นายกฯ บอกกับ ยุวทูตคุณธรรม สังคมปัจจุบันต้องปรับตัว ถามกูเกิลก่อนวิจารณ์รัฐบาลทำอะไร

นายกฯ ปาฐกถาพิเศษกับยุวทูตคุณธรรม บอกสังคมปัจจุบันต้องปรับตัว ลุงก็ต้องปรับตัว ไม่ใช่คนแก่ไม่รู้เรื่อง ขออย่าหาว่าโบราณ ยืนยัน ไม่ก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ-ตุลาการ อยากรู้รัฐบาลทำอะไรให้ถามกูเกิลก่อนวิจารณ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาแก่นนำเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นยุวทูตคุณธรรมในศตวรรษที่ 21 พร้อมกล่าวปาฐกถา “การเป็นยุวทูตคุณธรรมขับเคลื่อนกิจกรรมในการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก”

ตอนหนึ่งได้กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะแต่มีเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น มีปัญหามากมาย ทั้งโรคอุบัติใหม่ จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ ตนก็พยายามปรับเช่นกัน อย่าหาว่าคนแก่ไม่รู้เรื่อง เราก็รู้เรื่องของเราในทักษะการบริหาร แต่ก็ต้องทำความเข้าใจเพื่อจะสานต่อ ก่อนที่จะแนะนำคณะ ที่เดินทางมาร่วม พร้อมถามยุวชนว่าอยากเป็นแบบนี้หรือไม่  อยากเป็นก็ต้องพัฒนาตัวเอง วันหน้าในที่นี้ อาจจะเป็นนายกฯเหมือนตนก็ได้ ใครจะไปรู้

รัฐบาลทำงานที่ครบถ้วนอยู่แล้วในระบบบริหาร ตนบริหารมาหลายปี หลายคนอาจจะไม่ชอบหน้า หรือชอบบ้างอะไรก็แล้วแต่ แต่ก็ตั้งใจที่จะทำเพื่ออนาคตของประเทศไทย เดินไปข้างหน้า โดยคำว่ามั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คำว่ามั่นคง คือ มั่นคงในทุกมิติไม่ใช่เฉพาะการทหารอย่างเดียว ต้องมั่นคงในเศรษฐกิจสังคม ในเรื่องของความมั่งคั่ง คือความมั่งคั่งของประเทศ จะทำอย่างไรให้ทุกคนเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดี รัฐบาลพยายามแก้ไขตรงนี้ อย่างบ้านเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งมีทุกประเทศ ทั้งเรื่องประชาธิปไตยและการค้าเสรี มีทั้งคุณทั้งโทษ ไม่เช่นนั้นคนคงไม่ใช้ระบบนี้เยอะ ระบอบประชาธิปไตยการค้าเสรี ก็ถือว่าดีกว่าระบบอื่น เราจะต้องทำแบบของเราให้ดีที่สุด ขณะที่ความพอเพียงใช้เท่าที่จำเป็น โดยต้องยึดความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี นั่นคือความรู้และคุณธรรมต้องมาผสมกับเรื่องศาสนา ‘หิริโอตัปปะ’ ความละอายเกรงกลัวต่อบาป ไม่มีใครรู้ เรารู้ ต้องทดสอบตัวเองเสมอ ความต้องการต่างๆ เราอย่าไปเบียดเบียนคนอื่น อย่าไปทำอะไรที่ไม่สุจริต ทำอะไรก็พูดกับใครได้เต็มปาก

ประเทศไทยดีกว่าต่างประเทศ ไม่มีภูเขาไฟ ไม่อยู่ใกล้รอยแตก รอยเลื่อนมากนัก มีอยู่บ้างทางตอนเหนือ ยังไม่มีผลกระทบกับเรา แต่ก็อย่าประมาท หลายเรื่อง ถ้าสั่งแก้ได้ก็แก้ทันที ทั้งหมดอยู่ในแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ตนทำคนเดียวไม่ได้ทุกคนต้องช่วยกัน

