‘โกฮัง’ ผู้ผ่านการคัดสรรจากเด็ก 2000 คนกับบท ‘ไอ้ไข่’

‘โกฮัง’ ผู้ผ่านการคัดสรรจากเด็ก 2000 คนกับบท ‘ไอ้ไข่’ ในภาพยนตร์ ‘ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์’

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง สำหรับภาพยนตร์แฟนตาซี ‘ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์’ ที่จะถูกเล่าย้อนไปในอดีตกาล พระธุดงค์ผู้มีญาณบารมีสูงส่งรูปหนึ่งได้นำดวงจิตของเด็กชายวัย 10 ขวบ มาพำนักไว้ที่วัดร้างบ้านฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยได้กำชับ “ให้อยู่เฝ้าสถานที่แห่งนี้ จนกว่าจะมีผู้มีบุญญาธิการมาถึง” เด็กชายผู้นั้นก็อุทิศตนรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับพระธุดงค์ตลอดมา อำนวยการสร้างโดย ดร.ประพล มิลินทจินดาและผลิตโดย ไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอ

ซึ่งหนึ่งในความน่าสนใจของเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องนี้คือบทของ ‘ไอ้ไข่’ ที่ถูกรับบทโดย น้องโกฮัง-ณัฐวรรธ สุ่มพลอย วัย 13 ปี ที่ต้องผ่านการคัดเลือกถึง 3 รอบ จากจำนวนผู้สมัคร 2000 กว่าคน แถมรอบสุดท้าย ‘ไอ้ไข่’ ยังเป็นคนเลือกอีกต่างหาก งานนี้โกฮังปลื้มใจที่ได้เป็นนักแสดงนำเต็มตัวครั้งแรก แถมยังได้โชว์ทักษะแอ็คชั่นที่เรียนสั่งสมมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบด้วย

โดย โกฮัง เผยว่า “ตอนที่มาแคสท์ติ้งไม่คิดว่าตัวเองจะได้ครับ มีนักแสดงเด็กมาร่วมแคสท์ประมาณ 2000 กว่าคน รอบแรกผ่านรอบที่คัดจากรูปเพื่อดูภาพลักษณ์ภายนอก ติดรอบ1000  คน พอรอบที่ 2 เขามีแคสท์จากความสามารถพิเศษ 2 รอบ รอบกทม.และปริมณฑล จาก 1000 คน เหลือ 40 คน โซนภาคใต้มีคนมาสมัคร 200 คน คัดเหลือ 40 คน  ผมติด 1 ใน 40 ของ กทม. ครับ จากนั้นรอบสุดท้ายเด็ก ๆ ที่แคสท์ผ่านในรอบ กทม. เดินทางไปสมทบแคสท์กับโซนภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งหมด 80 คน ทางผู้กำกับ พี่เอก-ธีรธร เชาวนโยธิน ให้เด็กทุกคนจับคู่เล่นแอ็คติ้งรอบไฟนอล ให้เวลาอ่านบท 1 วันก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นมาก็แคสท์กัน ตอนนั้นผู้กำกับ พี่เอก-ธีรธรบอกว่าจะมีเด็ก 16 คน ในจำนวน 80 คน จะได้เล่นหนังเรื่องนี้แน่ ๆ พ่อของผมก็เลยบนไอ้ไข่ไปว่าถ้าผมติด 1 ใน 16 คน จะถวายประทัด 10000 นัด ไม่ได้หวังว่าจะได้เป็นไอ้ไข่เลยครับ แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการทุกคนพร้อมใจกันเลือกผม เหนือความคาดหมายมาก พ่อของผมดีใจมาก แก้บนกันวันนั้นเลย แล้วผู้กำกับ พี่เอก-ธีรธร ก็มาเล่าให้ฟังว่าไอ้ไข่เลือกผม ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าไอ้ไข่เลือกยังไง พี่เอกมาเล่าให้ฟังว่าวันที่แคสท์เขาขอไอ้ไข่ว่าถ้าคนไหนที่ไอ้ไข่อยากให้เล่นบทนี้ ก็ขอให้คณะกรรมการทุกคนพร้อมใจกันเลือกนะ ซึ่งผมเป็นคนเดียวที่คณะกรรมการทุกคนเลือกครับ ผมดีใจมากที่ได้มารับบทนี้ วันแถลงมีพี่ ๆ นักข่าวมาร่วมงาน พี่ ๆ บางคนก็บอกว่าผมหน้าเหมือนไอ้ไข่ ผมก็ไม่แน่ใจว่าเหมือนไหม คงต้องให้ผู้ชมเป็นคนตัดสินครับ

