SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายคนที่มีประสบการณ์ซื้อบ้านจะรู้ดีว่า ซื้อบ้านไปแล้วไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะจบบริบูรณ์ เพราะมีเรื่องจุกจิกหลายอย่างที่ต้องรับมือ ทั้งโครงสร้าง การตกแต่ง ยันบริการทำความสะอาด หรือแม้แต่การซื้อขายเปลี่ยนมือในอนาคต เหล่านี้ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากหากต้องรับมือด้วยตัวเองทั้งหมด

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI บริษัทอสังหาริมทรัพย์สัญชาติไทย เห็นโอกาสในธุรกิจส่วนนี้ จึงตัดสินใจตั้งบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ขึ้นมาเพื่อให้บริการดังกล่าว ทั้งกับอสังหาริมทรัพย์ในเครือ และอสังหาริมทรัพย์นอกเครือ

TODAY Bizview มีโอกาสพูดคุยกับ ‘จตุพร วิไลแก้ว’ ซีอีโอของพรี​โม เซอร์วิสฯ เกี่ยวกับ ‘ธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์’ สรุปแล้วคือธุรกิจอะไร ให้บริการอย่างไรบ้าง

‘พรีโม’ เป็นใคร ทำธุรกิจอะไรบ้าง

ซีอีโอของพรีโมฯ เท้าความว่า พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่นก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 2554 เติบโตคู่กันมากับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ มีหน้าที่เป็นผู้ดูแลบริการหลังการขาย

นอกจากจะให้บริการกับอสังหาริมทรัพย์ในเครือออริจิ้นฯ แล้ว ยังให้บริการกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) รายอื่นๆ ด้วย โดยสารพัดบริการของพรีโมฯ สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลักและ 8 บริษัทย่อย ดังนี้

1. กลุ่ม Pre-Living Services ธุรกิจต้นน้ำที่ให้บริการคำปรึกษาและการออกแบบด้านวิศวกรรม ให้บริการผ่าน 3 บริษัทย่อย คือ

  • บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด (United Project Management: UPM) – ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง
  • บริษัท ยูพีเอ็ม ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด (UPM Design Studio) – บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบ
  • สถาบันฝึกอบรมด้านอสังหาริมทรัพย์รวมถึงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร (UPM Academy) – บริการจัดฝึกอบรบและพัฒนาทักษะบุคลาการ

2. กลุ่ม Living Services ธุรกิจกลางน้ำที่ให้บริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการผ่าน 4 บริษัทย่อย คือ

  • บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด (Primo Management) – บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน
  • บริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (Crown Residence) – บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุดแบบ Luxury ที่มีค่าส่วนกลางตั้งแต่ 155,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป
  • บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HAMPTON Hotel & Residence Management: HHR) – บริการจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (Residential Property) ดูแลบริการอะพาร์ตเมนต์แบบพรีเมี่ยม
  • บริษัท แพสชั่น เรียลเตอร์ จำกัด (Passion Realtor) – บริการตัวแทนซื้อขายปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร และให้คำปรึกษาการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงจัดหาผู้ร่วมทุน (JV Deal Maker)

3. กลุ่ม Living & Earning Services ธุรกิจปลายน้ำที่ให้บริการหลังการขาย ประกอบด้วย 2 บริษัทย่อย คือ

  • บริษัท อูโน่ เซอร์วิส จำกัด (UNO Service) – บริการงานแม่บ้านและช่าง
  • บริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด (Wyde Interior) – บริการออกแบบและตกแต่งภายใน ทั้งห้องชุดและฟื้นที่ส่วนกลาง

