ทำไม ‘ไทยแอร์เอเชีย’ ถึงมั่นใจจะพลิกกำไรในปีหน้า

โควิด-19 ไม่เลือกหน้าและไม่ปราณีใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในแวดวง ‘อุตสาหกรรมท่องเที่ยว’ ที่ต้องเจอกับสถานการณ์แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน แม้ว่าในช่วงปลายปี 2022 จะมีสัญญาณบวกจากการเปิดการเดินทาง แต่ก็ยากที่รายได้ในไตรมาส 3 และ 4 จะสามารถพลิกขาดทุนสู่กำไรได้

แต่ในปี 2023 นั้นไม่เหมือนกันและเป็นปีที่ใครหลายคนในวงการท่องเที่ยวและการเดินทาง รวมถึง ‘ไทยแอร์เอชีย’ มั่นใจว่าจะสามารถพลิกกำไรได้

คำถาม คือ ปัจจัยพื้นฐานภายในและภายนอกอะไรบ้างที่บอกว่า ‘ไทยแอร์เอเชีย’ จะกำไรอีกครั้งได้

[ ปี 2022 เก็บ 10 ล้านเท่าท่องเที่ยวไทย ]

หลายคนคงรู้แล้วว่า ในปี 2022 นี้หลังเปิดการเดินทางอย่างอิสระในไตรมาส 3 และ 4 ทำให้ท่องเที่ยวไทยพลิกฟื้นดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาได้อย่างต่อเนื่อง จนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมทะลุ 10 ล้านคนไปเมื่อเร็วๆ นี้ สร้างความยินดีให้กับคนท่องเที่ยวไทย

เช่นกันกับท่องเที่ยวไทย สายการบิน ‘ไทยแอร์เอเชีย’ ในตอนนี้ก็เก็บจำนวนผู้โดยสารได้กว่า 9 ล้านคนและมั่นใจว่าจะสามารถสะสมจำนวนผู้โดยสารได้ 10 ล้านคนภายในปีนี้ หรือคิดเป็นราวๆ ครึ่งหนึ่งของตัวเลขก่อนโควิด-19 ในปี 2019 ที่มีจำนวนผู้โดยสารสูงกว่า 20 ล้านคน

ปัจจุบัน ‘อัตราขนส่งผู้โดยสาร’ ในเดือน ธ.ค.

เส้นทางในประเทศ อยู่ที่ 90%

เส้นทางระหว่างประเทศ อยู่ที่มากกว่า 80%

ทำให้ ‘ไทยแอร์เอเชีย’ สามารถกลับมาครองส่วนแบ่งการตลาดเส้นทางในประเทศอันดับ 1 ได้อีกครั้งด้วยสัดส่วน 32% เหนือกว่าอันดับ 2 ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดราว 20%

จากก่อนโควิด-19 ‘ไทยแอร์เอเชีย’ มีฝูงบิน 60 ลำ 

ในปี 2022 นี้มีเครื่องบินทั้งหมด 53 ลำ

ปัจจุบันใช้งานอยู่ 41-43 ลำ 

จากไตรมาส 1 ที่ใช้งาน 23 ลำ 

จากไตรมาส 2 ที่ใช้งาน 25 ลำ 

โดยอีกราว 10 ลำที่เหลือเตรียมพร้อมไว้สำหรับเส้นทางจีนที่คาดว่าจะฟื้นในปีหน้า

ในส่วนของอัตราการใช้ประโยชน์เครื่องบิน (Aircraft Utilisation) ในปี 2022

อัตราการใช้ประโยชน์เครื่องบินตลอดปีเท่ากับ 9 ชั่วโมง

อัตราการใช้ประโยชน์เครื่องบินสูงสุดในช่วงนี้เท่ากับ 12 ชั่วโมง

โดยมีอัตราความตรงต่อเวลา 90%

นอกจากตลาดจีนที่เป็นเป้าหมายสำคัญ ไทยแอร์เอเชียได้ปรับแผนกลยุทธ์ในการสร้างเสถียรภาพธุรกิจ โดยไม่พึ่งพาตลาดหนึ่งตลาดใด ในช่วงปี 2022 เป็นต้นมา ไทยแอร์เอเชียยังได้เร่งขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศอีกหลายเส้นทาง รุกตลาดอินเดีย เอเชียใต้ และอาเซียน

ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพ-ฟุกุโอกะ กรุงเทพ-ไทเป เชียงใหม่-ฮานอย เชียงใหม่-ดานัง รวมถึงอีกหลายๆ เส้นทางสู่อินเดียครบทุกเมือง และเพิ่มความถี่ในเส้นทางสู่เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ 

แต่ ‘สันติสุข คล่องใช้ยา’ ซีอีโอของสายการบินไทยแอร์เอเชีย คาดว่าในปีนี้จะยังไม่สามารถพลิกฟื้นผลประกอบการกลับมากำไรได้ในปีนี้ แต่คาดว่า ในปี 2023 จะสามารถกลับมาทำกำไรได้เป็นปีแรก หลังจากโควิด-19 ทำให้บริษัทขาดทุนมานานกว่า 3 ปี

[ มอง 2023 ฟื้นตัวเต็มที่ พลิกฟื้นคืนกำไร ]

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ‘ไทยแอร์เอเชีย’ มองว่าปีหน้าจะสามารถกลับมากำไรได้ อย่างแรกเป็นเพราะเชื่อว่า ในปี 2023 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเเละการบินฟื้นตัวเต็มที่ ใกล้เคียงกับก่อนสถานการณ์โควิด-19 เพราะตลาดภายในประเทศที่เเข็งเเกร่งและตลาดระหว่างประเทศที่กลับมาแล้ว

จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

ปี 2019 จำนวน 40 ล้านคน

ปี 2020 จำนวน 7 ล้านคน

ปี 2021 จำนวน 5 แสนคน

ปี 2022 จำนวน 10 ล้านคน

ปี 20233 ไทยแอร์เอเชีย คาดว่า 18-30 ล้านคน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเปิดการเดินทางของ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ ว่าจะสามารถเริ่มต้นเดินทางได้เร็วแค่ไหน

โดยตอนนี้มีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะเริ่มพิจารณาผ่อนคลายมาตรการการท่องเที่ยวภายในไตรมาสแรกของปี 2023 และไทยแอร์เอเชียก็พร้อมจะบินตรงสู่ประเทศจีนทันทีด้วยฝูงบินที่ใหญ่ที่สุดในไทยกว่า 53 ลำ

แล้วในปี 2023 ไทยแอร์เอเชียยังวางเเผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ ในตลาดที่มีศักยภาพต่อเนื่อง เช่น ประเทศเนปาล ปากีสถาน หรือเมืองอื่นๆ ในประเทศอินเดีย ทำให้คาดการณ์ว่าจะสามารถกลับมาให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ ด้วยปริมาณที่นั่งไม่น้อยกว่า 90% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด

ดังนั้น จึงคาดว่าในปี 2023 จำนวนผู้โดยสารของ ‘ไทยแอร์เอเชีย’ จะขยับตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถกลับมามีจำนวนผู้โดยสาร 20 ล้านคน เกือบเท่ากับก่อนโควิด-19 ได้ หรือเพิ่มขึ้นจากปีนี้เท่าตัว

และสัดส่วนผู้โดยสารก็จะขยับจากในประเทศ 70% ระหว่างประเทศ 30% เป็นในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% ซึ่งจะทำให้รายได้จากเที่ยวบินในประเทศเป็น 40% และระหว่างประเทศเป็น 60% ด้วย

โดยหากจำนวนผู้โดยสารของไทยแอร์เอเชียเพิ่มขึ้นเท่าตัว ‘รายได้’ ก็น่าจะเพิ่มขึ้นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน จึงไม่แปลกที่ ‘ไทยแอร์เอเชีย’ จะเชื่อว่าสายการบินจะพลิกกลับมากำไรได้อีกครั้งในปีหน้า