SHARE

คัดลอกแล้ว

แง้ม 5 ไฮไลต์ที่คุณอาจไม่เคยรู้ในคอนเสิร์ต ‘เบิร์ด ธงไชย’ ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งตลอดกาลของไทย

คอนเสิร์ตของ ‘เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์’ นับเป็นตำนานของความอลังการที่กล่าวขานมาทุกยุคทุกสมัย ในฐานะสุดยอดความบันเทิงที่ดูได้ทั้งครอบครัว และยังเป็นเสมือนบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดภาพจำแห่งยุคสมัย กระแสฮิตมาแรงในช่วงเวลานั้น ๆ หรือแม้แต่การรวมตัวศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ที่หาดูไม่ได้ที่ไหน

ล่าสุดทาง Netflix ก็กำลังทยอยยกขบวนทั้ง 32 คอนเสิร์ต ตลอด 36 ปี ของ ‘เบิร์ด ธงไชย’ มาให้แฟน ๆ รับชมกันได้แบบครบจบในที่เดียวบน Netflix กันแล้ว ใครที่ตื่นเต้นกับคอลเลกชันละลานตาจนยังเลือกปักหมุดไม่ได้ว่าจะเริ่มจากคอนเสิร์ตไหนก่อนดี วันนี้เรามี 5 แง่มุมไฮไลต์เด็ด ๆ ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาฝากกัน จะมีอะไรบ้างเราลองนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปดูกันเลย

#1 เทคโนโลยีล้ำสมัยในยุค 80-90

ย้อนกลับไปในยุคก่อน Y2K สมัยที่วิดีโอยังใช้อัตราส่วน 4:3 คอนเสิร์ตของเบิร์ด-ธงไชย นับว่าเป็นความทันสมัยที่รวมเอาเทคโนโลยีล้ำๆ  มาไว้ในที่เดียว ในคอนเสิร์ต ‘แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #1-5/1986-1991 : Highlight Collection’ มีทั้งการใช้ Laser Animation สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม รวมไปถึงการออกแบบโปรดักชั่นสุดอลังการ เช่นการเนรมิตให้ฝนตกบนเวที การใช้แสง Blacklight ในเพลง “พักตรงนี้ Original” การยกน้ำพุมาไว้บนเวที และการใช้ดาบเลเซอร์ในการแสดง ที่นับว่าสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ให้กับคอนเสิร์ตแห่งยุค 80-90 เลยก็ว่าได้

นอกจากนั้นคอนเสิร์ตของพี่เบิร์ด ยังโดดเด่นด้านความสนุกสนานเป็นกันเองกับแฟน ๆ โดยเป็นคอนเสิร์ตแรก ๆ ในไทยที่ผู้ชมมักจะได้มีส่วนร่วม หรือโต้ตอบกับศิลปินบนเวที ในยุคที่แท่งไฟยังไม่ได้แพร่หลายในประเทศไทย อย่างในคอนเสิร์ต ‘DREAM’ เมื่อปี 1996 ก็มีการใช้บัตรสะท้อนแสงขนาดเล็กให้แฟน ๆ ถือไว้แล้วสะบัดให้เกิดแสงระยิบระยับเมื่อมองจากเวที สร้างบรรยากาศที่งดงามเหมือนอย่างการถือแท่งไฟในปัจจุบัน ทว่าคลาสสิกด้วยสไตล์ยุค 90 นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเวทีให้ศิลปินได้ใกล้ชิดแฟน ๆ มากขึ้น อย่างการใช้เวที 360 องศาเป็นเวที CENTER STAGE ท่ามกลางผู้ชมใน INDOOR STADIUM ครั้งแรกของประเทศไทย ก็เกิดขึ้นในคอนเสิร์ต ‘ธงไชย เซอร์วิส พิเศษ’ ในปี 1999 นั่นเอง

