Grab ประเทศไทย แถลงข่าวยุทธศาสตร์ธุรกิจในปี 2023 และถือเป็นการแถลงครบรอบ 10 ปีที่ดำเนินธุรกิจในไทย เผยว่าสถานการณ์ขาดทุนค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ยอมรับว่าหมดยุคการอัดโปรโมชั่นเพื่อเร่งยอดการใช้งานแล้ว ต่อจากนี้จะต้องทำกำไรได้ และโตแบบยั่งยืน

[ ภาพรวม Grab ปี 2022 ที่ผ่านมา ]

Grab ในปี 2022 ถือว่ามีสถานการณ์ดีขึ้น รายได้ 1,433 ล้านเหรียญ โตขึ้นปีต่อปี 112% ยอด GMV หรือยอดขายที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มเป็น 19.9 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 24% แต่ยังมีภาวะขาดทุนที่ 1,740 ล้านเหรียญ ถือว่าขาดทุนลดลง 51% 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์การเงินดีขึ้นมาจากการเปิดเมือง การท่องเที่ยวกลับมาเต็มรูปแบบ บริการเรียกรถกลับมาเท่ากับหรือมากกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว มีการเรียกรถจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้นเป็น 152% (เทียบจากปี 2021 )

ส่วนการส่งอาหารก็ยังคงมีการใช้งานต่อ แม้จะกลับมาเปิดเมืองและทานอาหารที่ร้านได้แล้ว บริการ Grab Food ตามต่างจังหวัดโตกว่าใน กทม. 3 เท่า นอกจากนี้ ปริมาณการสั่งอาหารต่อหนึ่งออเดอร์ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยลดภาวะการขาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ

มีการคาดการณ์จากรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2022 จาก Google, Temasek, Bain and Company ว่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่จะโตต่อ ปี 2025 คาดว่ามีขนาดตลาด 24,000 ล้านเหรียญในภูมิภาคนี้ และ Grab ก็ยังเป็นเบอร์หนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาดในไทย 51%

[ หมดยุคอัดโปรเพื่อเร่งโต ต้องโตแบบยั่งยืน ]

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย เผยยุทธศาสตร์ Grab ต่อจากนี้ว่า ตั้งเป้ามีกำไรให้ได้ภายในสิ้นปี 2023 นี้ และโฟกัสที่การโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ยั่งยืนได้นั้น บริษัทต้องหยุดภาวะขาดทุนให้ได้ ดังนั้นการอัดโปรโมชั่นประเภทลด 70-90% จะลดลง

โดยบริการที่ Grab จะเน้นมากขึ้นในปีนี้เพื่อเป็นฮีโร่ฉุดจากภาวะขาดทุนคือ กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่ม Enterprise 

ในกลุ่มบริการการเงิน จะมีการขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับพาร์มเนอร์ร้านค้าสูงสุด 5 แสนบาท เพื่อเป็นแหล่งทุน และสินเชื่อคนขับ 

กลุ่ม Enterprise จะผลักดันซูเปอร์แอปในภาคธุรกิจ ผ่าน Grab for Business โซลูชั่นช่วยจัดการ fleet รถในองค์กร ซึ่ง Grab บอกว่ามีลุกค้าในไทยร่วมพันรายแล้ว 

ส่วนในบริการการเดินทางและเดลิเวอรี่ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักนั้น Grab จะรุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติหนักขึ้น รองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว 28 ล้านคน โดยจับมือกับภาครัฐเรื่องการท่องเที่ยว ร่วมมือกับสนามบินสร้างเลาจ์รองรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ Grab โดยเฉพาะ ไปจนถึงดันคอนเทนต์สถานที่น่าเที่ยวในไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียกรถใช้งานมากขึ้น

ฟู้ดเดลิเวอรี่ จะเน้นการทำการตลาดเรื่อง GrabUnlimited หรือแพ็กเกจจ่ายรายเดือน 39 บาท เข้าถึงโปรโมชั่นหลากหลาย เพิ่มสิทธิประโยชน์มากขึ้น ทยอยย้ายโปรโมชั่นที่มีอยู่เดิมมาอยู่ใน GrabUnlimited เพื่อดึงดูดให้เกิดการสมัครจ่ายรายเดือน

[ แผนระยะยาวของ Grab ]

ข้างต้นถือเป็นแผนระยะสั้นที่เราจะได้เห็นจาก Grab ซึ่งแผนระยะยาวที่ Grab จะนำมาใช้มี 3P นายวรฉัตร บอกว่า P แรกคือ Profit ไม่ได้หมายความว่าจะเอาแต่กำไร แต่เราต้องไม่ขาดทุนก่อน, 

Planet พยายามเพิ่มรถ EV เข้ามาในระบบมากขึ้นซึ่งจะแถลงข่าวต่อไปในอนาคต รวมถึงการทำงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้งที่มากับอาหาร และ P สุดท้ายคือ People โดย Grab อยากเป็นองค์กรที่มีคนรัก ทั้งผู้ใช้งาน ร้านค้า ไรเดอร์ พนักงานของ Grab เอง เพื่อให้บริษัทโตได้ในระยะยาว