SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปดราม่า ‘อีซึงกิ’ โดนต้นสังกัดโกงรายได้ 18 ปี ไม่ได้เงินจากการทำเพลงเลยสักบาท

ภาพจาก : IG : Hook Entertainment

เป็นข่าวใหญ่ เมื่อ อีซึงกิ ศิลปินนักแสดงผู้มีความสามารถรอบด้าน ออกมาดำเนินการทางกฏหมายกับ Hook Entertainment ต้นสังกัดที่เขาร่วมงานมาตลอด 18 ปี ตั้งแต่เดบิวต์เพื่อให้เปิดเผยเอกสารทางบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเขา หลังจากที่ทราบมาว่าทางต้นสังกัดอาจจะปกปิดรายได้จากผลงานเพลงของเขาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งทำให้เขาไม่เคยได้ส่วนแบ่งรายได้จากงานเพลงเลยแม้แต่น้อยตลอดเวลาที่ผ่านมา 

นักร้องอีซึงกิกับ Hook Entertainment

  • ถึงแม้ทุกวันนี้สำหรับคนส่วนใหญ่ อีซึงกิจะเป็นที่รู้จักในประเทศไทยในฐานะนักแสดง แต่ผลงานแรกในวงการของเขาคือการเป็นนักร้อง
  • ตั้งแต่ปี 2004 อีซึงกิได้ปล่อยอัลบั้มแรก The Dream of A Moth และในปีเดียวกันเขาก็เริ่มมีชื่อเสียงจากเพลงฮิตที่ยังคงถูกเปิดอยู่จนถึงทุกวันนี้อย่าง Because You’re My Girl และผลงานเพลงที่ปล่อยออกมาหลังจากนั้นอย่าง Delete ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
  • อีซึงกิได้รับรางวัล Rookie of the Year จาก Seoul Music Awards, SBS Gayo Daejeon และ MBC Gayo Daejejeon
  • รางานจาก Koreaboo เผยว่าอัลบั้มเต็มของอีซึงกิที่ถูกวางขายในปี 2004, 2006 และ 2007 ทำยอดขายไปไม่น้อยกว่า 100,000 ชุด นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในดาวน์โหลดริงโทน และใช้เป็นเพลงแบ็คกราวน์ในหน้า Cyworld ในตอนนั้น 
  • แต่อีซึงกิที่เป็นเจ้าของผลงานกลับไม่เคยได้รับรายได้ที่เกี่ยวข้องกับผลงานเพลงเลย โดย Hook Entertainment เป็นผู้รับรายได้จากผลงาน 137 เพลงของเขาทั้งหมด 
  • PSY ศิลปินชื่อดังผู้เขียนเพลงให้กับอีซึงกิเคยเผยในรายการ Radio Star ว่าหนึ่งในเพลงที่ทำรายได้ให้กับเขามากที่สุดคือเพลง Because You’re My Girl ที่เขาโปรดิวซ์ให้กับอีซึงกิ

ภาพจาก : IG : byhumanmade

ทุกอย่างเริ่มต้นจากการส่งข้อความผิด 

  • ตลอดเวลาที่ผ่านมาอีซึงกิคิดว่าเขาเป็น ‘นักร้องติดลบ’ หรือนักร้องที่ขาดทุนจากการทำเพลง แต่ข้อสงสัยว่า Hook Entertianment กำลังปกปิดรายได้ของเขาเกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับข้อความหนึ่งในวันที่ 29 มกราคม โดยข้อความระบุว่า

‘The Ordinary Man digital sales: 63.8 ล้านวอน
The Project – อัลบั้มชุดที่ 7 ของอีซึงกิ: ₩170 ล้านวอน
ทั้งหมด: 234 ล้านวอน
ค่าผลิต 200 ล้านวอน
ส่วนต่าง 33.6 ล้านวอน
ใบกำกับภาษีจะออกเดือนนี้และนำฝากในเดือนถัดไป’