“เรื่องการใช้อำนาจ ลุงก็เบื่อการใช้อำนาจ เราต้องใช้ความร่วมมือไม่ต้องบังคับ ทั้งหมดวันนี้ยังแก้ไม่ได้เพราะเราอยู่กันแบบนี้ เราสามารถสร้างพลังทางสังคมได้ในทางที่ก่อประโยชน์ ไม่ใช่ไปขัดแย้งอะไรกันแน่นอน ต้องมีอะไรที่ไม่ถูกใจบ้าง ลุงไม่เคยรังเกียจใครทั้งสิ้น จะรักลุงหรือไม่ก็ช่าง แต่อยากให้ทุกคนรักประเทศไทยของเรา” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชมภาพวาดที่รับจากเยาวชน ที่มีชื่อว่า “แผ่นดินเดียวกัน” โดยบอกว่า มีความสมัครสมานสามัคคี เพราะต่อให้สั่งอย่างไร หากพวกเราไม่ร่วมมือ ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่ใช่รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย มีแผนทั้งหมดแต่เราต้องร่วมมือกันทั้งหมด ไม่โทษใคร แต่เราต้องร่วมมือกัน

พร้อมระบุว่า หากเยาวชนอยากดูการบริหารจัดการหน่วยงานต่างๆ ขอให้เปิดดูในกูเกิล ก่อนที่จะกล่าวว่าอย่าหาว่าลุงโบราณ ต้องเรียนรู้ต้องอ่านหนังสือ ดูอันที่เป็นประโยชน์บ้าง อะไรที่สนุกสนานก็ไม่ว่า เพราะเป็นวัยของเรา แต่ต้องเปิดดูอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง

“แม้กระทั่งดูโทรทัศน์มีเรื่องการเมืองมากลุงก็ไม่ดู อะไรที่สร้างภาระให้คนอื่น เป็นความทุกข์ที่เราต้องช่วยกันแก้ รัฐบาลพยายามทำอยู่แล้ว กี่ลุงก็ทำไม่ไหว หากพวกเราไม่ช่วยกัน กี่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ได้หมายความว่าลุงจะอยู่ 20 ปี แต่จะเป็นแนวทางในการทำงาน“ นายกฯ กล่าว

นายกฯ ยังกล่าวว่า คนเราต้องมีหิริโอตัปปะ อริยสัจ 4 ศาสนาก็สำคัญใครเป็นไทยพุทธต้องเรียนรู้เสียบ้าง ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็นกลางที่สุด ศาสนาอื่นเขาเข้มงวด เราก็ทำให้ดีที่สุดของเรา ทำบุญไหว้พระทำกุศลด้วย ทำบุญทำกับวัด ทำกับพระ แต่ทำกุศลทำกับคน อย่างน้อยให้กำลังใจก็ได้กุศล

“ทุกอย่างที่พูด ลุงคาดหวังว่าลุงแก่กว่านี้ตายไปแล้วก็ จะกลับมาดู หมอดูหมอเดาเยอะไปหมดไม่เป็นไรนี่คือไทยๆ ของเรา ก็จะกลับมาดูว่านี่คือเยาวชนของชาตินี่คืออนาคต เราต้องการคนดีคนดีคืออะไรก็น่าจะรู้ คือทำเพื่อคนอื่นเขาด้วยไม่ทำคนอื่นเขาเดือดร้อน อยู่ภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรมและเหมือนกันทุกคน ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่โดนโทษเขาไม่ได้หรอก กฎหมายหากเราไม่เคารพกฎหมายต่างคนต่างไม่เคารพก็ตีกันไปหมดนี่คือความเท่าเทียมกันความเท่าเทียมคือความเท่าเทียมทางโอกาส ภายใต้กฎหมายอันเดียวกัน มีผลกระทบต่อคนอื่นไม่ได้ ผิดไม่ผิดก็ไปต่อสู้กันในกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นเอง ไม่ใช่เกลียดใครชอบใครไม่ใช่หรอก มันอยู่ที่ส่วนประกอบหลายอย่างก็แล้วกัน สิ่งสำคัญนอกจากคนดี อะไรดีไม่ดีโตกว่านี้หากไม่รู้ว่าดีไม่ดีไม่ได้แล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้วแหละ คนดีคนเก่งเป็นคนที่ดีเป็นคนที่มีคุณภาพเข้าใจหรือไม่ มีคุณภาพคือมีประโยชน์ต่อสังคมมีประโยชน์ต่อครอบครัวพ่อแม่ ไม่ใช่มองอะไรตำหนิติติงไปหมดหาคนรับผิดชอบ เราต้องร่วมมืออันไหนที่สิ่งที่รัฐบาลทำก็จะร่วมมือกันไปวันหน้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทำให้ดีกว่านี้ได้หรือไม่” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังถามเยาวชนในห้องว่า มีใครพูดภาษาที่ 3 ได้หรือไม่ และได้กล่าวว่า ใครเว้าลาวได้บ้าง ภาษาลาวเป็นภาษาเดียวที่เวลาลุงพูดกับเขาไม่ต้องมีล่ามแปล ถ้าเป็นไปได้อยากให้ค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้ตรงนี้ไปบ้าง อย่างน้อยในวันหน้ามีโอกาสก็ไปต่อยอดตรงนั้น

ขณะเดียวกันยังกล่าวถึงปัญหายาเสพติด ที่หลายคนออกมาระบุว่า สมัยนี้มียาเสพติดมาก แต่เป็นเพราะมีโซเชียลมีเดียค่อยเฝ้าระวัง ส่วนเรื่องการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ มีทั้งดีและไม่ดี เราเรียนรู้เพราะอะไรไม่ดีเราอย่าทำอีกนำมาเป็นบทเรียน การเรียนประวัติศาสตร์ วันนี้ไม่อยากให้เรียนแบบเดิมๆ แบบท่องแล้วสอบ แต่ต้องเรียนด้วยความเข้าใจ เราลืมไม่ได้ ความเป็นวัฒนธรรมประเพณีของชาติ มวยไทยของเราก็คือมวยไทยนี่แหละ อย่าไปทะเลาะกับเขามากนัก ของเราสุดยอดอยู่แล้ว

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า อย่าเพิ่งเบื่อ นานๆ คุยกันสักที อะไรไม่ดีช่วยกันแก้ แต่ก่อนจะด่าว่าใคร เปิดกูเกิ้ลดูเสียก่อน เปิดไปเถอะขอให้อ่านอะไรเป็นของราชการ นี่คือสิ่งที่เป็นหลักการหากไม่มีหลักการพูดอย่างเดียวสั่งอย่างเดียวคิดอย่างเดียวทำไม่ได้ อำนาจอีกส่วนอยู่ที่ไหน อำนาจนิติบัญญัติอยู่ที่ใคร อยู่ที่สภา ส.สในสภาก้าวล่วงไม่ได้ อีกทั้งมีอำนาจตุลาการด้วย ต่างคนต่างทำหน้าที่ อะไรเสริมได้ก็เสริม หากขัดแย้งอะไรก็ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่าไปยุ่งกับตุลาการ เราก็อย่าไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามไม่ถูกต้อง ไม่ต้องไปเดือดร้อนกับใคร

พล.อ.ประยุทธ์ ถ่ายรูปด้วยท่า Y2K กับยุวทูตคุณธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงนายจุติ  ได้มีการกล่าวทำความเข้าใจกับยุวทูตฯ ว่า เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องการทำเพื่อเตรียมเยาวชนเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 พร้อมยกตัวอย่าง สงครามยูเครน-รัสเซีย ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง สอดคล้องกับการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ และต้องพร้อมรับฟังความเห็นความแตกต่าง โดยไม่ทะเลาะกัน พร้อมอธิบายว่า การตั้งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารไม่เป็นความจริง แต่ตั้งที่นี่ นี่คือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ปี 2551 มานั่งในห้องประวัติศาสตร์ นั่งในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่เลือกนายกรัฐมนตรี คือ นายอภิสิทธิ์