SHARE

คัดลอกแล้ว

นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของทีมชาติไทย ในการแข่งฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 (AFF Mitsubishi Electric Cup 2022) ที่สามารถเอาชนะคู่ปรับอย่างทีมชาติเวียดนามไปได้ ในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ทำให้ไทยคว้าแชมป์อาเซียนไปครองได้เป็นสมัยที่ 7

หากนับเฉพาะช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การได้แชมป์ถึง 4 ครั้งจาก 5 ครั้งหลังสุด เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าในยุคนี้ ไทยคือ ‘เบอร์ 1’ ของอาเซียนอย่างแท้จริง และหากในครั้งหน้าคว้าแชมป์ได้อีก ก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทีมในอาเซียนสามารถคว้าแชมป์ในระดับภูมิภาคได้ 3 สมัยติดต่อกัน 

แม้แฟนบอลหลายคนอาจเริ่มรู้สึกเฉยชา และอยากให้ไทย ‘ก้าวข้ามอาเซียน’ ไปได้แล้ว แต่อย่างน้อยการที่มาเล่นรายการนี้ โดยขาดตัวหลักจากชุดแชมป์ปีก่อนหลายคน แล้วยังทำผลงานได้ไม่ดร็อปลงไปจากเดิม ก็ถือว่าเป็น ‘สัญญาณที่ดี’ ในการที่จะต่อยอดไปยังรายการใหญ่ต่อไป

ช้างศึกชุดตัวหลักครึ่งทีม

หากเทียบรายชื่อผู้เล่น จะเห็นว่ามีเพียง ธีรศิลป์ แดงดา, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, บดินทร์ ผาลา, สารัช อยู่เย็น, กฤษดา กาแมน และ ธีราทร บุญมาทัน เท่านั้นที่เป็นแกนหลักมาจากชุดแชมป์ในปีก่อน

การไม่มีนักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และนักเตะคนอื่นๆ ที่ค้าแข้งในลีกต่างชาติ รวมไปถึงนักเตะบางคนจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ไปฝึกซ้อมอยู่กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่อังกฤษ ทำให้ขุมกำลังของทัพ ‘ช้างศึก’ ในรายการชิงแชมป์อาเซียนดูไม่แข็งแกร่งเหมือนกับปีก่อนๆ

แต่ในท้ายที่สุด มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ก็ยังทำผลงานได้ตามเป้าหมาย และเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมา ว่าในรายการระดับอาเซียน ไทยไม่จำเป็นต้องขนนักเตะมาลุยแบบเต็มอัตราศึกก็ยังคว้าแชมป์ได้

อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความคาดหวังในปีต่อๆ ไป ว่าการคว้าแชมป์อาเซียนตามปกติอาจไม่เพียงพอแล้ว แต่ต้องเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่ๆ ได้ลองลงสนามกับทีมชาติชุดใหญ่ด้วย

 

ความเหนือชั้นของ ‘ธีราทร’

การแข่งขัน AFF ที่ผ่านมาใน 4 ครั้งก่อนหน้านี้ หากทีมชาติไทยคว้าแชมป์ได้ คนที่จะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม MVP ในทุกครั้งคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพียงคนเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าแทบจะเป็น ‘ตัวแบก’ ของไทยในรายการนี้ก็ว่าได้ 

แต่เมื่อไม่มี ‘เจ’ ในปีนี้ ทำให้ ธีราทร บุญมาทัน ต้องมารับบทบาทผู้นำอย่างเต็มตัว และเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการตัดเกม การเชื่อมเกม การจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู รวมไปถึงการขึ้นไปทำประตูด้วยตัวเอง ซึ่งกลายมาเป็นประตูชัยให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ได้สำเร็จ 

ในวัย 32 ปี ‘อุ้ม’ คือหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จที่สุดของไทยในระดับสโมสร ทั้งจากผลงานคว้าแชมป์ไทยลีก 5 สมัย และแชมป์เจลีกอีก 1 สมัย แทบไม่ต้องสงสัยกับฝีเท้าของชายผู้นี้เลย

และในการลงเล่นให้ทีมชาติในรายการนี้ ด้วยทักษะและชั้นเชิงที่เหนือกว่าคนอื่นๆ อย่างชัดเจน กลายเป็นสิ่งที่ตอกย้ำอย่างชัดเจน ว่าเขาคือนักเตะที่ดีที่สุดในอาเซียนรายการนี้ พร้อมกับคว้ารางวัล MVP ไปได้อย่างสมเกียรติ

 

‘มาโน โพลกิ้ง’ ขึ้นแท่นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดของทีมชาติไทย

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ ‘มาโน’ เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเมื่อก.ย. 2021 ซึ่งตอนนั้นทัพ ‘ช้างศึก’ กำลังอยู่ในภาวะที่เสียศูนย์พอสมควร เพราะโค้ช 2 คนก่อนหน้าอย่าง มิโลวาน ราเยวัช และ อากิระ นิชิโนะ ต่างทำผลงานได้น่าผิดหวังทั้งคู่ ทำให้แฟนบอลไทยเสียศรัทธาไปไม่น้อย

การที่ ‘มาโน’ เข้ามาคุมทีมในช่วงเวลาแบบนั้น แล้วสามารถพาไทยกลับมาคว้าแชมป์อาเซียนได้ 2 สมัยติดต่อกัน ถือว่าโดยรวมแล้ว ‘สอบผ่าน’ ได้แบบสบายๆ

จากผลงานคุมทีม 27 นัด ชนะ 18 เสมอ 5 แพ้ 4 (ชนะได้ถึง 2 ใน 3) ทำให้เขากลายเป็นโค้ชที่มีเปอร์เซ็นต์ในการพาทีมชาติไทยคว้าชัยชนะได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา

แต่อีกส่วนหนึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่า ตลอด 1 ปีเศษที่ผ่านมา เขายังไม่ได้เจอกับของแข็งมากนัก เพราะทัวร์นาเมนต์ที่ลงแข่งมีเพียงรายการระดับอาเซียน และเอเชียนคัพรอบคัดเลือก

รายการต่อไปที่จะเป็นการวัดฝีมือของจริง คือการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก (WAFF 10th Championship) ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20 มี.ค. – 2 เม.ย. นี้ ซึ่งทีมชาติไทยได้รับเชิญเข้าแข่งขันเป็นครั้งแรก โดยจะต้องเจอกับทีมแกร่งจากตะวันออกกลางหลายทีม ซึ่งมีอันดับโลกสูงกว่าไทยแทบทั้งนั้น

ถึงตอนนั้นเราอาจจะพอมองออกแล้วว่า ‘มาโน’ คือคนที่ใช่สำหรับการคุมทีมชาติไทยต่อไปหรือไม่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า