เตรียมยื่นรัฐบาล-สายการบินเร่งแก้ปัญหา หลังพบค่าตั๋วเครื่องบิน ภูเก็ต-กรุงเทพฯ พุ่งสูงเกือบเท่าตัว

ภาครัฐและเอกชนภูเก็ตสุดทน จับมือกัน เตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและสายการบิน เร่งแก้ปัญหาราคาตั๋ว หลังพบค่าตั๋วเครื่องบิน ภูเก็ต-กรุงเทพฯ พุ่งสูงเกือบเท่าตัว

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ได้หารือในเรื่องของค่าตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตมีราคาเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เพื่อเสนอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระยะยาว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนและสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจากการพูดคุยหารือพบว่า ปัญหาเกิดจากซัพพลายกับดีมานด์ ไม่สมดุลกัน คือ ดีมานด์มีมากขึ้น ขณะที่ซัพพลายมีน้อย และบวกกับจำนวนเที่ยวบินที่มีจำนวนจำกัด

โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “จะทำหนังสือถึงสายการบินภายในประเทศขอให้เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และขอให้รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยผลักดันเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม ไม่ใช่เฉพาะภูเก็ตเท่านั้น แต่รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย”

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในการหารือกับทางภาคเอกชนนั้น เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะจากที่มีการพูดกันในระดับจังหวัด พบว่า เกินขีดความสามารถของจังหวัดในการแก้ปัญหาได้เอง เนื่องจากเป็นการประกอบธุรกิจของสายการบิน และเป็นกรอบแนวทางปฏิบัติระดับประเทศ จึงเป็นการส่งรายงานสถานการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ทางผู้บริหารระดับสูงได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลซึ่งเป็นวันหยุดยาว เพื่อให้นักท่องเที่ยวภายในประเทศตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต นอกจากปัจจุบันการท่องเที่ยวมีการแข่งขันกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น เวียดนาม สิงคโปร์  บาหลี เป็นต้น

ขณะที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเด็นปัญหาสำคัญของราคาตั๋วโดยสาร คือ พุ่งสูงเกินมาตรฐานที่เคยเจอ ในช่วงพีคสุดของการท่องเที่ยวก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562 ไป-กลับ เฉลี่ยเที่ยวละ 8,000-9,000 บาท ไม่ได้กระโดดเหมือนปัจจุบัน ซึ่งมี 2 เรื่องใหญ่ คือ ราคาไป-กลับเกิน 10,000 บาท และบางเที่ยว (ขาเที่ยว) 7,000-8,000 บาท ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีเที่ยวบินหรือที่นั่ง ดังนั้นการจะฟื้นตัวได้ทั้งประเทศจะต้องมีการกระจายการเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของประเทศให้ได้รวดเร็ว และไม่มีการขนส่งใดที่กระจายคนได้รวดเร็วเท่ากับการเดินทางด้วยเครื่องบิน

นายธนูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับภูเก็ต เพราะจากการตรวจสอบราคาค่าโดยสารทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 30-60% ทุกพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ภูเก็ตเริ่มเดือดร้อนมากสุด เพราะไม่มีแม้กระทั่งที่นั่ง จึงได้มีการหารือกับผู้ว่าฯ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสียงไปยังผู้บริหารระดับสูงของประเทศและสายการบิน หากสามารถหาทางออกได้เร่งด่วนสุด คือ การเพิ่มเที่ยวบินของการบินไทยชั่วคราว และเพิ่มที่นั่งด้วยเครื่องบินขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ราคาปรับลดลงตามความเป็นจริง และเพดานการคำนวณรายจ่ายที่จะเรียกเก็บค่าโดยสารสูงสุด ควรจะปรับตัวเลขใหม่ให้ลดลง เพราะเพดานสูงสุดไม่เคยใช้จริงมาก่อนในระดับประเทศ แต่วันนี้ถูกนำมาใช้เพราะไม่มีที่นั่ง นอกจากนี้ให้มีการวางแผนระยะยาวในช่วงเทศกาลวันหยุดที่จะถึงไม่ว่าจะเป็นตรุษจีนหรือสงกรานต์ เพราะการฟื้นประเทศเป็นเรื่องสำคัญ

ที่มาและภาพจาก : สำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต