Xiaomi ปลดพนักงานหลายพัน เพราะรายได้ลดลง 10% ท่ามกลางวิกฤติว่างงานจีน

Xiaomi ปลดพนักงานหลายพัน เพราะรายได้ไตรมาส 3 ลดลง 10% ท่ามกลางวิกฤติว่างงานจีน

หลังจากการปลดคนของหลายบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก รวมถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง ‘อาลีบาบา’ และ ‘เทนเซนต์’ ในที่สุด ‘เสี่ยวหมี่’ (Xiaomi) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็จำต้องปลดพนักงานหลายพันคนในหลายแผนก

หลังจากเมื่อต้นปี ‘เสี่ยวหมี่’ (Xiaomi) ได้ปรับลดคนครั้งใหญ่กว่า 1,900 คนไปแล้วรอบหนึ่ง ทำให้ในเดือน ก.ย. บริษัทรายงานว่ามีพนักงานเหลือราว 35,000 คน โดยส่วนใหญ่ประจำอยู่ในจีน

สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากรายได้บริษัทที่ลดลงกว่า 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา เพราะผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ของจีนและดีมานด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่ลดลง ทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนที่คิดเป็น 60% ของรายได้ของบริษัทลดลงไปกว่า 11%

โฆษกของ Xiaomi บอกว่า มาตรการจะส่งผลกระทบกับพนักงานไม่ถึง 10% ของทั่งหมด

อย่างไรก็ตาม จากรายงานของรัฐบาลจีน พบว่า อัตราการว่างงานในเขตเมืองของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.7% ในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติที่สูงสุดในรอบ 6 เดือน

โดยกลุ่มที่เจอหนักสุด คือ ‘คนหนุ่มสาว’ เพราะอัตราการว่างงานของคนอายุ 16-24 ปี แตะระดับ 17.1% ในเดือน พ.ย. ใกล้กับระดับสูงสุด ณ 19.9% ในเดือน ก.ค.

พร้อมๆ กับแนวโน้มการว่างงานที่ทำท่าจะแย่ลง เพราะในปีหน้าจะมีนักศึกษาจบใหม่กว่า 11.6 ล้านคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน

หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบทางมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา คือ ‘ภาคเทคโนโลยี’ ที่เจอกับการปราบปรามของรัฐบาลปักกิ่งมากที่สุด อย่างที่ ‘อาลีบาบา’ และ ‘เทนเซนต์’ เจอกับสถานการณ์ที่บริษัทไม่เติบโตหรือหดตัวของรายได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

จน ‘อาลีบาบา’ ต้องปลดพนักงานลงกว่า 15,000 คนในช่วง 9 เดือนแรกของปี ขณะที่ ‘เทนเซนต์’ ปลดไปกว่า 4,000 คนในช่วงเดียวกัน

ทั้งๆ ที่รัฐบาลจีนยืนยันจะให้ความสำคัญกับการรักษาตำแหน่งงานมากที่สุดในปีหน้า ท่ามกลางการประท้วงแสดงความโกรธแค้นต่อนโยบายซีโร่โควิด จนนำมาสู่การยกเลิกกะทันหันเมื่อต้น ธ.ค. ที่ผ่านมา

ที่มา CNN