SHARE

คัดลอกแล้ว

‘คริส โปตระนันทน์’ ลาออกจากก้าวไกล เปิดปมซัดเป็นพรรค ‘โปลิตบูโร’ จ่อตั้งพรรคใหม่ ด้าน ‘รังสิมันต์ โรม’ เผยเสียดาย เตรียมหาคนใหม่ลงสมัคร ส.ส. เขตพญาไท ราชเทวี จตุจักร

นายคริส โปตระนันทน์ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจตุจักร พญาไท ราชเทวี ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่และมูลนิธิเส้นด้าย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2566 ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ

1. อยากจะทำการเมืองในพรรคที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะความเป็นประชาธิปไตยของพรรคยังห่างจากที่พรรคโฆษณาอีกมาก การที่ได้มาร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ปัจจุบันเป็นประธานคณะก้าวหน้า) ไม่ได้มาทำการเมืองเพื่อให้ใครได้เป็น ส.ส. หรือเพื่อให้ใครได้อำนาจ หรือมาทำการเมืองเพื่อผลักดันวาระทางการเมืองของใครบางคน

“ผมอยากได้พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงคือพรรคการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของ เวลาจากวันนั้นถึงวันผ่านมา 5 ปี ต้องถามกลับไปที่ประชาชนผู้เป็นสมาชิกพรรค จำนวนกว่า 6 หมื่นคน ว่าทราบบ้างหรือไม่ว่า พรรคมีประชุมสามัญวันไหน พรรคมีการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.กันอย่างไร กลไกในการคัดเลือกนโยบายที่จะหาเสียงในคราวนี้ คุณเคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือไม่? ใครจะได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ คุณรู้หรือไม่ ผมในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกตลอดชีพทั้งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ตอบได้เลยว่า เรื่องทั้งหมดที่เป็นเรื่องที่สำคัญมากทั้งสิ้น ล้วนเป็นเรื่องของการตัดสินใจของคนกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ผมให้ชื่อเล่นกลุ่มนี้ว่า โปลิตบูโร” นายคริส ระบุ

นายคริส ระบุอีกว่า หากการบริหารพรรคยังเป็นอย่างนี้ หากพรรคก้าวไกลได้อำนาจในการบริหารประเทศ พรรคก้าวไกลจะบริหารประเทศอย่างไร ก็คงต้องอยู่ที่คนกลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่สมาชิกพรรคแต่อย่างใด เรื่องดีๆ ใครก็พูดได้ แต่ทำยาก เข้าใจ มิฉะนั้น พรรคก้าวไกลในอนาคตคงจะมีชะตากรรมไม่ต่างจากพรรคการเมืองที่ดีแต่พูด (Hypocrital party) เรื่องนี้สะท้อนให้แกนนำฟัง พูดในที่ประชุมใหญ่พรรคทุกปี พูดกับทุกคน คำตอบที่ได้มีเพียงแค่ ขอเวลาหน่อย เรายุ่งมาก อดทนหน่อยนะ ทำให้แน่ ๆ เลือกตั้งคราวหน้า เราทำแน่ ๆ ฟังดี ๆ มันคล้ายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูด “ขอเวลาอีกไม่นาน”

เรื่องนี้รับรู้อย่างลึกซึ้งด้วยตัวเอง เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้สอบถามผ่านแกนนำว่าขอขยับไปลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้หรือไม่ เพราะหากลงแบบแบ่งเขตเหมือนปี 2562 เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่เขตดังกล่าวจะถูกแบ่งใหม่เป็น 3 ส่วน แต่กลับได้รับคำตอบว่า จะลงได้อย่างไร เพราะตนย่ำยีหัวใจคนในพรรคขนาดนี้ พอนั่งนึกก็ถึงบางอ้อ เพราะตนคัดค้านการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เนื่องจากเห็นว่ายังไม่ดีพอจะสู้กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ปัจจุบันเป็นผู้ว่าฯ กทม.) และคัดค้านการแต่งตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ คนหนึ่งมาเป็น ผอ.การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา เพราะไม่มีทางเข้าใจการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต เนื่องจากไม่เคยลงเลือกตั้งมาก่อน

นอกจากนี้ตนยังคัดค้านการแต่งตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อคนหนึ่ง มาเป็น ผอ.การเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ปี 2566 อีกครั้ง เพราะกำลังเอาคนที่ทำเลือกตั้งแพ้มาแล้วครั้งหนึ่ง มาคุมการเลือกตั้งที่สำคัญกว่าและใหญ่กว่า ขณะเดียวกันเมื่อปลายปี 2565 ตนในฐานะอดีตประธานมูลนิธิเส้นด้าย ได้แถลงข่าวกรณีอาสาของมูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากอดีต ส.ก.พรรคก้าวไกล จนโดนถล่มจากสมาชิกพรรคว่า ไม่ปกป้องพรรค

