แต่วันนี้ในโซเชียลมีกระแสพูดถึงการลาออกของครูไทย ซึ่งที่ผ่านมามีครูลาออกจากเหตุผลต่างๆ หลายคน
ครู โพสต์ป้ายลาออก จนกลายเป็นไวรัล “อย่าปล่อยให้งานเปลี่ยนเรา…”
สิริมาศ จันทรโคตร อดีตครูผู้ช่วย วัย 26 ปี เจ้าของไวรัล ป้ายลาออกจากราชการครู ที่มีข้อความว่า “อย่าปล่อยให้งานเปลี่ยนเรา แต่เราควรเป็นคนเปลี่ยนงาน” “ถึงไม่ได้เป็นครูในอาชีพ แต่เป็นครูในตัวตน”
สิริมาศ เรียนจบคณะศึกษาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตรศึกษา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น รับราชการครูอยู่ทั้งหมด 1 ปี 5 เดือน ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะมองว่า ตัวเองไม่เหมาะกับระบบที่เป็นอยู่
ครูรับราชการ 8 ปี ลาออก รับไม่ได้ระบบประเมินครู เอาเวลาสอนไปทำเอกสาร
นางกรวรรณ บุญทันเสน หรือ ครูเก่ง รับราชการครูมา 8 ปีเต็ม ยอมจำใจลาออกเพราะทนเห็นระบบราชการ ‘ครู’ ที่เห็นคุณค่าการทำประเมินผลงานเลื่อนวิทยฐานะ สำคัญกว่าการสอนเด็กนักเรียน
โดยในเอกสารระบุเหตุผลของการลาออกไว้ 2 ข้อ คือ
1.ไม่เห็นด้วยกับการให้ครูทำเอกสาร ประเมิน ประกัน ประกวด สำรวจข้อมูล ที่มากเกินความจำเป็น และไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเรียนการสอนเท่าที่ควร ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองแรงกาย แรงใจ ทรัพยากร เปลืองเวลา และงบประมาณโดยไม่มีเหตุจำเป็น
หลายครั้งกระทบเวลาที่ควรเตรียมการสอน ตลอดจนเวลาส่วนตัวที่ควรมีให้ครอบครัว เพราะครูก็มีลูกที่ต้องกลับไปอบรมดูแลสั่งสอนเช่นเดียวกัน
2.สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา การสอนออนไลน์ที่ต้องอาศัยทั้งความพร้อมและความร่วมมือจากเด็กและผู้ปกครองเป็นเรื่องยาก ข้าพเจ้าไม่สามารถปฏิบัติการสอนให้ได้ผลสำเร็จ คุ้มค่ากับเงินภาษีที่จ่ายเป็นเงินเดือนได้
ทั้งไม่มีความหวังที่แน่นอน ว่าจะสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติได้อย่างต่อเนื่องแท้จริงเมื่อใด จึงขอลาออก เพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกว่า เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน
ครูอนุชิต ลาออก เบื่อระบบทำเอกสาร จนไม่สนุกกับการสอนหนังสือ
ครูอนุชิต โพสต์สาเหตุลาออกหลังเจอปัญหาสะสม 7 ปี เหนื่อยหน่ายกับระบบ จนไม่สนุกกับการสอนหนังสือ ต้องทำเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนการสอน แผนพอเพียง วิจัย รู้สึกว่าเสียเวลา และเปล่าประโยชน์
และจุดพีคสุด จับโจรในคราบครู โกงเงินนักเรียน 50,000 บาท หลักฐานชัดเจน จับได้คาหนังคาเขา แต่คนนั้นกลับโดนลงโทษแค่ลดเงินเดือน 3 เดือน ทั้งๆ ที่ควรโดนให้ออกจากราชการไหม?