#2 สอดแทรกศิลปวัฒนธรรมไทยประยุกต์

อีกหนึ่งความไม่ธรรมดาของคอนเสิร์ต เบิร์ดธงไชย คือการผสมผสานเอาศิลปะวัฒนธรรมไทย และการแสดงพื้นบ้านมาประยุกต์บนเวทีคอนเสิร์ต และการที่พี่เบิร์ดเองมีส่วนร่วมในการแสดงเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการเชิญศิลปินแห่งชาติ ‘ลำตัดแม่ประยูร’ มาขึ้นเวทีถึง 2 ครั้ง รวมไปถึงโชว์ตีกลองสะบัดชัยและการแหล่ขานชื่อโดยพี่เบิร์ดเอง ทั้งหมดนี้รวมไว้ใน ‘แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #1-5/1986-1991 : Highlight Collection’ และในคอนเสิร์ต ‘แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์#6/1994 ตอน อยากเห็นท้องฟ้า…เป็นอย่างในฝัน’ พี่เบิร์ดก็ได้ทำการแสดงลิเกเป็นครั้งแรกเมื่อ 29 ปีที่แล้วร่วมกับ อาจารย์ เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงอีกด้วย

นอกจากนี้ในคอนเสิร์ต ‘แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #10/2012 ตอน วันของเรา Youngอยู่’ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตครบรอบ 25 ปีของเบิร์ดธงไชย ยังมีการเนรมิตฉากหลังบนเวทีเป็นท้องทะเลอันงดงามในเพลง‘ฝากฟ้าทะเลฝัน’ โดยมีหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ ร่วมแสดงไปพร้อมๆ กัน นับเป็นอีกหนึ่งโชว์ระดับตำนานที่ไม่ได้หาชมกันได้ง่าย ๆ

#3 โชว์ Musical ในแบบฉบับเฉพาะตัว

การแสดงละครเวทีของเบิร์ดธงไชย นับว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ประสบความสำเร็จ ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม และเป็นภาพจำของคอนเสิร์ตเบิร์ด ธงไชย ในหลาย ๆ ครั้ง จุดเริ่มต้นมาจากคอนเสิร์ตกึ่ง Musical ครั้งแรกที่ชื่อว่า ‘เบิร์ด เปิ๊ด-สะ-ก๊าด’ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี 35 ปีที่แล้ว พร้อมโชว์บทเพลงลูกกรุงหวานชื่นที่เป็นอมตะ โดยใช้ฉากหลังเป็นยุค พ.ศ. 2501 ซึ่งหลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าเป็นกิมมิกการใช้ปีเกิดของเบิร์ด ธงไชยนั่นเอง  และแฟน ๆ ในยุคหลังต้องเซอร์ไพรส์เมื่อได้เห็นว่า ‘ป๋าเต็ด ยุทธนา’  ก็เคยปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิร์ตครั้งนี้ในฐานะแขกรับเชิญอีกด้วย

  ต่อมาในคอนเสิร์ต ‘แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #6/1994 อยากเห็นท้องฟ้า…เป็นอย่างในฝัน’ นับเป็นอีกครั้งที่ผู้ชมได้เห็นงานโปรดักชั่นสุดอลังการ ทั้งการใช้สลิงและผ้าม่านผืนยักษ์บนเวที และการโชว์ Musical โดยมี ‘นัท มีเรีย’ มารับบทนางเอกสาว โดยทั้งร้องเพลงและแสดงบนเรือขนาดยักษ์ชื่อว่า ‘ชลาลักษณ์’ ที่สร้างขึ้นเพื่อโชว์นี้โดยเฉพาะ

และหลังจากนั้นไม่นาน เบิร์ด ธงไชย ก็ได้เปิดการแสดง Musicalเต็มรูปแบบครั้งแรกในคอนเสิร์ต ‘แบบเบิร์ดเบิร์ด #7/2000 อโรคา จอมยา กับยาใจ’ หนึ่งในโชว์ที่สร้างปรากฏการณ์เป็น Talk of the town โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 2 VERSIONS แบบ DOUBLE CAST สลับกันแสดงโดย 2 นางเอก คือ นิโคล เทรีโอ และ นัท มีเรีย สองศิลปินหญิงที่โดดเด่นทั้งด้านการร้อง และการแสดงแห่งยุค ซึ่งชุดสุดอลังการทั้งหมดที่ใช้ในการแสดงล้วนเป็นวัสดุ RECYCLEทำมือทั้งสิ้น

#4 Dance กระจายกับท่าเต้นอันเป็นที่จดจำ

ต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนคลับก็ทราบดีว่าคอนเสิร์ตของ เบิร์ด ธงไชยต้องมีจังหวะแดนซ์กระจายให้ไฟลุก พร้อมท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำในทุกๆ การแสดง เช่น เพลง ‘อาบน้ำ’ ที่พี่เบิร์ดจัดเต็มโชว์เต้นบนน้ำในคอนเสิร์ต ‘Thongchai เปิดสไมล์คลับ’ หรือเพลง ‘แฟนจ๋า’ ที่มีท่าเต้นสุดไอคอนิกให้แฟน ๆ เต้นตามกันได้ทั้งฮอลล์ในคอนเสิร์ต ‘ฟ.แฟน’ และ ‘ฟ.แฟน Fun Fair

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอนเสิร์ต ‘แบบเบิร์ดเบิร์ด’ ที่เน้นความบันเทิงและการแสดง ไม่ว่าจะเป็นแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #3/1989 ที่มี่การเต้นเพลง จับมือกันไว้ เป็นครั้งแรก แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #4/1990 ที่มีทั้งท่าเต้นภาษามือเป็นครั้งแรก และการแสดงนกคนในเพลง นางนวล มาจนถึง ท่าเต้นเพลง ‘รักกันมั้ย’ ที่ได้ ‘แต้ว-ณฐพร’ มาเป็นแขกรับเชิญ และร่วมจอยไปกับการแสดงที่แฟน ๆ ต้องกรี๊ดใน ‘แบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ #11/2018 ตอน Dream Journey

#5 โดดเด่นด้วย Special Guests ระดับตำนาน

มาถึงข้อนี้แล้วแฟน ๆ คงทราบกันดีว่าคอนเสิร์ตของ เบิร์ด ธงไชยคือภาพจำแห่งยุคสมัย ใครเด่นใครดังในยุคนั้นย่อมไม่พลาดเป็นส่วนหนึ่งในฐานะแขกรับเชิญให้กับคอนเสิร์ตของศิลปินระดับตำนานผู้นี้ และหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ยังได้รับการกล่าวขานมาจนปัจจุบัน คือ‘คอนเสิร์ต ขนนกกับดอกไม้’ เมื่อปี 1995 ที่รวมตัว Diva ที่สุดของศิลปินหญิงแห่งยุค 90 ได้แก่ ใหม่ เจริญปุระ, คริสติน่า อากีลาร์, มาช่า วัฒนพานิช, ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ และ แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร มาพบกับ Divo แห่งยุคอย่าง เบิร์ด ธงไชย และร่วมกันขับขานบทเพลงที่กลายเป็นตำนาน

จากนั้นอีก 19 ปีต่อมา เหล่า Diva ทั้งห้าก็ได้กลับมารวมตัวกันสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในคอนเสิร์ต ‘ขนนกกับดอกไม้ The Original Returns’ ปี 2015 พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษอีกท่านคือ ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้เปิดการแสดงถึง 4 รอบ มีผู้ชมกว่า 40,000 ที่นั่ง นับเป็นการตอกย้ำตำนานที่จะคงอยู่ตลอดไปเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้แล้ว ยังมีคอนเสิร์ต ‘ขนนกกับดอกไม้ ตอน Secret Garden’ ที่ได้รวบรวมเอาทั้งนักร้อง และนักแสดงแถวหน้าของยุคอย่าง ดา เอ็นโดรฟิน, ลุลา, นิว-จิ๋ว และ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาขึ้นแสดงอยู่บนเวทีเดียวกัน พร้อมไฮไลท์สุดเซอร์ไพรส์กับการแสดงเพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร เพลงฮิตแห่งปีของหญิงลี ศรีจุมพล อีกด้วย

โดยคอนเสิร์ตในปี 1988-1999 เริ่มสตรีมให้รับชมเป็นชุดแรกแล้ววันนี้ พร้อมสามารถติดตามรับชมคอนเสิร์ตปี 2000-2009 ได้ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ ตามด้วยคอนเสิร์ตปี 2010-2019 ในวันที่ 4 มีนาคม แล้วไปปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ‘Singing Bird #2/2022 ตอน Lifetime Soundtrack Concert’  ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ที่ Netflix

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า