ป.ป.ช.สนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน เข้าจับกุมผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) ขณะเรียกรับเงินกับคู่สัญญาโครงการอาหารนักเรียน เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. สนธิกำลังกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก. ปปป.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) เข้าจับกุมผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) คือ นายไพฑูรย์ ภูมิช่อ ผู้อำนวยการโรงเรียน
ขณะเรียกรับเงินจากคู่สัญญาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหาร (ปรุงสำเร็จ) สำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) สำนักงานเขตคลองสามวา ได้ที่ห้องที่ทำงาน พร้อมหลักฐานเป็นเงินสดจำนวน 329,000 บาท เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
สืบเนื่องจากก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนว่า นายไพฑูรย์ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ มีพฤติการณ์ เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เป็นเงิน 329,000 บาท อ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และเรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท
เงินส่วนหลังนี้อ้างว่าเป็นค่าดูแลครูที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการอาหารนักเรียน จำนวน 5 คน โดยให้เหตุผลว่าทางผู้ประกอบการได้กำไรจากการจัดทำโครงการดังกล่าวไปแล้ว หากไม่ยอมทำตามก็จะทำเรื่องยกเลิกสัญญาหรือทำเรื่องรายงานไปที่กรุงเทพมหานครว่า ผู้ประกอบการได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารเป็นเงินจำนวนมาก หลังทราบเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดดังกล่าวจริง จึงวางแผนให้ผู้ประกอบการนำเงินไปส่งมอบให้กับ นายไพฑูรย์ ตามที่ร้องขอ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นายไพฑูรย์ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าก่อนหน้าจะถูกจับกุมได้มีการเชิญตัวผู้ประกอบการมาเข้าพบจริง แต่เป็นการเรียกมาพบเพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ประกอบการคนดังกล่าววางลืมไว้หรือไม่ แต่ไม่ใช่ของตนอย่างแน่นอน เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวน ส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ตามหน้าที่และอำนาจต่อไป