เปิดใจ! หนุ่มลูกหนี้ ถูก “ท็อป ฮาวดี้” เผาบ้านไลฟ์เฟซบุ๊ก

หนุ่มลูกหนี้ที่ถูก “ท็อป ฮาวดี้” ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก เผาบ้านเพื่อทวงหนี้ เผยเป็นหนี้จริงแต่ยังไม่ถึงกำหนดคืนตามสัญญา ไม่คิดเพื่อนจะทำรุนแรงขนาดนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว “ท็อป ฮาวดี้ พร้อมคู่หู” ส่งฝากขังศาลจังหวัดแล้ว ไร้ญาติยื่นประกัน

จากกรณีที่นายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือ “ท็อป ฮาวดี้” อายุ 26 ปี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวขณะลงมือก่อเหตุใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านของ นายหัส โพธิ์เงิน เพื่อทวงเงินจากลูกชายของนายหัส พร้อมใช้คำพูดข่มขู่ว่ายืมเงินแล้วไม่คืนก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ จนทำให้ฝาบ้านได้รับความเสียหาย

หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวนายอาทิตย์ พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนสามารถจับกุมได้ พร้อมกับนายคมสัน พรมสุรินทร์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นคนถ่ายคลิปในวันก่อเหตุด้วย และขณะนี้ทั้งสองถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.แคนดง พนักงานสอบสวนได้เลื่อนการส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นวันนี้ (15 ธ.ค. 60) เนื่องจากเมื่อวานนี้สอบปากคำเสร็จไม่ทัน

ล่าสุด นายวรายุทธ โพธิ์เงิน อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูก ท็อป ฮาวดี้ จุดไฟเผาเพื่อทวงหนี้ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว นายวรายุทธยอมรับว่าเป็นหนี้แม่ของท็อปจริง แต่ไม่ได้เป็นการกู้ยืมเป็นเงินที่แม่ท็อปนำมาจ่ายค่าประกันตัวให้กับท็อปและตัวเองที่ถูกจับข้อหาเสพสารเสพติด โดยจะต้องจ่ายค่าประกันตัวพร้อมกันทั้ง 2 คน แต่ตอนนั้นตนเองไม่มีเงิน แม่ท็อปจึงออกเงินให้ก่อนแต่ให้ตนเองทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่าเป็นหนี้แม่ท็อป ซึ่งในสัญญาระบุว่าให้ชำระคืนภายในวันที่ 10 ธ.ค. 60 แต่ยังไม่มีกำหนดวันที่จ่ายคืนตามสัญญาท็อปก็มาเผาบ้านข่มขู่

อีกทั้งก่อนหน้านี้แม่ท็อปก็ให้ตนเองไปกรีดยางเพื่อใช้หนี้  แต่กรีดได้ 6 วันก็บอกให้หยุด จึงไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นเพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้   ไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยว แต่ไม่คิดเรื่องจะรุนแรงบานปลายขนาดนี้

นายวรายุทธยังกล่าวอีกว่า ไม่ได้เป็นหนี้ครอบครัวท็อปถึง 100,000 บาท และไม่เคยไปเอาเงินมาสร้างบ้านตามที่ท็อปกล่าวอ้างเลย อยากให้สังคมเข้าใจ แต่ยอมรับว่ากลัวจะถูกท็อปกลับมาล้างแค้นหรือทำร้ายครอบครัวอีก

แต่ก็อยากถามท็อปว่า “เป็นเพื่อนกันจริงไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้  หากตนเองอยู่ในบ้านแล้วถูกไฟเผาจะเป็นยังไงเพื่อนกันจริง ทำไมทำแบบนี้ จิตใจทำด้วยอะไร”

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันนี้  โดยที่ต้องเลื่อนส่งฝากขังเนื่องจากสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเสร็จไม่ทัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ญาติมายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด

โดยวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.แคนดง จ.บุรีรัมย์  ได้ควบคุมตัวนายอาทิตย์ จักรคุ้ม และนายคมสัน พรมสุรินทร์ ส่งฝากขังครั้งแรกที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผู้กำกับการ สภ.แคนดง ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้งสองแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งเพียงข้อหาเดียวคือ “ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์” ส่วนกรณีที่จะเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่นั้น ก็ต้องมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง

ส่วนการยื่นขอประกันตัวก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล เพราะขณะนี้ได้ส่งตัวไปฝากขังแล้วไม่ได้อยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวน โดยนายอาทิตย์มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้ดูเคร่งเครียด ต่างจากนายคมสันที่ค่อนข้างจะเครียดเป็นพิเศษ เนื่องจากเขาปฏิเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของนายท็อปในวันเกิดเหตุก็พยายามห้ามปรามท็อปแล้ว และช่วงที่ท็อปจะจุดไฟเผาตนก็ได้ออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว เพราะไม่อยากมีส่วนร่วมด้วย

อ่านข่าวเรื่อง ท็อป ฮาวดี้