“ผมไม่เคยกลัวในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่เคยกลัวในการกระทำที่เราคิดว่าถูกต้อง และที่ผ่านมา ผมพูดตรง ๆ กับพรรคเสมอถึงความยุติธรรมในประเด็นต่าง เช่น การเกลี่ยทรัพยากรของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กับ ส.ส.เขต ความน้อยเนื้อต่ำใจของคนที่ลงพื้นที่เหล่านี้อยู่ในใจของผู้สมัครท้องถิ่น หรือผู้สมัคร ส.ส.เขตทุกคนแต่ไม่มีใครกล้าพูด แต่การที่ผมพูดกับแกนนำแบบนั้น มันทำให้ผมกลายเป็นคนมีปัญหา กลายเป็นคนเลว เพราะต้องการแย่งเงิน แย่งทรัพยากร ไม่จงรักภักดีกับพรรค” นายคริส ระบุ

นายคริส ระบุด้วยว่า วันที่นั่งคุยกับแกนนำพรรคเรื่องการขอขยับไปลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีแกนนำบางคนที่เป็นเจ้าของบริษัท เปรียบเทียบให้ตนฟังว่า หากมีเซลล์ในบริษัท 2 คน คนแรกเป็นคนเก่ง คนฉลาด ยอดขายดีมาก ๆ แต่ต่อรองผลประโยชน์ตลอด กับอีกคนยอดขายครึ่งเดียวของคนแรก แต่จงรักภักดีมาก ๆ เขาจะเลือกคนที่สอง เลยรู้แล้วว่า ชะตากรรมในพรรคนี้จะเป็นตาย ร้าย ดี ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะพิสูจน์ความจงรักภักดีกับ “โปลิตบูโร” ได้หรือไม่

2. ไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลายประการของพรรคก้าวไกล เพราะพรรคอนาคตใหม่ที่ร่วมจัดตั้ง ต้องสามารถโอบรับความเห็นหลากหลาย ไม่ว่าการเมืองแบบฝั่งซ้าย ฝั่งขวา ความคิดเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม สังคมนิยม โดยมีจุดร่วมสำคัญคือไม่เอาเผด็จการ และการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขณะนั้นยังไม่ใช่วาระของพรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ แต่ 5 ปีผ่านมา วันนี้นโยบายของพรรคก้าวไกลหล่นมาจากฟ้า หล่นมาจากห้องแอร์ โดยเฉพาะนโยบายหาเสียงสำคัญสุดคือ เงินบำนาญของคนอายุเกิน 60 ปี ที่ใช้งบประมาณกว่า 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนั้นประเทศไทยเตรียมฉิบหายได้เลย ตนไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ถ้าอยู่ในพรรคจะทำได้อย่างไรนอกจากอยู่เงียบ ๆ

3. ตนไม่สามารถโกหกประชาชนได้ ครั้งนี้จะลงสมัคร ส.ส.อีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่สามารถลงกับก้าวไกลได้ เพราะถ้าชนะการเลือกตั้ง เท่ากับโกหกประชาชน พูดนโยบายที่ตนไม่เชื่อ พูดถึงพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการจัดการ จะพูดถึงพรรคได้เต็มปากอย่างไร

“พรรคบอกว่า พรรคเป็นพรรคของประชาชน แต่ตอนนี้พรรคกำลังจะกลายเป็น “พรรคพวก” คนที่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จำนวนหนึ่งกำลังได้เป็นต่อในสมัยหน้า หาก “โปลิตบูโร” ถูกใจ ยังงั้นหรือ หากพรรคจะเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ พรรคต้องกล้าทำตามข้อเสนอ Set Zero ของนายปิยบุตร แสงกนกกุล (เลขาธิการคณะก้าวหน้า) พรรคต้องกล้าเปิดให้สมาชิกโหวตผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อทางตรงอย่างโปร่งใส เพื่อพิสูจน์กับประชาชน ว่านี่คือพรรคการเมืองสมาชิก เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมืองของโปลิตบูโร ไม่ใช่พรรคการเมืองของพรรคพวก” นายคริส ระบุ