  • ในตอนแรก อีซึงกิก็รู้สึกดีใจว่าเขาไม่ใช่นักร้องติดลบอีกต่อไป และเขาก็เริ่มมีรายได้จากงานเพลงแล้ว เขาแชร์ข้อความนี้ให้กับนักดนตรีรุ่นพี่ ทำให้เขาได้รู้ว่าเขาเข้าใจผิดมาตลอด ซึ่งบทสนทนาทำให้เขาได้รู้ว่าที่จริงแล้วเพลงของเขาทำรายได้มาตลอดแต่บริษัทไม่เคยจ่ายเงินให้เขา
  • เดิมทีในสัญญาฉบับแรกที่ทำขึ้นในปี อีซึงกิจะได้รับกำไร 40% จากยอดขาย และในปี 2009 ก็ปรับใหม่เป็น 60% และ 70% ในปี 2017 แต่การบริหารต้นทุนของ Hook Entertainment ทำให้เขาไม่เคยได้รายได้จากผลงานเพลงเลย ในตอนแรกอีซึงกิเป็นผู้รับผิดชอบค่าเอเจนซี่และค่าผลิตผลงานที่ต้นสังกัดควรจะจัดการ ปรกติแล้วศิลปินมีชื่อย่างอีซึงกิควรจะแบ่งกำไรและค่าใช้จ่ายกับเอเจนซี่ในสัดส่วน 80/20 แต่ Hook Entertainment ยื่นข้อเสนอว่าเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ขอให้สัดส่วนกำไรเป็น 70/30 ซึ่งอีซึงกิเข้าใจมาตลอดว่าผลงานของเขาไม่ทำกำไร

Dispatch เปิดเผยข้อมูลรายได้ที่หายไปของอีซึงกิและการเจรจา

  • ในรายงานของ Dispatch เผยว่าแค่เพียงอัลบั้มชุดที่ 6 ของเขาก็ทำรายได้กว่า 1.05 พันล้านวอน ซึ่งหักลบค่าใช้จ่าย 884 ล้านวอนแล้วก็ยังคงได้กำไรมากกว่า 100 ล้านวอน แต่อีซึงกิกลับไม่ได้ส่วนแบ่งที่เขาควรได้รับแม้แต่น้อย
  • และจากข้อมูลที่ Dispatch ได้รับจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทำหน้าที่เผยแพร่เพลงของอีซึงกี ตั้งแต่ปี 2006-2022 ผลงานของอีซึงกิทำรายได้มากกว่า 9.656 พันล้านวอน และเงินจำนวนเดียวกันนี้ถูกบันทึกอยู่ในในบัญชีบริษัท Hook Entertainment 
  • อย่างไรก็ตามเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรายได้ผลงานเพลงของอีซึงกิระหว่าช่วง 2004-2009 นั้นสูญหาย ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบทั้งค่าใช้จ่ายและรายได้ทั้งหมดจากงานเพลงในช่วงนั้นได้ 

แต่คาดว่าหากรวมรายได้ของปีที่บัญชีหายไปตัวเลขอาจจะสูงถึงหมื่นล้านวอน 

  • เพื่อนของอีซึงกิได้ให้ข่าวกับ Dispatch ว่าก่อนหน้านี้อีซึงกิได้พยายามเจรจากับผู้บริหาร Hook Entertainment เพื่อขอให้ชี้แจงข้อมูลในเดือน มิถุนายน สิงหา และพฤษจิกายน แต่คำตอบที่ได้มีแต่การพูดว่าเขาเป็นนักร้องติดลบ ถามเขากลับว่ารู้ไหมว่าค่าทำอัลบั้มและซื้อของไปเพื่อฝากผลงานกับสื่อมันแพงแค่ไหน โบ้ยว่าพนักงานคนอื่นไม่รวบรวมเอกสารมาให้สักที และตลอดเวลาที่ผ่านมาต้นสังกัดบอกกับเขาว่าแฟน ๆ ไม่ซื้ออัลบั้มของเขา  
  • นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยแชตระหว่างผู้จัดการของอีซึงกิกับ CEO ควอนจินยอง ที่มีการรายงานค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารราคาประมาณหกร้อยและพันสามร้อยกว่าบาทจากฝั่งผู้จัดการ และเตือนครั้งสุดท้ายให้ผู้จัดการควบคุมค่าใช้จ่ายของอีซึงกิให้น้อยลงจากฝั่ง CEO โดยระบุว่าให้ซึงกิจ่ายค่าอาหารเอง และถ้าการ์ดเต็มก็ไม่ให้รูดเพิ่ม

