ประเด็นคือ – จากเหตุคนร้ายจี้รถทัวร์สายเบตง – กทม. เผาในพื้นที่จ.ยะลา รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้กองทัพภาคที่ 4 กวดขันดำเนินการตอบโต้ ชี้ ไม่ใช่การเปลี่ยนยุทธวิธีก่อความไม่สงบ แค่วิธีเดิมนำมาใช้ใหม่
วันนี้ (18 ธ.ค.60) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวก่อนเป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 10 /2560 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล ถึงเหตุการณ์คนร้ายจี้รถทัวร์ สายเบตง – กรุงเทพฯ แล้วไล่ผู้โดยสารลงจากรถทั้งหมดก่อนจุดไฟเผารถทั้งคัน เหตุเกิดบริเวณ ถนนสาย 410 บันนังสะตา-เบตง บ้านคลองน้ำขุ่นต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.60) ว่า ไม่ได้คาดคิดว่า คนร้ายจะใช้วิธีเผารถเช่นนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เพิ่มความระมัดระวังเส้นทางรถยนต์ และว่า การกระทำดังกล่าวไม่ใช่การเปลี่ยนยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เคยทำแล้วในอดีต ซึ่งได้เลิกใช้ไปแล้ว แต่ยังมีคนที่ไม่ปรารถนาดีต่อบ้านเมืองดำเนินการอยู่ “ให้กองทัพภาคที่ 4 กวดขัน ในการดำเนินการตอบโต้ “

ถนนสาย 410 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่เกิดเหตุเผารถทัวร์สายเบตง – กรุงเทพฯ (17 ธ.ค.60)
ส่วนความคืบหน้าในพื้นที่ จ.ยะลา หลังเกิดเหตุการณ์จี้รถทัวร์เผา วันนี้ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและสอบสวนของบก.ภ.จว.ยะลา ประสานการปฏิบัติกับ ตำรวจ สภ.บันนังสตา ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 33 และ ฝ่ายปกครอง อ.บันนังสตา จัดชุดติดตามสืบสวน ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหาหลักฐานเพิ่มเติม และ ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มคนร้าย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ เชื่อว่า การก่อเหตุในครั้งนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ แต่รอหลักฐานจากการตรวจพิสูจน์ และการสอบปากคำ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนจะระบุได้ว่าเป็นกลุ่มใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์จี้รถทัวร์แล้วเผาครั้งนี้ สร้างความประหลาดให้กับเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเป็นอย่างมากว่า คนร้ายมีเหตุผลอะไรถึงกระทำเช่นนี้ โดยนอกจากการเผารถให้ได้รับความเสียหายทั้งคันแล้ว ยังมีการโปรยตะปู และ ตัดต้นไม้กีดขวางเส้นทางด้วย
อ่านข่าวย้อนหลัง คนร้ายบุกจี้รถทัวร์ ไล่คนขับ ผู้โดยสาร ก่อนเผาวอดทั้งคัน