ปัจจุบันพรีโมฯ มีสัดส่วนรายได้จากบริษัทแม่ประมาณ 40% ส่วนอีก 60% ที่เหลือเป็นลูกค้านิติบุคคลและลูกค้ารายย่อย โดยให้บริการลูกค้าทั้งแบบธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business: B2B) และธุรกิจกับลูกค้า (Business to Customer: B2C)

get-to-know-thai-mai-primo-service-solutions

วันที่ตัดสินใจเข้าตลาดหุ้น ผลตอบรับจากนักลงทุน

สำหรับการตัดสินใจเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น เพราะพรีโมฯ ต้องการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน ทั้งการขยายธุรกิจแบบปกติ และการขยายธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการ รวมถึงการลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทฯ

โดยพรีโมฯ ได้เสนอขายหุ้น PRI ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด 80 ล้านหุ้น หรือ 25% ของหุ้นเดิมทั้งหมด ราคาเสนอขาย (IPO) 15.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 1,200 ล้านบาท

สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงิน ได้แก่

1. เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2566-2568

2. เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการลูกค้า 110 ล้านบาท ภายในปี 2566-2568

3. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ 49.77 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4 ปี 2565-2568

‘การขยายธุรกิจยังเป็นปัจจัยสำคัญหลังจากที่ได้เงินทุนมา สิ่งที่ต้องทำต่อ คือ การหาโอกาสสำหรับการควบรวมกิจการและการลงทุนในเทคโนโลยีที่จะมาตอบโจทย์และเพิ่มศักยภาพการให้บริการกับลูกค้าของเรา’

หลังเข้าซื้อขายวันแรกเมื่อ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา หุ้น PRI ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยเปิดตลาดที่ 21.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 43.33% จากราคาจองซื้อที่ 15.00 บาทต่อหุ้น

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุด (ณ 20 ธ.ค.) ราคาหุ้น PRI ปิดที่ 23.20 บาทต่อหุ้น ลดลงจากวันก่อนหน้า (19 ธ.ค.) 0.10 บาท หรือ 0.43% แต่ยังเหนือจองต่อเนื่อง 8.20 บาท หรือ 54.67%

แผนธุรกิจหลังจากที่เข้าตลาดหุ้นไปแล้ว

ในระยะสั้น พรีโมฯ ยังได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะทำให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น คนมองหาที่พักอาศัย ควบคู่ไปกับงานแม่บ้าน งานนายช่าง และการออกแบบภายในที่ตามมา

ส่วนระยะกลาง พรีโมฯ มีสัญญารายปี (Renewal Contract) ที่ทำกับลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาสามารถรักษาการต่ออายุสัญญาไว้ได้สูงถึง 80-90% ซึ่งเป็นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะกลางที่บริษัทฯ จะต้องรักษาสัญญาเอาไว้ให้ได้

ขณะที่ระยะยาว พรีโมฯ ต้องการเป็น Living Partner กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อยากเป็นคนที่ตอบโจทย์ทุกๆ การขยายธุรกิจของอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองถึงการออกแบบบริการให้กับลูกค้ากลุ่ม Luxury จากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ช่วงโควิด-19

‘อาคารสูง 30 ชั้น ช่วงกลางวันจะมีลูกบ้านลงมารับอาหารกลางวัน เราก็ดีไซน์บริการเดลิเวอรี่บนห้อง คือไปเคาะห้องเสิร์ฟเลย หนึ่ง เรามองเห็นการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นของลูกบ้าน สอง เราช่วยลดไฟฟ้า สาม เราลดทราฟฟิก ลดไฟ ลดการใช้พลังงาน’

นอกจากนี้ พรีโมฯ ยังมองการทำธุรกิจในระยะยาว เช่น งานแม่บ้านที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นออร์แกนิค ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าใช้แต่สารเคมีในโครงการที่อยู่อาศัย ท้ายที่สุดก็อาจกระทบต่อสุขภาพของลูกบ้าน รวมถึงโครงสร้างต่างๆ ด้วย

สำหรับการแข่งขันในตลาด แม้ว่าตอนนี้บริษัทฯ จะเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร และยังไม่เห็นคู่แข่งที่เหมือนกันทางตรง แต่ 8 บริษัทย่อยในแต่ละธุรกิจ ก็จะมีคู่แข่งทางตรงของตัวเอง

แต่ถ้าพูดถึงความแตกต่าง พรีโมฯ ยังเป็นเจ้าเดียวที่ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เมื่อรับดูแลโครงการใดโครงการหนึ่งแล้ว ก็สามารถต่อยอดมาให้อีก 8 บริษัทลูกได้

get-to-know-thai-mai-primo-service-solutions

3 ธุรกิจ รายได้เติบโตเฉลี่ย 30% ทุกปี

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ ทำรายได้ไป 604.26 ล้านบาท เติบโต 95.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 308.42 ล้านบาท

ส่วนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2562-2564) บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 255.69 ล้านบาท 266.51 ล้านบาท และ 489.56 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่กำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 156.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 68.38 ล้านบาท

ส่วนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.52 ล้านบาท 40.05 ล้านบาท และ 111.25 ล้านบาท ตามลำดับ

โดยทั้ง 3 เซกเตอร์มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 30% ยกเว้นปีที่เกิดโควิด-19 ธุรกิจกลางน้ำที่ให้บริการนิติบุคคลและอาคารชุด จะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับกระทบ เพราะยังสามารถดำเนินการตามสัญญาได้

แต่หลังโควิด-19 จะเห็นว่าอีก 2 ธุรกิจที่เหลือเริ่มกลับมาได้ดี ธุรกิจต้นน้ำเริ่มกลับมาเปิดโครงการใหม่ๆ ได้ตามปกติ สนับสนุนธุรกิจของพรีโมฯ ที่เป็นฟันเฟืองหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

เมื่ออสังหาริมทรัพย์กลับมาเติบโต บริษัทฯ ก็เติบโตไปด้วย ส่งผลให้พรีโมฯ ประเมินว่า รายได้ของบริษัทฯ จะยังสามารถเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่อง 30% ในปีถัดๆ ไป โดยปัจจุบันพรีโมฯ มีงานรอรับรู้รายได้ (Backlog) 317 ล้านบาท สำหรับรอรับรู้ในอีก 3 ปีต่อจากนี้

‘พรีโม’ มองอนาคตธุรกิจอย่างไร

สำหรับแนวโน้มธุรกิจหลังจากนี้ บริษัทฯ ประเมินว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์และอุปทานที่เพิ่มขึ้นหลังการเปิดประเทศ โดยเฉพาะเซกเตอร์ที่เป็นกำลังซื้อจากชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ นโยบายของภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนช่วย รวมถึงการผ่อนผันมาตรการให้สินเชื่อ (LTV) ชั่วคราวถึงสิ้นปี 2565 ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมา

ในส่วนของพรีโมฯ ที่เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ 1 โครงการเปิดใหม่ ธุรกิจของบริษัทฯ ก็จะเข้าไปสนับสนุนตั้งแต่งานก่อสร้างให้คำปรึกษา งานบริหารนิติบุคคล งานแม่บ้านก่อนเปิดโครงการ และงานตกแต่งภายใน

‘การขยายธุรกิจการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับงานอสังหาริมทรัพย์มันค่อนข้างกว้าง เรามีโอกาสมาก เพราะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจอสังหาฯ’

ซีอีโอพรีโมฯ อธิบายว่า เพราะหลังการขายคือการใช้ชีวิต เรามองว่าเราเป็น Living Partner เป็นคนที่เป็นฟันเฟืองให้การเข้าอยู่อาศัยของลูกค้าและดีเวลลอปเปอร์มาแมชชิ่งกัน ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่นที่สุด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองการขยายฐานลูกค้าไปกับโรดแมปของออริจิ้นฯ เมื่ออบริษัทแม่มีโรดแมปไปที่ไหน พรีโมฯ ก็พร้อมจะติดสอยห้อยตามไปด้วย เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งหลายพื้นที่ เป็นที่ๆ เต็มไปด้วยโอกาส

‘เราอยากเป็น At Your Service in Every Moment อยู่ในทุกช่วงชีวิตของคนที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และลูกบ้าน’

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า