คัดกรองรถเข้า-ออกยาก ชี้ จนท.ด่านฯ ไม่รู้เห็นชาวลาวขนเงิน 98 ล้านบาท

ประเด็นคือ- นายด่านศุลกากรหนองคาย เผยผลสอบสองพี่น้องชาวลาวขนเงิน 98 ล้านบาท กลับลาว เจตนาหลบกฎหมายทั้งสองประเทศไทย-ลาว เข้มตรวจสอบรถหรูจากลาวให้ถี่มากขึ้น ย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่มีส่วนรู้เห็นการนำเงินเข้ามาขาย การป้องกันเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีรถเข้า-ออก เดือนละไม่ต่ำกว่า 45,000 คัน ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีประวัติเรื่องยาเสพติด พร้อมขอความเป็นธรรมกรณีมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นด้วย

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย จับกุมนายสุบัน เตียสิริ อายุ 30 ปี และนายคำบอน เตียสิริ อายุ 24 ปี สองพี่น้องชาวลาวที่ซุกซ่อนเงินสดจำนวน 98 ล้านบาท ตามซอกต่างๆ ทั่วรถยนต์โตโยต้า แลนด์ ครุยเซอร์ ว่า ตอนนี้ยังมีการเรียกผู้ต้องหามาสอบเพิ่ม

ล่าสุดผู้ต้องหายังให้การยืนยันว่า ได้กระทำโดยเจตนาที่จะหลบกฎหมายไทยทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมยืนยันว่าได้นำเงินเข้ามา 2.8 ล้านดอลลาร์เหรียญสหรัฐ ไปแลกที่ธนาคารกรุงไทย ใน จ.หนองคาย แล้วนำเงินซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ของรถภายในลานจอดรถของธนาคารกรุงไทย แล้วออกมาเพื่อจะเดินทางกลับก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม

ส่วนข้อมูลอื่นๆ ทางด่านศุลกากรได้ขอการยืนยันจากธนาคารกรุงไทย คาดว่าไม่เกินพรุ่งนี้ (19 ธ.ค. 60) จะมีการตอบหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ทางด่านฯ ก็จะรวบรวมผลการสอบสวนทั้งหมดส่งกรมศุลกากรต่อไป

เบื้องต้นทางด่านศุลกากรหนองคาย ได้มีการระงับคดีไปก่อน โดยให้ประกันตัวด้วยตนเอง แต่มีการยึดหนังสือเดินทางไว้ ห้ามออกนอกราชอาณาจักรไทยจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น ซึ่งกรมศุลกากรเองก็จะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ หรือบอร์ดใหญ่ โทษนั้นโดยระเบียบต้องยึดเงินอย่างต่ำ 94 ล้านบาท คืน 4 ล้านบาท อยู่ที่ดุลพินิจของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ แต่โทษสูงสุดในการระงับคดีคือ ยึดเงินได้ทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการจะมีการประชุมเดือนละครั้งเนื่องจากเป็นกรรมการที่มาจาก 4 หน่วยงาน ประกอบด้วยตัวแทนของสำนักงานอัยการ, กระทรวงการคลัง, กรมศุลกากร และตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสำนักกฎหมายกรมศุลกากรเป็นฝ่ายเลขาฯ ในการเสนอเรื่องเป็นวาระในการประชุม

นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยต่อไปอีกว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาชัดเจนว่า เป็นการนำเงินดอลลาร์มาขายไม่ใช่มาแลก แต่ที่มาที่ไปของเงิน จะมีการประสานกับธนาคารอีกครั้งหนึ่งว่าโดยระเบียบปฏิบัติของธนาคารเป็นอย่างไร และจะได้มีการแก้ไขร่วมกันอย่างไร แต่เบื้องต้น ธนาคารก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการซื้อเงินดอลลาร์ได้ ซึ่งมีการตระเวนขายในหลายธนาคารหรือไม่นั้น ต้องรอหนังสือตอบจากธนาคารกรุงไทยก่อน ว่าทำไมเงินมีสายรัดของหลายธนาคาร ซึ่งอาจเป็นธุรกรรมทางการเงินของธนาคารต่างๆ ก็ได้ แต่เบื้องต้นผู้ต้องหายืนยันว่ามีเพียงที่ธนาคารกรุงไทยเพียงแห่งเดียว