ภาพจาก : IG : Hook Entertainment

การบุกค้นและแถลงจากทั้งสองฝ่าย 

  • ในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีข่าวว่ากองบังคับการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการบุกค้นอาคารสำนักงานของ Hook Entertainment เป็นเวลา 5 ชั่วโมง โดยหลายสื่อตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีของอดีตแฟนหนุ่มของ พัคมินยอง ดาราสาวในสังกัดเดียวกัน ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าคังจงฮยอนเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหลายอย่างและมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับ Hook Entertainment แต่ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ก็มีรายงานว่าการบุกค้นนั้นเกิดขึ้นเพราะมีข้อสงสัยว่ามีการยักยอกเงินโดยผู้บริหารบางคน 
  • ต่อมาก็มีรายงานว่าอีซึงกิก็ได้เรียกร้องให้มีการเรียกร้องให้ทางต้นสังกัดออกมาเปิดเผยเอกสารทางบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเขาและหาไม่ได้รับคำอธิบายที่สมเหตุสมผลจะดำเนินการยกเลิกสัญญาต่อไป
  • Hook Entertainment ก็แถลงว่ารับทราบข้อเรียกร้องและกำลังดำเนินการ รวมถึงแก้ไขปัญหาโดยระวังไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่าทั้งสองฝ่ายอยู่ และขอโทษที่ไม่ได้ชี้แจงเรื่องปัญหาใด ๆ ที่ถูกรายงานตามสื่อในช่วงก่อนหน้านี้ และจะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นนี้เมื่อทุกอย่างคลี่ลายลงแล้ว

ข้อสงสัยเรื่องข่าวเดทของอีซึงกิ และ Hook Entetianment ที่เกิดขึ้นเมื่อเขาก่อตั้งต้นสังกัดของตัวเอง

  • มีรายงานจาก kpoppost.com ที่ตั้งข้อสังเกตเรื่องปัญหาระหว่างอีซึงกิและ Hook Entertianment ที่ก่อตัวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้
  • ในปี 2021 มีข่าวว่าอีซึงกิสิ้นสุดสัญญากับบริษัท Hook Entertianment ต้นสังกัดเดิมเพื่อก่อตั้ง Human Made ต้นสังกัดของตัวเองหลังจากที่เซ็นสัญญากับสังกัดเดิม มานานกว่าา 17 ปี 
  • แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็มีข่าวเรื่องที่เขากำลังคบหาดูใจกับอีดาอินหลุดออกมา และอีซึงกิก็ออกมายอมรับความสัมพันธ์ แต่ก็ทำมีกระแสด้านลบเมื่อมีแฟน ๆ หลายคนที่ไม่พอใจ เนื่องจากมีข่าวลือเรื่องพ่อเลี้ยงของอีดาอินที่ทำให้หลายคนคิดว่าความสัมพันธ์นี้ไม่เหมาะสม
  • กระแสที่ค่อนข้างแรงอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เพียง 20 วันหลังจากที่อยู่ใต้การบริหารงานขอเอเจนซี่ตัวเอง อีซึงกิก็ตัดสินใจกลับไปเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Hook Entertainment อีกครั้ง โดยให้ต้นสังกัดเดิมคอยสนับสนุนการบริหารงานของบริษัทใหม่ และเมื่อข่าวล่าสุดนี้ออกมาก็ทำให้มีหลายคนสงสัยว่าทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

บทความของ Dispatch เปิดเผยข้อความที่อีซึงกิได้ส่งไปหา CEO ของ Hook ในวันที่ 17 พฤษจิกายนที่ผ่านมาหลังจากรออย่างอดทนอย่างยาวนาน 

