‘สมศักดิ์’ ไม่รู้ ส.ส.ค่ายสามมิตรสุโขทัยย้ายไปเพื่อไทย ย้ำยังอยู่พลังประชารัฐ ‘สุริยะ’ ไปไหนไปด้วยกัน

สยบข่าวแยกวง ‘สมศักดิ์’ ยืนยันยังอยู่พรรคพลังประชารัฐกับ ‘สุริยะ’ ย้ำทำงานได้กับทุกคน บอกไม่รู้ ส.ส.ค่ายสามมิตรสุโขทัยย้ายไปเพื่อไทย แต่มั่นใจสร้างคนใหม่แทนได้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงแนวทางการเมืองว่า ตนเองตามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไปไหนไปด้วยกัน ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ทำงานการเมืองด้วยกันมาเกือบ 30 ปี เรามีแนวทาง วิธีคิดต่างๆ เหมือนกัน นายสุริยะประกาศแล้ว ประกาศอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

ส่วนทีมงานที่เป็นส.ส.ในจังหวัดสุโขทัยได้ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย และก่อนหน้านั้นสมาชิกของสามมิตรก็ย้ายไปพรรคอื่น และพาคนไปด้วย 7-8 คนนั้น

นายสมศักดิ์ บอกว่า ไม่เคยหวงห้ามใครทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้ทีมงานในกลุ่มสามมิตรก็ย้ายไปพรรคอื่น และพาพวกไปด้วย 7-8 คน เป็นเรื่องของคนที่จะต้องเติบโต เพื่อหาแนวทางเดินต่อไป ประกอบกับเรามีเรื่องเส้นเวลา คือเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถ้าเราอยากเป็น ส.ส. ก็จำเป็นต้องสังกัดพรรคตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เขาทนไม่ไหวเลยต้องหาที่อยู่ใหม่ ในกรณีที่มีพื้นที่เลือกตั้งยาก เราก็ต้องปล่อย ซึ่งเราก็ต้องหาคนใหม่มาเสริม คิดว่าสามารถหาได้ ไม่มีปัญหาเพราะเวลายังมีอยู่

ทั้งนี้ ได้ยืนยันกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้วใช่หรือไม่ว่าจะไม่ไปไหน นายสมศักดิ์ ย้ำว่า นายสุริยะได้พูดคุยกับพลเอกประวิตรทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนขณะนี้เรายังทำงานและถือเป็นหัวหน้ากลุ่มของเรา มีสิทธิ์มีเสียงที่จะเสนอตัวขึ้นมาเป็นผู้บริหารในอนาคตได้ ย้ำว่าตนกับนายสุริยะไปด้วยกัน ทั้งนี้ยอมรับว่า ไม่ทราบมาก่อนที่สมาชิกกลุ่มสามมิตรของจังหวัดสุโขทัยจะย้ายไปพรรคเพื่อไทย ตอนแรกก็บอกว่าอยู่ด้วยกันพอถึงเส้นแบ่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ กลับหายไป ซึ่งมั่นใจจะสร้างคนใหม่ลงในนามของพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนล่าสุดที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เข้ามามีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ โดยได้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือนั้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหากับร้อยเอกธรรมนัส และการทำงานไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง หรือชอบไม่ชอบใคร เราเน้นการทำงานทำตามสั่งผู้บังคับบัญชา แนวนโยบายของพรรคเป็นอย่างไร เราต้องทำตัวให้เหมือนน้ำ ที่อยู่ในแก้วน้ำแข็งเปล่า เราเป็นน้ำต้องสามารถเชื่อมประสานให้เป็นเนื้อเดียวกันและทำงานไปด้วยกันได้ หากท่านมาจริง แต่ก็ยังไม่เห็นว่าเป็นการสมัครสมาชิกหรืออย่างไร แนวทางของเขาเป็นอย่างนั้น ส่วนตัวก็ไม่มีปัญหา

การจะวางตัวลงบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์นี้ยังต้องทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีตรงนี้ ก็ต้องรับผิดชอบ รวมถึงในสภามีการอภิปราย ตนก็ต้องรับผิดชอบ หากเราอยากเป็นผู้แทนราษฎรต่อก็ต้องมีที่ยืนเป็นมั่นเป็นเหมาะ เมื่อถามย้ำว่า เมื่อเปรียบเป็นน้ำแยกคนละแก้ว หากชนะการเลือกตั้ง จะกลับมารวมกันใหม่ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ยังอีกไกล