จีนเรียกตัว 6 นักการทูตกลับประเทศ หลังตำรวจอังกฤษขอสอบสวน ปมซ้อมผู้ประท้วงหน้าสถานกงสุล

จีนเรียกตัว 6 นักการทูตประจำสหราชอาณาจักรกลับประเทศ หลังเกิดเหตุผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกงถูกลากเข้าไปทำร้ายในอาคารสถานกงสุลเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา

นักการทูตทั้ง 6 รวมถึงกงสุลใหญ่ประจำเมืองแมนเชสเตอร์ เดินทางออกจากสหราชอาณาจักร หลังจากที่ทางการสหราชอาณาจักรได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอน เรียกร้องให้จีนสละเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตต่อเจ้าหน้าที่เหล่านั้น เพื่อเปิดทางให้ตำรวจสามารถดำเนินการสอบสวนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกำหนดเส้นตายไว้ 7 วัน 

เจมส์ เคลเวอร์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า นักการทูตทั้ง 6 ได้เดินทางออกจากสหราชอาณาจักรไปแล้วก่อนถึงเส้นตายในวันพุธ (14 ธ.ค.) พร้อมแสดงความผิดหวังที่นักการทูตเหล่านั้นไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหราชอาณาจักร 

“ผมรู้สึกผิดหวังที่บุคคลเหล่านี้จะไม่ถูกสัมภาษณ์ หรือเผชิญกับกระบวนการยุติธรรม เราได้กำหนดเส้นตายเอาไว้เพื่อแสดงความชัดเจนว่าเราคาดหวังจะให้พวกเขาดำเนินการตามที่เราร้องขอ และตอนนี้รัฐบาลจีนก็ได้ตอบสนองต่อคำขอของเราด้วยการสั่งปลดเจ้าหน้าที่เหล่านั้นออกไปจากสหราชอาณาจักร รวมถึงกงสุลใหญ่ด้วย” เคลเวอร์ลีระบุ

ด้านโฆษกสถานทูตจีนในกรุงลอนดอนได้ออกมาแถลงตอบโต้ว่า สหราชอาณาจักรล้มเหลวในการให้การคุ้มครองสถานที่และบุคลากรของสถานกงสุลจีนตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมกับอ้างว่าการที่กงสุลใหญ่ประจำเมืองแมนเชสเตอร์เดินทางกลับประเทศนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ตามปกติ

ทั้งนี้ เหตุการณ์ต้นเรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นในระหว่างการประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ที่มาชุมนุมกันบริเวณด้านนอกสถานกงสุลจีนในเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่จีนจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในกรุงปักกิ่ง 

ขณะที่ผู้ประท้วงรวมตัวกันอยู่นอกสถานกงสุล ได้มีชายกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากอาคารและลากตัว นายบ็อบ ชาน ชายชาวฮ่องกงที่มาร่วมชุมนุมเข้าไปภายในอาคาร และรุมทำร้าย จนตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ต้องเข้าระงับเหตุ และช่วยเหลือนายชานจนสามารถหลบหนีออกมาได้ 

โดยนายเจิ้ง ซีหยวน กงสุลใหญ่จีนประจำเมืองแมนเชสเตอร์ ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาปฏิเสธ พร้อมกับอ้างว่าเขาเพียงแค่พยายามปกป้องเพื่อนร่วมงาน และต้องทำตามหน้าที่ เนื่องจากผู้ประท้วงแสดงพฤติกรรมเหยียดหยามผู้นำและประเทศ ซึ่งเขาจำเป็นต้องปกป้อง