อัยการสูงสุดตั้งคณะกรรมการทำพิจารณาคดี ‘ตู้ห่าว’ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ เร่งรัดการสำนวนเสนอให้ทันในกรอบฝากขังผู้ต้องหา ให้ ผบ.ตร.เป็นที่ปรึกษา
น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดลงนามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2167/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานกำกับการสอบสวนและการดำเนินคดีสำคัญ ตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินคดีอาญากับ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว กับพวก ผู้ต้องหาในสำนวนคดีอาญา ที่ 794/2565 และ ที่ 824/2565 ของ สน.ยานนาวา
ความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาอี, เฮโรอีน) อันเป็นการมีไว้จำหน่ายเพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 อันเป็นการมีไว้จำหน่ายเพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและยินยอม หรือปล่อยปละให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในสถานบริการ และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
กลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีการตรวจยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาได้จำนวนมาก อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 แห่งพ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 ประกอบพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 12 และข้อตกลงในการปฏิบัติหน้าที่ในคดีระหว่างหน่วยงานของรัฐตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556
อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่ง แต่งตั้งพนักงานอัยการและเจ้าพนักงานตำรวจเป็นคณะทำงานและมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้
1.อัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน
2.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน
3 นายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
4.ร.ต.ท.อุทัย อาทิเวช รองอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน
5.นายศุภชัย นิพิธกุล ที่ปรึกษาอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน
6.เลขานุการอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน
7.อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน
8.ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นคณะทำงาน
9.อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
ให้มีอำนาจหน้าที่
1.กำกับและติดตามการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ในคดีนี้ให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ
2.เร่งรัดการสอบสวนและการส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้ให้ทันภายในกรอบ ระยะเวลาในการควบคุมฝากขังผู้ต้องหาตามกฎหมาย ทั้งนี้ ให้มีระยะเวลาพอสมควรเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี
3.แต่งตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้
โดยให้เลขานุการคณะทำงานรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้ให้อัยการสูงสุดทราบเป็นระยะ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง วันที่ 14 ธ.ค. 65
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือคำสั่งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ได้มีหนังสือ รายงานข้อมูลผู้ต้องหากระทำผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 ถึงอัยการสูงสุด พร้อมแนบ 1.สำเนาบันทึกการตรวจค้น – จับกุม เอกสาร 57 แผ่น 2.รายงานการสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เอกสาร 141 แผ่น 3.การสืบค้นข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร เอกสาร 26 แผ่น 4.แผ่น QR CODE รับชำระเงิน จำนวน 1 แผ่น 5. เอกสารสรุปการแจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 1 แผ่น
เอกสารระบุพฤติการณ์ผู้ต้องหาว่าได้ร่วมกันกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร (ชักชวนลูกค้าต่างชาติ) อันถือว่า เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม การกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นคณะบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้น ไปที่รวมตัวกันช่วงระยะเวลาหนึ่ง ร่วมกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงินและทรัพย์สิน โดยกระทำผิดในเขตแดนมากกว่าหนึ่งรัฐ เป็นองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย แต่มีการตระเตรียม วางแผน สั่งการ สนับสนุน หรือ ควบคุมการกระทำผิดในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน อันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วม กระทำการใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 พบการกระทำความผิดบางส่วนในราชอาณาจักรไทย และบางส่วนนอกราชอาณาจักรไทย (ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศกัมพูชา) เข้าเงื่อนไขตามความผิดตามกฎหมายที่ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 20 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาราชการแทนเป็นพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบหรือจะมอบหมายหน้าที่นั้น ให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดชอบทำการสอบสวนแทนได้
อนึ่ง เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่สำคัญและมีกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย จึงขอให้พนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจในการสอบสวนคดีไปพลางก่อนตามกฎหมายต่อไปจึงเรียนมายังอัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณา หรือเห็นควรประการขอได้โปรดพิจารณาสั่งการ
ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/sorrayuth9115