ออสเตรเลีย-แคนาดา ออกกฎตรวจโควิดนักเดินทางจากจีน เตรียมรับมือจีนเปิดประเทศ

ออสเตรเลียและแคนาดาเป็นสองประเทศล่าสุด ที่ออกข้อกำหนดให้นักเดินทางที่มาจากจีนต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ หลังจากที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น  อินเดีย อังกฤษ และหลายประเทศในยุโรปออกกฎมาก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในประเทศจีน 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลายประเทศทั่วโลกเริ่มมีความเคลื่อนไหว หลังจีนประกาศเปิดเสรีการเดินทางระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป ในขณะที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ ท่ามกลางข้อกังขาเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่มีการเปิดเผยจากทางการ ซึ่งถูกมองว่าน้อยกว่าตัวเลขจริงมาก 

ล่าสุด ออสเตรเลียและแคนาดา ออกมาประกาศข้อกำหนดให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีน, ฮ่องกง และมาเก๊า ต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR เป็นลบ ภายในระยะเวลา 2 วัน ก่อนออกเดินทาง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. นี้ 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ของออสเตรเลียและแคนาดา เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศอื่นๆ อาทิ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น  อินเดีย เกาหลีใต้ อังกฤษ และหลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ที่มีการประกาศข้อกำหนดในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากมีความกังวลว่าการเปิดประเทศในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนยังคงย่ำแย่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างขึ้นอีกครั้งจากการเดินทางระหว่างประเทศ 

ข้อบังคับดังกล่าวยังเกิดขึ้น ท่ามกลางความวิตกของหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกที่กำลังกังวลว่า จีนแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่เพียงพอ ทำให้ทั่วโลกไม่สามารถประเมิน และรับรู้ได้ถึงขนาดและความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างแท้จริงที่กำลังเกิดขึ้นในจีนขณะนี้ได้ 

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกหลายรายได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า มีแนวโน้มที่ชาวจีนจะติดเชื้อโควิด-19 เป็นหลักล้านคนต่อวัน หลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ที่ใช้มานานกว่า 3 ปี ในขณะที่ประชาชนในประเทศยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอ เนื่องจากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง อีกทั้งวัคซีนที่ใช้ในจีนส่วนใหญ่ยังเป็นวัคซีนเชื้อตายที่เชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันน้อยกว่าวัคซีน mRNA ที่มีการฉีดกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก 

หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่มีการรายงานออกจากทางการจีนได้ถูกตั้งคำถามและมองว่าเป็นข้อมูลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีการตรวจหาเชื้อลดลงทั่วประเทศ จนต่อมารัฐบาลจีนประกาศงดรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน โดยจะมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาสำหรับการอ้างอิงและการวิจัยเท่านั้น 

คำเตือนของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ยังสอดคล้องกับแบบจำลองสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนที่ทำโดยบริษัทวิจัยและสถาบันการศึกษาทั่วโลกหลายแห่ง โดยแบบจำลองล่าสุดของแอร์ฟินิตี้ (Airfinity) ซึ่งเป็นบริษัทรวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพสัญชาติอังกฤษที่เพิ่งเปิดเผยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) ชี้ว่า มีแนวโน้มที่ชาวจีนจะติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 1.8 ล้านราย และเสียชีวิตราว 11,000 ราย ในแต่ละวัน โดยอิงจากข้อมูลที่มีการเผยแพร่มาจากมณฑลต่างๆ ของจีน ก่อนที่รัฐบาลจะยุติการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ มาพิจารณาร่วมกับสถานการณ์ในประเทศอื่นๆ 

ด้านสื่อของรัฐบาลจีนอย่างโกลบอลไทม์ส (Global Times) ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาตรการคัดกรองเข้มงวดสำหรับผู้เดินทางจากจีนที่เริ่มมีการประกาศใช้ในหลายๆ ประเทศว่า เป็นมาตรการที่ไม่ได้อยู่บนหลักเหตุและผล อีกทั้งยังเป็นการเลือกปฏิบัติ

ที่มา Al Jazeera, NPR, Daily Mail