นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เงินไหลเข้ากว่า 1.9 แสนล้านในปี 2565

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือน ธ.ค. 2565 แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่เร่งตัวเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยลบทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงลบและปรับตัวลดลงตลอดปี

แต่ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) กลับมีความผันผวนที่น้อยกว่าและเป็นดัชนีเพียงไม่กี่ดัชนีในโลกที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในปี 2565

‘ศรพล ตุลยะเสถียร’ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นอาเซียน

โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากจากเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ประกอบกับข่าวดีที่ประเทศต่างๆ ทยอยเปิดประเทศ

โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น และกลับไปสู่ระดับช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า

ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิรวมทั้งปีที่ 196,886 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่มีการเผยแพร่ข้อมูลนี้ในปี 2535

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

• ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2565 SET Index ปิดที่ 1,668.66 จุด ปรับขึ้น 2.0% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับขึ้น 0.7%

• SET Index ในปี 2565 ได้แรงหนุนจากกลุ่มเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 คือ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

• ในปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนตั้งแต่ปี 2555 แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันจะปรับลดลงมาจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค

• ในเดือน ธ.ค. 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 56,184 ล้านบาท ลดลง 27.3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยนักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และในปี 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 76,773 ล้านบาท

• ด้านการระดมทุนในปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีมูลค่าการเสนอขาย IPO สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ในเอเชีย โดยมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนจากหลากหลายอุตสาหกรรม

• โดยในเดือน ธ.ค. 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 5 หลักทรัพย์ และ 1 กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า และใน mai 4 หลักทรัพย์ ทำให้มูลค่าการเสนอขายในหุ้น IPO ของไทยปี 2565 อยู่ที่ 127,836 ล้านบาท

• ราคาต่อกำไรล่วงหน้า (Forward P/E) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2565 อยู่ที่ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เอเชียที่ 12.2 เท่า ส่วนราคาต่อกำไรย้อนหลัง (Historical P/E) อยู่ที่ 14.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เอเชียที่ 12.0 เท่า

• อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2565 อยู่ที่ระดับ 2.76% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.16%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

• ในปี 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 565,627 สัญญา เพิ่มขึ้น 0.9% จากปีก่อนส ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures

• ส่วนในเดือน ธ.ค. 2565 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 690,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.7% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures