SHARE

คัดลอกแล้ว

สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ผนึก 30 พันธมิตรเดินหน้าลดโลกร้อน สร้างการเปลี่ยนแปลงมิติใหม่วงการวัสดุก่อสร้าง ปูทางโลกยั่งยืน ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ลดก๊าซเรือนกระจก สู่เป้าหมายลดโลกร้อน ตามทิศทางระดับโลก COP 27 แสดงพลังความพร้อม สร้างความตระหนักรู้ ชูปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (ปูนลดโลกร้อน) พลิกโฉมใหม่ นำไทยสู่ “2024 Thailand’ s New Era of Low Carbon Cement: Hydraulic Cement

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ณ เวทีกลาง เพลนารี ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2565 สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ร่วมแสดงพลังขับเคลื่อนลดโลกร้อน…ลดก๊าซเรือนกระจก ด้วยปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ผ่านการนำเสนอนิทรรศการ พร้อมการเสวนา เรื่อง “2024 Thailand’s New Era of Low Cement: Hydraulic Cement>>> ผนึกกำลังพร้อมพลิกโฉมก่อสร้างไทย ด้วยปูนลดโลกร้อน ลดโลกร้อน ลดก๊าซเรือนกระจก”

นายชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าวว่า TCMA ร่วมขับเคลื่อนสู้วิกฤตโลกร้อน ในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2565 ชูแนวคิด “Together for Our World ผนึกกำลังขับเคลื่อนลดโลกร้อน…ลดก๊าซเรือนกระจก” เพราะปัญหาโลกร้อนนั้นรุนแรงและใกล้ตัวกว่าที่ทุกคนคิด ทั้งภัยพิบัติรุนแรง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็น ฝนตก น้ำท่วม ฝนแล้ง ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบ และส่งผลต่อผู้คนที่อยู่อาศัยในโลกใบนี้ ทุกภาคส่วนจึงต้องมีความตระหนักถึงสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น ทำอย่างไรที่จะทำให้การดำเนินการในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ส่งผลกระทบทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น โดยมีเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ภายในสิ้นศตวรรษนี้

ทั้งนี้ ทางออกของปัญหาที่ผ่านการพัฒนาและวิจัย ที่ทำให้เกิดความยั่งยืน คือ “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต ลดการเผาหินปูนซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์และนวัตกรรมเข้ามาใช้ ทำให้ “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” ช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก โดยยังคงคุณลักษณะตามมาตรฐาน นำไปสู่การวางมาตรฐานวิศวกรรมงานก่อสร้างให้นำมาใช้แทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ในทุกประเภทงานก่อสร้าง

นับเป็นมิติใหม่ที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รวมตัวกันเป็นหนึ่ง และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันผลักดันการลดโลกร้อน แสวงหาร่วมมือและลงมือทำอย่างจริงจัง ทั้งภาควิชาชีพที่สนับสนุนการรับรองมาตรฐาน ด้านภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้ผลิตที่ต้นกำเนิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้านภาคการศึกษาสนับสนุนการวิจัยรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยลดโลกร้อน ภาคประชาชนร่วมมือกันใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และภาครัฐเป็นผู้กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ นำร่องให้หน่วยงานในสังกัดเริ่มใช้ “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” ในโครงการก่อสร้างต่างๆ จึงนำไปสู่ความสำเร็จแรกในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 3 แสนตัน CO2 เมื่อปี พ.ศ. 2564 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมาย NDC Roadmap ถึง 9 ปี

ความก้าวหน้าในการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมผลตอบรับที่สำเร็จเร็วเกินคาด ทำให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการดำเนินการสอดคล้องกับทิศทางของโลก ไปสู่ Net Zero 2050 นอกจากนี้ มีการสร้างกลไกความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความสำเร็จร่วมกัน มีการกำหนดมาตรฐาน กระบวนการนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มาใช้ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนขึ้น จึงขยายความร่วมมือและตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกไซด์ให้ได้อีก 1 ล้านตัน CO2 ในปี พ.ศ. 2566 เทียบเท่าไม้พื้นเมือง 110 ล้านต้นในการดูดซับ CO2

“TCMA ได้เข้าไปประสานงานกับภาคส่วนต่างๆ เดิมเมื่อแรกเริ่ม 16 หน่วยงาน  5 กระทรวง เข้ามาร่วมมือกันตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับบริหาร ผู้อำนวยการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันขับเคลื่อนดำเนินการตามนโยบายมาตรการทดแทนปูนเม็ด เปลี่ยนมาใช้ “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ นำไปสู่การขยายผล ปัจจุบันภาคีร่วมดำเนินการเพิ่มเป็น 31 หน่วยงาน โดยการสนับสนุนของ 6 กระทรวง สามารถสร้างมาตรฐาน กฎระเบียบที่ซับซ้อนให้ขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์จากความร่วมมือกันอย่างบูรณาการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”

นายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอความท้าทายจากบริบทโลก สู่นโยบายของประเทศไทย วิกฤติโลกร้อนนั้นใกล้ตัวและส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด ภารกิจสำคัญภายหลังการประชุม COP 26 ที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเจตนารมณ์นำไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) และตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) คือ การปรับปรุงแก้ไขอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบสูงที่สุด คือ ภาคพลังงานและการขนส่ง ควบคู่กับสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ คือ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตร สิ่งที่ TCMA  ได้ดำเนินการนี้ นับเป็นผู้นำและตัวอย่างในการแสวงหาความร่วมมือเป็นการทำงานในเชิงรุก การสร้างความเข้าใจ การนำร่องนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท รวมถึงผลักดันให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีส่วนช่วยให้ภาครัฐขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ สผ.หน่วยงานเดียวไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ต้องมีทุกภาคส่วน ภาคประชาชน เอกชน รัฐ วิชาการ ต้องมีส่วนร่วมมือกัน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กำหนดมาตรฐาน นโยบาย กฎระเบียบและกฎหมาย ผู้ผลิต และผู้ใช้งาน เพื่อลูกหลานในอนาคต”

นายกิติพงศ์ อติชาติพงศ์กุล นักวิชาการมาตรฐานชำนาญการพิเศษ กองกำหนดมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม อธิบายถึงบทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรม และ สมอ. ในการกำหนด มอก. ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ว่า ในปัจจุบันทิศทางอุตสาหกรรมมุ่งเน้นที่กระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) การผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ คือ มอก. 2594 -2556 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐาน ASTM C1157 นอกจากนี้ สมอ. ได้ดำเนินการให้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มอก. 2594 -2556 สามารถใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตประเภทต่างๆ ปัจจุบันใช้ได้แล้วกว่า 21 ผลิตภัณฑ์คอนกรีต รวมถึงคอนกรีตผสมเสร็จ และยังมีอีก 33 มาตรฐานคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ศาสตราจารย์ ดร. สมนึก ตั้งเติมสิริกุล หัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีก่อสร้างและบำรุงรักษา สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร กล่าวว่า ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์มีการเผาไหม้ในอุณหภูมิที่สูงจึงมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา การผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมีกระบวนการผลิตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่คุณภาพของปูนซีเมนต์ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ในทางกลับกัน จะดีขึ้นในบางมิติของการใช้งานอีกด้วย ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ปูนซีเมนต์อยู่ที่ 20-30 ล้านตันต่อปี หากโครงการก่อสร้างต่างๆ เปลี่ยนมาใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้หลายแสนตันต่อปีภาคการศึกษาต้องช่วยกันสนับสนุนสร้างความรู้ความเข้าใจ การสร้างความมั่นใจในการนำไปใช้งาน รวมถึงการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ลดโลกร้อนชนิดใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาให้อุตสาหกรรรมก่อสร้างได้มีบาทบาทในการช่วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน

รองศาสตราจารย์ ดร. สมิตร ส่งพิริยะกิจ ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวถึงบทบาทของ วสท.ในการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก โดยการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานวิศวกรรมงานก่อสร้าง วสท. 011014-19 และส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม โดยสะท้อนภาพว่า ที่ผ่านมาการสร้างการเปลี่ยนแปลงจะถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการของผู้บริโภคแต่การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้เพื่อลดโลกร้อน เป็นการขับเคลื่อนที่มาจากผู้ผลิต นับเป็นผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง เข้าไปหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาควิชาชีพ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการศึกษา วสท. จึงยินดีให้การสนับสนุนส่งเสริมการใช้งานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเพื่อช่วยให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ดร.ธนิต ใจสอาด หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาอาคาร สำนักควบคุมและตรวจสอบอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในฐานะเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนโยบายขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน  Change for Good กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการแก้ไขมาตรฐานวิศวกรรมงานก่อสร้าง มยผ.1101-64 ถึง 1106-64 และลงนามความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการใช้งานของหน่วยงานราชการของกระทรวงมหาดไทยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งนำร่องนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกไปใช้ในการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงการส่งเสริมการใช้ไปยังโครงการอื่นๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทยให้มากขึ้น ทั้งนี้ มีการตั้งคณะทำงานเข้าไปติดตามการนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกมาใช้ในการก่อสร้าง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 เป็นต้นไป

นายชนะ นายก TCMA กล่าวย้ำว่า  ความสำเร็จและความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงมาใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกนี้ มาจากความร่วมมือสนับสนุนของทุกภาคส่วน นับเป็นต้นแบบของการสร้างกระบวนการขับเคลื่อนการลดอุณหภูมิโลกอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นความภูมิใจของเราทุกคน ที่จะช่วยกันปลูกจิตสำนึกคนในประเทศในทุกภาคส่วน ให้เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือส่งผลกระทบต่อการเกิดโลกร้อนให้น้อยที่สุด ไม่เพียงแต่การเลือกใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกเท่านั้น แต่ขยายรวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ TCMA ได้ทำงานร่วมกับ GCCA (Global Cement and Concrete Association) องค์กรชั้นนำด้านซีเมนต์และคอนกรีต และได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมประชุม COP 27 ที่ประเทศอียิปต์ โดยจะนำวิธีการทำงานนี้ไปแลกเปลี่ยนกับสมาชิก GCCA และประเทศต่างๆ ที่เข้าประชุม COP 27 เพื่อแสวงหาความร่วมมือ ทั้งด้านเทคโนโลยี แหล่งทุน และอื่นๆ มาสู่ประเทศไทยในการร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุตามเป้าหมายต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า