WHA ลุ้นเก็บ 2 ดีลยักษ์ ตั้งเป้า 5 ปี ลงทุน 6.85 หมื่นล้าน รายได้รวมทะลุแสนล้าน

WHA มาแน่ปีนี้ลุ้นเก็บอีก 2 ดีลยักษ์ หนึ่งในนั้นใหญ่ระดับเดียวกับดีล BYD เผยเทรนด์นักลงทุนจีนโตโดดเด่นต่อเนื่อง ขณะที่ญี่ปุ่น-อเมริกา-ยุโรปส่งสัญญาณการลงทุน ตั้งเป้า 5 ปี ลงทุน 6.85 หมื่นล้าน รายได้รวมทะลุแสนล้าน หลัง All Time High ในปีที่ผ่านมา

หลังช่วงชิงความโดดเด่นในปี 2565 ด้วยดีลยักษ์ใหญ่กับค่ายรถ EV อย่าง BYD กลุ่ม WHA Group คาดมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการเติบโตกว่า 30% ทำให้ WHA Group ตั้งเป้าลงทุนต่อเนื่องกว่า 6.85 หมื่นล้าน สร้างรายได้รวม 100,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า

ในปี 2566 กลุ่ม WHA Group ตั้งเป้าหมายจะขยายธุรกิจในไทยและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ใน ‘เวียดนาม’ ใต้ภารกิจ Mission to the Sun มุ่งเน้น ‘อุตสาหกรรมเติบโตสูง’ อย่างเช่นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า  ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเฮลธ์แคร์

จุดยุทธศาสตร์ในไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ บางนา-ตราด และจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่อีอีซี รวมถึงขยายไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

โดย ‘จรีพร จารุกรสกุล’ ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ยังอธิบายว่า ในปีนี้ยังมีดีลยักษ์ใหญ่อีก 2 เจ้าที่กำลังจะเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group 

• ดีลแรก เป็นดีลขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการในรายละเอียด คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในเดือน เม.ย. นี้
• ดีลสอง เป็นดีลขนาดใหญ่มากๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์มีขนาดพอๆ กับดีล BYD ในปีที่ผ่านมา โดยยังอยู่ระหว่างการเจรจา คาดสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แวดวงธุรกิจในปีนี้

ในปี 2566 WHA Group ตั้งเป้ายอดขายนิยมอุตสาหกรรมในปี 2566 รวม 1,700 ไร่

“ระหว่างปี 2019-2022 มีนักลงทุนจีนในสัดส่วน 55% ของพอร์ตฟอลิโอ WHA Group และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะหลังจากเปิดประเทศ นักลงทุนจีนก็เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างในปีก่อนก็ได้บริษัทใหญ่อย่าง BYD เข้ามาลงทุน เชื่อว่าในปีนี้กลุ่มซัพพลายเออร์ก็จะตามเข้ามาลงทุนเช่นกัน โดยในไตรมาสนี้คาดว่าจะสามารถแถลงข่าวการเซ็นสัญญาเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนจีนเพิ่มเติมอีก”

สำหรับนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group แบ่งเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มยานยนต์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากจีน ขณะที่ลูกค้าจากญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรปก็เริ่มส่งสัญญาณการกลับมา คาดมูลค่าการลงทุนรวมของลูกค้าจีนที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ทะลุแสนล้านบาท

ส่วน ‘นิคมอุตสาหกรรม’ ในเวียดนาม มีโครงการนิยมอุตสาหกรรมที่จะเปิดใหม่ 2 โครงการในจังหวัดหลักๆ จากเดิมที่มีนิคมอุตสาหกรรมเปิดแล้ว 1 แห่ง รวมพื้นที่ 20,950 ไร่ ได้แก่ 

• เขตอุตสาหกรรม WHA Smart Technology Industrial Zone – Thanh Hoa พื้นที่ 5,320 ไร่ ในจังหวัดทัญฮว้าที่มีประชากรกว่า 3.6 ล้านคน มากเป็นอันดับสามของเวียดนาม มีกำหนดเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2567 หรือต้นปี 2568
• เขตอุตสาหกรรม WHA Smart Eco Industrial Zone – Quang Nam พื้นที่ 2,500 ไร่ อยู่ใจกลางของภาคกลางอย่างจังหวัดดานังและจังหวัดกว๋างหงาย โดยคาดว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตต่างๆ ในปี 2569 หรือ 2570 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างหลังจากนั้น

สำหรับ ‘ธุรกิจออฟฟิศ’ (Office Solutions) เตรียมขยายโครงการอาคารสำนักงานอีกหลายแห่ง โดยโครงการล่าสุดอย่าง ‘WHA KW S25’ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2566 และเตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ รวม WHA Group มีอาคารสำนักงาน 6 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 100,000 ตารางเมตรในกรุงเทพและสมุทรปราการ

ด้าน ‘ธุรกิจสาธารณูปโภค’ มุ่งเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม ทั้งในประเทศและในเวียดนาม

ด้าน ‘ธุรกิจพลังงาน’ จะขยายธุรกิจในประเทศไทย เวียดนาม และสำรวจหาตลาดใหม่ในประเทศอื่นๆ เน้นนวัตกรรมและความยั่งยืน ลุยธุรกิจ New S-Curve อาทิ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ไฮโดรเจน การซื้อขายคาร์บอนและการใช้และกักเก็บคาร์บอน (CCUS)

ด้าน ‘ธุรกิจดิจิทัล’ เตรียมเปิดตัวเวอร์ชัน 2 ของแอปพลิเคชัน WHAbit หรือโซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลธ์แคร์ ในไตรมาส 2 นี้ มาพร้อมฟีเจอร์การแสดงข้อมูลด้วยภาพ (Data Visualization) และคำแนะนำส่วนบุคคล รวมถึง WHA Group ยังเตรียมเปิดตัว Meta W เมตาเวิร์สด้านอุตสาหกรรมรายแรก เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าไปสัมผัสและตรวจเช็กพื้นที่ของตัวเองได้