‘เพื่อไทย’ ห่วงรายงานผลนับคะแนน ประกาศเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี

‘เพื่อไทย’ ห่วงรายงานผลนับคะแนน วอน กกต. โปร่งใส-ตรวจสอบได้ประกาศเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่า ภายใน 4 ปี

บรรยากาศการหาเสียงวันนี้ (25 ก.พ. 66) พรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงราย

โดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย กล่าวปรายศรัยกับประชาชนตอนหนึ่งว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะขยายประตูการค้าชายแดนทั่วประเทศให้สร้างรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิม 1.8 ล้านล้านบาทต่อปี เป็น 3 ล้านล้านบาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 50% ภายใน 4 ปี ซึ่งจะเป็นรายได้ที่กระจายไปยังประชาชนทั้งหมด นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในปี 4 หรือในปี 2570 โดยจะนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาการเกษตร

พรรคเพื่อไทยจะยังคงเน้นการสร้างรายได้ด้วยการค้า การท่องเที่ยว รายได้เกษตรกร เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น รัฐจะเก็บภาษีได้นำมาพัฒนาประเทศได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มี 3 ปัจจัยที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้แก่

1. ส.ส.ที่ใกล้ชิด เข้าใจปัญหา และหาทางออกให้กับพี่น้องประชาชน
2. นโยบายที่ถูกพัฒนาโดยประสบการณ์ของบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถที่หลากหลาย
3. ในการเลือกตั้ง ต้องเลือก ส.ส.และพรรคเพื่อไทยให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์มากกว่า 300 ที่นั่ง เพื่อจะได้เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย

“ผมมายืนอยู่ตรงนี้ ผมเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ อยากให้มั่นใจว่าคนเก่าๆ ประสบการณ์เก่าๆ ด้วยวิธีคิดที่มีประสบการณ์และความคิดที่ทันสมัย เรามาแก้ปัญหาให้ท่าน เพราะฉะนั้น ปัจจัยที่เราจะชนะคือนโยบาย” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

ด้าน น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ ยืนยันความพร้อมเพิ่มการหาเสียง หากการยุบสภา เป็นวันที่ 15 มีนาคม ตามที่สื่อมวลชน เห็นเอกสารหลุดของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ส่วนการประกาศแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ตามขั้นตอนจะมีการประชุมกรรมการบริหารบริหารพรรค ให้มีมติก่อนประกาศ ซึ่งทางพรรคได้เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงมอตโต 3 ทำ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.แพทองธาร กล่าวสั้นๆ ว่า “ก็ฮึกเหิมดีค่ะ ชายชาติทหาร” ส่วนของพรรคเพื่อไทยคือ “คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ที่ต้องคิดใหญ่เพราะว่าปัญหามีมาก อย่างไรก็ตามระหว่างนั้น นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ร่วมคณะมาด้วย ได้กล่าวแทรกขึ้นมาว่า “ทำไมวะ”

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่า ก็ห่วงเรื่องการนับคะแนน ที่ว่าเลือกตั้งแล้วจะนับคะแนนแบบไหน ก็อยากให้ทำให้โปร่งใส่ที่สุด เป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทยขอ แต่คิดว่าเป็นความต้องการของประชาชนเมื่อออกมาใช้สิทธิ์แล้วจะทำให้โปร่งใสได้ขนาดไหน เป็นที่รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า จากคำชี้แจงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เราขอให้รายงานผลการนับคะแนนแบบเรียลไทม์ เขาบอกว่าทำไม่ได้ ตรงนี้ก็เป็นข้อห่วงใย ซึ่งถ้าไม่มีกระบวนการจาก กกต. ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันดู ต้องเฝ้าดูทุกจุด และ กกต. ก็ต้องพร้อมเปิดเผยด้วย โดยเฉพาะจุดการรวมคะแนน จากหน่วยเลือกตั้งไปสู่ “อนุเขต” คือที่ตัวอำเภอหรือเขตพื้นที่ ก่อนไปรวมที่จังหวัดตรงนี้ที่รวมคะแนน เป็นจุดสำคัญ

เราเรียกร้องให้เปิดเผยโปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้ง กกต.ต้องเอื้ออำนวยให้ทุกภาคส่วนที่จะรายงานผลการนับคะแนน รวมทั้งใบคะแนนต้องติดให้เด่นชัด เพราะจากประสบการณ์ของตน ในการเลือกตั้งปี 62 เจอว่า ติดแค่ 1 ชั่วโมงแล้วดึงออกเลย ตรงนี้ถ้าเปิดเผยได้ ตรวจสอบได้ ก็ลดทอนสิ่งที่กังวลได้