SHARE

คัดลอกแล้ว

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกแถลงการณ์ร่วม ภายหลังการหารือที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันเสาร์ (19 พ.ย.) เห็นพ้องสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกัน อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

สำนักข่าวซินหัว สื่อของรัฐบาลจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สนทนากับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ณ กรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. โดยทั้งสองฝ่ายบรรลุฉันทามติว่าด้วยการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกัน

รายงานระบุว่า คณะผู้นำของสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการปฏิบัติงานเพื่อมุ่งสู่ประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกัน มีเนื้อหาดังนี้

1. สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ในกรุงเทพฯ และเยือนไทยระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย. 2565 ตามคำเชิญของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้หารือกับนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ณ ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 พ.ย. 2565 ซึ่งทั้งสองฝ่ายบรรลุฉันทามติสำคัญฉบับใหม่ว่าด้วยการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น รวมถึงหารือการพัฒนาของความสัมพันธ์ทวิภาคีในปัจจุบันและอนาคต

2. จีนแสดงความยินดีกับไทยที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ซึ่งสะท้อนความพยายามร่วมกันของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการผลักดันวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 (Putrajaya Vision 2040) แห่งประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีพลวัต ยืดหยุ่น และสงบสุข ผ่านความสามัคคีและความร่วมมือเพิ่มขึ้น ด้านไทยแสดงความยินดีกับจีนที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 ประสบความสำเร็จลุล่วง และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่แห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (CMC) อีกครั้ง รวมถึงแสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษประการที่สองของการสร้างจีนเป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อันยิ่งใหญ่ในทุกด้าน และเดินหน้าการฟื้นฟูชาติจีนอย่างรอบด้านผ่านวิถีการสร้างความทันสมัยแบบจีน

3. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าเนื่องในวาระครบรอบ 10 ปี การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-ไทย การประกาศการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น จะกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์ในอนาคต และเน้นย้ำว่า “จีนและไทยมีความใกล้ชิดดังครอบครัวเดียวกัน” ขณะทั้งสองประเทศเตรียมรับรองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย ในปี 2568

4. ทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นขยับขยายความไว้วางใจ ความเข้าใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นสำคัญต่างๆ ของหลักการเกี่ยวกับอธิปไตยของชาติ การรวมชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดน โดยฝ่ายจีนเคารพเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขณะฝ่ายไทยยึดมั่นนโยบายจีนเดียวอย่างแน่วแน่ และถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่มิอาจแบ่งแยก รวมถึงรับรองว่ารัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลตามกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นตัวแทนของทั้งจีน โดยฝ่ายไทยสนับสนุนหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีน

5. ทั้งสองฝ่ายยกย่องชมเชยความก้าวหน้าของความร่วมมือเชิงปฏิบัติในทุกด้านของความสัมพันธ์จีน-ไทย แม้เผชิญความท้าทายจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งพิสูจน์ได้จากการแลกเปลี่ยนระดับสูงและการจัดการประชุมภายใต้กลไกความร่วมมือทวิภาคีอันหลากหลาย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องการเสริมสร้างการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์และเน้นย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์จีน-ไทย ระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย (2565-2569) และแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการร่วมส่งเสริมแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยมุมมองของการเดินหน้าความร่วมมือเชิงปฏิบัติในทุกด้านและการสนับสนุนการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

6. ทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นบรรลุแผนระเบียงการพัฒนาการเชื่อมต่อจีน-ไทย-ลาว ที่เชื่อมต่อทางรถไฟจีน-ลาว เข้ากับระบบรางของไทย ซึ่งจะขยับขยายเครือข่ายโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน ตลอดจนการพัฒนาระดับอนุภูมิภาค ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการประสานงานระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย และเขตเศรษฐกิจกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA) รวมถึงเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (YRD) ของจีน โดยเฉพาะความร่วมมือทางอุตสาหกรรมในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงอย่างยานยนต์ไฟฟ้า

7. ทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นร่วมมือด้านการฟื้นฟูสังคมและเศรษฐกิจในยุคหลังโรคโควิด-19 การบรรเทาผลกระทบจากภาวะขาลงของเศรษฐกิจโลกและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการรักษาความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ผ่านการขยับขยายปริมาณการค้าทวิภาคีและการอำนวยความสะดวกทางการค้า ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์การเกษตรและอื่นๆ ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการขยับขยายความร่วมมือด้านต่างๆ อันสนับสนุนการพัฒนาในอนาคต เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องการขยับขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ เศรษฐกิจสีเขียวและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อบรรลุการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง

8. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติอันดีและประสบการณ์การบริหารประเทศในด้านที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น สุขภาพ การบรรเทาความยากจน และการพัฒนาชนบท และเสริมสร้างความร่วมมือของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการลักลอบค้ายาเสพติด การพนันออนไลน์ และการหลอกลวงฉ้อโกงทางโทรศัพท์

9. ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสำคัญของการขยับขยายการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนเพื่อส่งเสริมไมตรี มิตรภาพ และความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม โดยทั้งสองฝ่ายแสดงความพึงพอใจต่อการกลับมาบริการเที่ยวบินระหว่างประเทศระหว่างจีนและไทย ขณะฝ่ายไทยเฝ้ารอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนตามการผ่อนปรนมาตรการการเดินทางในจีน และขอบคุณฝ่ายจีนที่อนุญาตนักเรียนนักศึกษาไทยทยอยเดินทางเข้าจีนเพื่อศึกษาเล่าเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูงและขยับขยายความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม สื่อและสารสนเทศ รวมถึงความร่วมมือระหว่างเมืองพี่เมืองน้องอย่างสอดคล้องกับหลักการของความเท่าเทียม การมีผลประโยชน์ร่วมกัน และความยั่งยืน

10. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคและส่งเสริมการประสานงานระหว่างยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) และกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (LMC) ด้วยมุมมองของการส่งเสริมการบูรณาการระดับอนุภูมิภาค การส่งเสริมการเชื่อมต่อ การค้าและการลงทุน ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือด้านสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน ทรัพยากรน้ำ และการสร้างความเป็นดิจิทัล ซึ่งไทยยืนยันความพร้อมของการเป็นประธานร่วมของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ในสมัยหน้า

11. ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามฉันทามติที่บรรลุ ณ การประชุมสุดยอดจีน-อาเซียน สมัยพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน ตลอดจนยึดมั่นภูมิภาคนิยม และร่วมรักษาความเป็นกลางของอาเซียนในโครงสร้างระดับภูมิภาคที่มีการเปลี่ยนแปลง และเดินหน้าการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-อาเซียน ผ่านการสร้างบ้านที่สงบสุข ปลอดภัยและมั่นคง มั่งคั่ง สวยงาม และรักใคร่ปรองดองกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) และมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (AOIP) และรับรองการปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) อย่างมีคุณภาพ

12. ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญยิ่งยวดกับการเสริมสร้างความร่วมมือภายใต้แผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) เพื่อเร่งแนวทางการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2030 โดยจีนยกย่องชมเชยเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ที่ไทยนำเสนอ และพร้อมแสวงหาการเติบโตที่สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม ร่วมกับไทยโดยอ้างอิงปรัชญาการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

13. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าจีนและไทยแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมวงกว้างในหลายด้านเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพระดับภูมิภาคและระดับโลก และจะบุกเบิกความร่วมมือภายใต้กรอบการทำงานของแผนริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (GSI) รวมถึงรักษาการสื่อสารและการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือผลกระทบจากความท้าทายด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ อาทิ การก่อการร้าย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงทางไซเบอร์

14. ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินความพยายามร่วมกันเพื่อส่งเสริมลัทธิพหุภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกระดับผ่านการเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือภายใต้กรอบการทำงานของสหประชาชาติและกลไกพหุภาคีอื่นๆ ด้วยมุมมองของการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง ความมั่งคั่ง และการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน รวมถึงการรับมือภัยคุกคามและความท้าทายใหม่

15. มีการลงนามเอกสารความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การลงทุน อีคอมเมิร์ซ และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างการเดินทางเยือนครั้งนี้

 

ที่มา https://www.xinhuathai.com/high/321273_20221120

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า