นอกจากการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากการชาร์จและเก็บไว้ในแบตเตอรี่ เดี๋ยวนี้ทั้งประเทศต่างๆ รวมถึงค่ายรถยนต์ที่ผลิตรถ EV ต่างก็พยายามหาวิธีให้รถรับพลังงานไฟฟ้าจากที่อื่นในขณะที่วิ่งไปได้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นหลังคารถติดแผงโซลาร์เซลล์, ถนนที่ปล่อยไฟฟ้าออกมา ทำให้ชาร์จรถ EV ไปด้วยได้
และล่าสุดกับค่ายรถเยอรมันอย่าง BMW ที่เพิ่งไปจดสิทธิบัตรการออกแบบระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้จากการที่ล้อรถเคลื่อนที่เป็นแนวตั้งด้วยการกระแทกกับพื้นผิวถนน
เรียกได้ว่านี่น่าจะเป็นวิธีใหม่ล่าสุดในการชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าผ่านการขับขี่ในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอผิวถนนที่ไม่เรียบ ไม่ว่าจะเป็นลูกระนาดชะลอความเร็ว ไปจนถึงหลุมบ่อบนผิวถนน ซึ่งเอาจริงๆ ในพวกเราหลายคนก็แทบสิ่งเหล่านี้ได้เกือบตลอดเวลา
ถามว่านวัตกรรมดังกล่าวทำงานยังไง ถ้าแปลตามเอกสารการจดสิทธิบัตรก็จะพบว่า โดยปกติแล้วเวลาที่ล้อรถและรถเคลื่อนที่ขึ้นลงหรือแม้แต่บิดไปบนถนน จะเกิดพลังงานจากระบบกันสะเทือนขึ้น ซึ่งพลังงานเหล่านี้โดยทั่วไปจะสูญเสียไปในรูปแบบพลังงานความร้อน
แต่นวัตกรรมของ BMW ที่ว่าจะประกอบไปด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก, ล้อตุนกำลัง (Flywheel) และคลัตช์ในระบบกันสะเทือน ซึ่งจะทำหน้าที่จับพลังงานระหว่างที่นี้
เมื่อล้อรถเคลื่อนที่ขึ้นลงจากการกระแทก เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะทำงาน และพลังงานที่ได้ก็จะถูกนำไปใช้ชาร์จแบตเตอรี่ EV หรือแบตเตอรี่รถยนต์ 12V ทั่วไป
โดยคาดว่านวัตกรรมนี้น่าจะปรากฏอยู่ในรถรุ่นเรือธงของ BMW ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ารุ่นใดรุ่นหนึ่ง คาดการณ์ว่าน่าจะได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ในรถรุ่นเรือธงอย่าง BMW i7 ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่า มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนกว่า และมีราคาแพงกว่า ซึ่งเหมาะที่จะใส่นวัตกรรมใหม่อันนี้เข้าไป
โฆษกของ BMW ไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นในทันทีว่า ท้ายที่สุดแล้วจะนำระบบอันเป็นเอกลักษณ์นี้มาผลิตใช้จริงหรือไม่ แต่น่าสังเกตว่าบริษัทรถยนต์ยื่นจดสิทธิบัตรตลอดเวลา และไม่ใช่ทุกรายการจะกลายเป็นสิ่งที่ทำได้จริง
แม้ว่าสิทธิบัตรของ BMW นี้จะจดทะเบียนในเดือนพฤษภาคม 2021 และเผยแพร่ทางออนไลน์ในปลายเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ แต่แนวคิดในการเปลี่ยนพลังงานจลน์จากการกระแทกบนถนนเป็นพลังงานไฟฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องใหม่
ย้อนกลับไปในปี 2016 Audi คู่แข่งจากเยอรมัน ประกาศว่ากำลังพัฒนา “eROT” หรือระบบที่แปลงพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นระหว่างการบีบอัดช่วงล่างของรถให้เป็นไฟฟ้า แล้วชาร์จกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ 48V ในรถยนต์ Audi ที่ใช้ระบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริด
แต่ถึงอย่างนั้น ระบบ eROT ก็ไม่เคยนำมาใช้งานจริง และไม่ชัดเจนว่าตอนนี้ Audi ยังพัฒนาต่ออยู่หรือไม่
อ้างอิง
https://www.theverge.com/2022/12/7/23497032/bmw-suspension-speed-bump-energy-patent
https://carbuzz.com/news/new-bmw-suspension-turns-speed-bumps-into-electricity-for-electric-cars