“ผมได้ยินจากผู้จัดการคิม ว่า CEO ควอนจินยองโกรธมากที่ผมส่งหลักฐานที่เกี่ยวกับงานเพลงและพูดว่าจะเสี่ยงเอาชื่อและชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อฆ่าผมให้ได้ แต่คุณกล้าขู่แบบนี้ได้ยังไง 

มันน่าเสียใจที่ ผม คนอายุ 37 ที่ทำงานหนักมาตลอดต้องมาถูกข่มขู่และด่าทอเหมือนกับว่าผมเป็นนักเรียนม.ปลายอายุ 18 ต่อไปนี้ผมอยากจะคุยกับคุณผ่านทนาย ขอบคุณที่เข้าใจ ผู้จัดการคิมทำงานหนักเพื่อ Hook มาตลอด ผมก็เช่นกัน แต่มันไม่โอเคที่คุณทำกับผู้จัดการคิมทำแบบนั้น 

อีซึงกิ พ่อแม่ของอีซึงกิ ผู้จัดการของอีซึงกิ คนรู้จักของอีซึงกิ ตัวแทนควอนจินยองเมินเฉยต่อพวกเขามาตลอดชีวิตของเขา ผมต้องรวบรวมความกล้าเพื่อที่คนของผมจะไม่ถูกมองข้ามอีกต่อไป ถ้าผมจะเป็นดาราต่อไม่ได้ เพราะความและคำขู่เหล่านี้ก็ถือว่านี่คือชะตาของผม ผมไม่อยากให้เรื่องมันเลวร้ายไปมากกว่านี้ โปรดติดต่อผมผ่านทนายนับแต่นี้เป็นต้นไป”

และล่าสุด ควอนจินยอง ผู้บริหารของ Hook Entertainment ก็ได้ออกมาขอโทษและกล่าวว่าเธอรู้สึกละอายกับข่าวที่ออกมาด้านแฟน ๆ ของอีซึงกิก็มีการออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ โดยส่วนใหญ่ต่างก็โกรธแค้นและเสียใจแทนอีซึงกิกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และหลายคนต่างก็นำภาพจากรายการต่าง ๆ ที่เขาเคยไปออกที่เขาพูดเรื่องการที่ในช่วงต้นของอาชีพเขานั้นเขาไม่ได้รับคำชมจากคนรอบข้างเลยทั้งที่เขาประสบความสำเร็จในอาชีพเป็นอย่างดี และทำให้เขาเป็นคนที่โหยหาคำชมและคิดว่าตัวเองนั้นไม่ดีพออยู่ตลอดเวลา แฟน ๆ ต่างก็พูดว่าเรื่องนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจคำพูดของซึงกิในตอนนั้นอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และต่างก็ให้กำลังใจเขาอย่างท่วมท้น 

จากนี้ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอีซึงกิ และ Hook Entertianment หลังจากที่อีซึงกิได้ตัดสินใจเริ่มดำเนินการกับบริษัท โดยรายงานจาก Dispatch เผยว่าอีซึงกิได้พูดกับอดีตเพื่อนร่วมงานของเขาว่าเขาตัดสินใจจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องคนของเขาที่ถูกมองข้ามและหากคำขู่ของ CEO เป็นจริงและเรื่องนี้จะทำให้เขาเป็นศิลปินต่อไปไม่ได้มันก็ถือว่าเป็นโชคชะตาของเขาแล้ว และจากนี้ทุกอย่างจะถูกเจรจาผ่านทนายของเขาเท่านั้น ส่วน Hook Entertianment ก็ต้องเผชิญกับมรสุมใหญ่อีกลูก หลังจากก่อนหน้านี้ต้องเผชิญกับข่าวของคังจงฮยอนที่สั่นคลอนความน่าเชื่อถือของบริษัท และข่าวนักแสดงอาวุสโสยุนยอจอง ดาราเกาหลีผู้โด่งดังระดับโลกอย่างจะย้ายสังกัดอีกด้วย แม้ว่าทางบริษัทจะออกมาปฏิเสธโดยชี้แจงว่ายุนยอจองยังคงมีสัญญาอยู่กับทางบริษัทก็ตาม 

 

อ้างอิง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า