นายคริส ระบุทิ้งท้ายว่า การที่ลาออกจากพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เพราะโกรธ หรือ เกลียด หรือน้อยใจ แต่เป็นเพราะไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของพรรค แต่ยังภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเด็นสังคมที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประชาธิปไตย หรือ เรื่องการเปิดใบอนุญาตสุรา ให้มาถึงจุด ๆ นี้ โดยตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ขอขอบคุณนายปิยบุตร ที่ชวนตนเข้ามาทำงานทางการเมือง แม้ว่าจะชิงลาออกตัดหน้าไปก่อนก็ตาม ตนขอขอบคุณ นายธนาธร ที่ได้ให้โอกาสเป็นหัวหน้าคณะทำงานนโยบายเศรษฐกิจที่พรรคอนาคตใหม่ ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ทั้งในพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล และประชาชนที่ได้ร่วมเดินทางกันทุกๆ ท่าน ถนนแห่งประชาธิปไตยไม่ได้มีทางเดียวแล้วพบกันที่ปลายทาง

มีรายงานข่าว แจ้งว่า นอกเหนือจากนายคริส และนายพีรพล กนกวลัย หรือ ‘เฮียเล้า’ ส.ก.เขตพญาไท แล้ว ยังมีการชักชวน ส.ก. ที่เป็นอดีตเครือข่ายมูลนิธิเส้นด้ายอีก 4 คน และส.ก.พรรคก้าวไกล ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นด้าย แต่หารือกันถูกคอหลังการเลือกตั้ง ส.ก. มาร่วมด้วยอีก 4 คน และยังมีอดีตเครือข่ายสมาชิกเส้นด้ายอีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วเบื้องต้นมีประมาณ 20 คนที่จะออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่

โดยตอนนี้มีการเสนอชื่อพรรคออกมา 2 ชื่อคือ พรรคทำได้และพรรคเส้นด้าย โดยในส่วนพรรคเส้นด้ายนั้น อาจไม่ถูกใช้ เนื่องจากเครือข่ายมูลนิธิเส้นด้ายอาจไม่เห็นด้วย เพราะปัจจุบันยังปฏิบัติงานเพื่อสังคมอยู่ และมูลนิธิไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรค กล่าวในวันนี้ (9 ก.พ. 66) กล่าวถึงกรณีที่ นายคริส โปตระนันทน์ อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล อ้างเหตุลาออกจากพรรค เพราะปัญหาภายในพรรค การจัด ส.ส.บัญชีรายชื่อ และที่อ้างว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคโปลิตบูโร โดยยอมรับว่า น่าเสียดายที่สุดท้ายนายคริส เลือกที่จะลาออกจากพรรค นับแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และย้ำว่าพรรคยังให้ความสำคัญในพื้นที่เขตพญาไท ราชเทวี จตุจักร ที่จะเอาชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ได้ และจะหาบุคคลเหมาะสมมาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน เพราะพรรคต้องเดินหน้าต่อ

โฆษกพรรคก้าวไกล ชี้ว่าคนลาออกจากพรรคเป็นเรื่องปกติ อาจเกิดจากความไม่พอใจหลายอย่าง ซึ่งหลายเรื่องพรรคน้อมรับนำไปปรับปรุงแก้ไข แต่ขอชี้แจงบางประเด็น เช่น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคนั้น จะต้องคำนึงหลายอย่าง และความหลากหลายของสังคม ยืนยันเป็นไปตามขั้นตอนและกติกาของกฎหมาย ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายกรรมการบริหารของพรรคต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเชื่อว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายคริสเลือกที่จะลาออกจากพรรคก้าวไกล ไปตั้งพรรคใหม่ ชี้เป็นเรื่องของความเห็นไม่ตรงกัน

“ดังนั้นการจะบอกว่า มีคนนอกเข้ามา ผมว่าไม่น่าเป็นไปได้ แน่นอนว่าสิ่งที่เราพยายามทำในเวลานี้กรรมการบริหารต้องเข้ามามีบทบาทหรือแม้แต่ตอนเลือกตั้งซ่อม กทม. ก็เป็นคนในพรรคที่เข้ามามีบทบาท และเลือกตั้งครั้งนี้ก็ต้องเป็นคนของพรรคที่เข้ามามีบทบาท นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำ อยากให้มองเดี๋ยวนี้ว่าสุดท้ายก็อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นความเห็นไม่ตรงกัน ทำให้คุณคริสรู้สึกว่าไปทำพรรคของตัวเองหรือไปอยู่พรรคไหนคิดว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขา” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะมี ส.ก.ก้าวไกล จะตอบรับไปอยู่กับนายคริสกี่คน ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าประชาชนให้ความสำคัญกับพรรคก้าวไกลมากกว่าตัวบุคคล และมั่นใจว่ากระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลในกรุงเทพมหานครไม่เป็นรองใคร และมั่นใจว่ากรุงเทพมหานครยังเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ ที่พยายามจะชนะเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า