สำหรับคาแร็คเตอร์ไอ้ไข่ ผมว่า “ไอ้ไข่” ก็เหมือนเด็กทั่วไป เป็นเด็กร่าเริง สนุกสนาน ซุกซน ซึ่งก็เหมือนผมนะครับ แต่ที่แตกต่างกันก็คือเวลาไอ้ไข่จะโกรธง่ายเวลาที่ใครมายุ่งกับสมบัติของวัดเจดีย์ ในขณะที่ตัวผมเองไม่ค่อยโกรธใคร ตอนที่เล่นเป็นไอ้ไข่ฉากที่ยากที่สุดคือโกรธครับ ผมต้องทำหน้าโมโห จะแสดงเยอะไปก็ไม่สมจริง ต้องเล่นเป็นให้พอดีครับ สำหรับฉากที่ยากอีกอันก็คือ ฉากที่ต้องเล่นกับซีจี เพราะในเรื่องผมต้องแสดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ด้วย ช่วงแรก ๆ ยากครับ ตาและบล็อกกิ้งไม่สัมพันธ์กัน ผมก็จะหาหนังแนวแฟนตาซีมาดูเยอะ ๆ เพื่อศึกษาการแสดงเรียนรู้ลักษณะท่าทาง ก็ช่วยให้ผมเล่นได้ง่ายขึ้น แต่ที่เข้าทางผมเลยคือ ฉากบู๊แอ็คชั่นครับ เพราะผมเรียนสตั๊นท์มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตอนที่ถ่ายหนังอายุประมาณ 11ปี  มีขึ้นสลิงและเล่นคิวบู๊ด้วย ไม่มีปัญหาเลยครับ ดีใจที่ได้ปล่อยของได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาครับ ถามว่าปัจจุบันนี้ผมยังเรียนอยู่ไหม ผมเรียนอยู่ครับ ก็เรียนในระดับที่ผู้ใหญ่เรียนกันแล้ว ฝึกกับครูที่สอนนักแสดงฮอลลีวู้ดด้วย ผมก็เอาดีด้านนี้ให้เต็มที่ครับ ยังไงก็ฝากพี่ ๆ น้อง ๆ ไปชมกันนะครับ หนังเรื่องนี้ครบรส เล่าถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน สอนให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ที่สำคัญมีฉากแอ็คชั่น แฟนตาซี ครบรสมาก ๆ เลยครับ”

ไอ้ไข่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อรักษาสมบัติตามคำมั่นที่เคยให้ไว้กับพระธุดงค์ได้หรือไม่ ? ส่วนเก่งก็เคลือบแคลงใจว่าไอ้ไข่ไม่ใช่มนุษย์ มิตรภาพจึงเกิดรอยร้าวครั้งใหญ่ บทพิสูจน์แห่งศรัทธาและปาฏิหาริย์กำลังท้าทายทุกตำนานที่เคยเกิดขึ้น.. แฟน ๆ สามารถเตรียมรับชมปาฏิหาริย์แห่งการ “ขอได้ ไหว้รับ” ได้พร้อมกันในภาพยนตร์ ‘ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์’วันที่ 19 ม.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์