่อการซื้อลิขสิทธิ์บอลโลกหรือไม่ เพียงใด

ประเด็นที่ 3. การซื้อลิขสิทธิ์และถ่ายทอดสดรายการตามกฎ Must Have ที่ผ่านมาบริหารจัดการอย่างไร

ประเด็นที่ 4. หากใช้เงิน 1.6 พันล้านบาทจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกจะเกิดค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร?

ประเด็นที่ 5. หากไม่มีเอกชนซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก ใครควรเป็นผู้ดูแล และจะบริหารจัดการอย่างไร

ศ.ดร.พิรงรอง กำชับในตอนท้ายว่า กสทช. จำเป็นจะต้องคำนึงถึงความถูกต้องทางกฎหมาย ความเหมาะสมและคุ้มค่า รวมถึงการสนับสนุนกลไกตลาด การแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ตลอดจนการพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งในการนี้ กสทช. จำเป็นที่จะต้องเร่งทบทวนผลดี ผลเสียของการบังคับใช้กฎ Must Have และ Must Carry ให้สอดคล้องกับบริบททางอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อลดผลกระทบกับอุตสาหกรรมและสังคม

https://www.facebook.com/pirongrong.ramasoota/posts/pfbid0wymEErD5NqniSo3jqeXHYpx15y3zH2h96SWQH89ytnEJw18DUmewxQuith2XKrwfl

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า