SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ขน ส.ส. รวม 13 คน ที่มติพรรคเศรษฐกิจไทยขับออก ย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ (10 ก.พ. 66) โดยเจ้าตัว ยืนยันจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคพลังประชารัฐ ขอช่วยงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สู้ศึกเลือกตั้ง 2566 คุมพื้นที่เก่าสมรภูมิ ‘ภาคเหนือ’

ย้อนเส้นทางการเมืองของธรรมนัส ช่วง พ.ศ. 2565-2566

– 19 ม.ค. 65 ‘ธรรมนัส’ ถูกมติพรรคพลังประชารัฐขับออก พร้อมกับ ส.ส. อีก 20 คน หลังเกิดข่าวความขัดแย้งภายในพรรค ความไม่ลงรอยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

– 20 ม.ค. 65 เปิดตัวเข้าทำงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย นำ ส.ส. 18 คน เข้าสมัครเป็นสมาชิก อีก 3 คนมีข่าวว่าย้ายไปทำงานกับพรรคอื่น

– 10 ก.ค. 65 ผู้สมัครของพรรคเศรษฐกิจไทย แพ้เลือกตั้งซ่อมลำปางให้กับผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทย โดยเปิดเหตุผลว่าเพราะจุดยืนพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ชัดเจน จะเป็นพรรคประชาธิปไตย หรือเข้าข้างเผด็จการ ทำให้ ‘ธรรมนัส’ ย้ายข้าง ประกาศเป็นฝ่ายค้าน ไม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

– 10 ต.ค. 65 ‘ธรรมนัส’ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เกิดกระแส ‘ดีลดูไบ’ จะย้ายซบ ‘พรรคเพื่อไทย’ ทำให้ผู้สนับสนุนของเพื่อไทยออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางค่อนไปทางไม่เห็นด้วยที่เพื่อไทยจะรับ ‘ธรรมนัส’ กลับ ขณะเดียวกัน ส.ส.ในกลุ่มของ ‘ธรรมนัส’ แตกอีก โดยกลับพรรคพลังประชารัฐ 1 คน เข้าพรรคภูมิใจไทย 3 คน เหลือ 12 คนเท่านั้นที่ยังเหนียวแน่นชนิด “พี่นัสไปไหนไปกัน”

– 16 ม.ค. 66 ‘ธรรมนัส’ ปรากฏตัวที่พะเยา ในวันเดียวกันกับที่พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ โดยมีซีน ‘ธรรมนัส’ คุกเข่ากลางเวที นำพวงมาลัยกราบ พล.อ.ประวิตร โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ประกาศในวันนั้นว่า เปรียบเหมือนพ่อพาลูกกลับบ้าน

“เวลานี้ ลุงป้อมเปรียบเหมือนพ่อ วันนี้ลูกกลับมาบ้าน มาช่วยพาบ้านพลังประชารัฐให้เข้มแข็งและแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจังหวัดพะเยายกทีม ให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้เลยว่า ลูกๆ กลับมาบ้านแล้ว พ่อดีใจมากและหุงข้าวไว้รอแล้ว”

– 10 ก.พ. 66  ‘ธรรมนัส’ นำ ส.ส. ที่เหลือ 12 คน รวมตัวเองเป็น 13 คน กลับเข้าทำงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง หลังจากไปเป็นเวลากว่า 1 ปี

‘ธรรมนัส’ เปิดใจคิดถึงบ้านเก่า กลับมาอบอุ่น พร้อมดัน ‘ประวิตร’ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ให้สัมภาษณ์ในวันแรกที่ได้กลับเข้าพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งในวันนี้ (10 ก.พ. 66) ยอมรับว่า คิดถึงบ้านเก่าและผูกพัน เมื่อกลับมาครั้งนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาถือว่า เป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมาไม่ใช่คนหาเรื่องคนและนโยบายของ พล.อ.ประวิตร คือก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นอะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้ผ่านให้ผ่านไปกับปีเก่า เริ่มต้นใหม่ทุกเรื่องทุกประเด็น

การกลับมาพลังประชารัฐครั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้คุมพื้นที่ภาคเหนือเช่นเดิมกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยเจ้าตัวบอกว่า วางตัวผู้สมัคร ส.ส. ใน 8 จังหวัดภาคเหนือเรียบร้อยแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง

“สถานการณ์การเมือง ปี 2562 กับ ปี 2566 ต่างกันมาก เพราะคู่ต่อสู้เตรียมตัวมาดี ทุกพรรคเตรียมตัวมา 4 ปีแล้ว โดยพื้นที่ที่ผมดูแลไม่หนักใจ คิดว่าดูแลประชาชนได้”

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวว่า ไม่ห่วง กระแสแลนส์สไลด์ในพื้นที่ภาคเหนือของพรรคอื่น มั่นใจในการทำพื้นที่แม้กระแสการเมืองครั้งนี้ต่างกับ ปี 2562 อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การแก้ปัญหาน้ำและที่ดินที่เป็นผลงานโดดเด่นของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตอนเป็นรัฐมนตรีทำเรื่องนี้มาตลอด เพราะเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการผลักดันเรื่อง สปก.4-01 จะต้องทำต่อ

ส่วนว่าพลังประชารัฐจะสามารถสร้าง “ผู้นำประเทศ” ได้อีกครั้งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ในสถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ พล.อ.ประวิตร เหมาะสมที่สุด”

นอกจากนี้ ยังให้ความเห็นว่า เรื่องการขึ้นเงินเดือนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่เป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ว่า พรรคพลังประชารัฐพูดคุยมานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรกได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาลว่า ค่าตอบแทนของนายกอบต. เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ควรจะปรับให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะหากเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพก็ไม่สามารถทำงานให้กับประชาชนได้ พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนไม่ใช่คัดค้าน

และว่า จะพยายามแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะลำไย ให้กับประชาชน 8 จังหวัดภาคเหนือ ด้วยการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ลำไย ซึ่งตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายของพรรคพลังประชารัฐทุกคนก็รับทราบว่า เราจะผลักดันพ.ร.บ.ลำไย ให้สำเร็จ

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ อารมณ์ดีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หยอกล้อกับนักข่าว พร้อมเปิดเผยว่า ให้ ร.อ.ธรรมนัสดูแลพื้นที่ภาคเหนือ “อารมณ์ดีทุกวัน มีวันไหนที่อารมณ์ไม่ดี” พล.อ.ประวิตร ตอบนักข่าวที่แซววันนี้วันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

สำหรับ ส.ส. ที่กลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส อาทิ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา และนายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

‘ก๊วนธรรมนัสแตก’ ลือย้ายซบเพื่อไทย บางส่วนไปภูมิใจไทย และมีกลับถิ่นเก่าพปชร.ด้วย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า