ในส่วนของทาง สปป.ลาว ก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมาให้ มีเพียงติดต่อเป็นการส่วนตัว ให้ดูแลคดี ให้ความเป็นธรรม และมีขอความช่วยเหลือมา ซึ่งก็ได้มีการตอบอย่างชัดเจนว่า กฎหมายก็คือกฎหมาย เมื่อมีการละเมิดกฎหมายของไทย ก็จะต้องถูกลงโทษเป็นเรื่องปกติ

ส่วนการช่วยเหลือด้านคดีนั้น ก็ว่ากันไปตามระเบียบกฎหมายของศุลกากรที่มีระบบการให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล ส่วนแรงกดดันยังไม่มี

สำหรับความชัดเจนของเงินนั้น นายด่านศุลกากรหนองคาย บอกว่า ตอนนี้ได้ตัดเรื่องของยาเสพติดออก ยืนยันไม่ใช่ขบวนการยาเสพติดอย่างแน่นอน ซึ่งจากการสืบสวนทางลับ พบว่า เป็นเงินนอกระบบของประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความจำเป็นต้องหลบหลีก เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ เป็นธุรกิจเงินด้านมืด ลึกๆ คงตอบไม่ได้ทั้งหมดว่าจริงๆ คืออะไร

ส่วนที่หลายๆ ฝ่ายมองว่า ทำไมผู้ต้องหายอมขอระงับคดีและให้ยึดเงินง่ายๆ นั้น ตนในฐานะเจ้าหน้าที่จับกุม มองว่า เมื่อเป็นเงินจากด้านมืด จึงไม่อยากให้มีการเปิดเผยออกไป ซึ่งหากเป็นคดีความอาจจะต้องถูกเปิดเผยหลายๆ อย่าง ตามระเบียบกฎหมายของไทย หากการกระทำผิดที่ไม่ใช่คดีอาญา ระบบคดีของไทยมีเกณฑ์ในการระงับคดีอยู่แล้ว ถือเป็นการลงโทษให้หลาบจำอย่างหนึ่ง การถูกลงโทษยึดเงินไม่ว่าจะยึด 94 ล้านบาท หรือทั้ง 98 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถือเป็นการลงโทษใหญ่หรือหนัก

เมื่อสื่อข่าวสอบถามถึงความเข้มงวดผ่านด่าน นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก เนื่องจากแต่ละเดือนมีรถยนต์ผ่านเข้า-ออกที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ไม่ต่ำกว่า 45,000 คัน ช่วงปีใหม่อาจจะสูงถึง 50,000 คัน/เดือน รวมรถบรรทุกด้วย

ซึ่งขณะนี้ด่านหนองคาย จากเดิมเพ่งเล็งเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ตอนนี้มีคดีการเงินเข้ามาอีก และจากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่พบว่า ไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียว อย่างน้อยตอนนี้เท่าที่สืบทราบมีอีก 4 – 5 กลุ่มที่ดำเนินการในลักษณะนี้ จึงค่อนข้างหนักใจ ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายจะควบคุมสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ให้ดีที่สุดได้อย่างไร ที่วางแผนไว้คือ จะใช้การสุ่มตรวจเข้มรถให้ถี่มากขึ้น เช่น จากเดิมรถหรูอาจจะมีการผ่อนปรนบ้าง จากการที่เห็นว่ามีอัตราการใช้จ่ายเงินในประเทศเราสูง ถือเป็นการปราม เพื่อให้ขบวนการลักษณะนี้มีการยุติพฤติกรรม หรือชะลอพฤติกรรม ขาเข้าเน้นยาเสพติด ส่วนขาออกจะเน้นเรื่องเงิน ซึ่งจะเป็นการทำงานแบบผสมผสานกัน

นายนิมิต ได้กล่าวถึงประกาศของด่านศุลกากรหนองคาย เกี่ยวกับรถยนต์ที่เข้ามาในราชอาณาจักรว่า ตนได้มีประกาศด่านศุลกากรหนองคายออกไป เพื่อเป็นการบีบการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศให้ง่ายขึ้น

แต่ก่อนออกประกาศก็ได้มีการเตือนล่วงหน้ามา 2 เดือนแล้ว ให้รถที่เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ที่นำเข้ามาต้องเป็นเจ้าของ หรือต้องมีใบมอบอำนาจจากเจ้าของรถทุกคัน ถ้าถูกต้อง เจ้าหน้าที่ก็จะออกใบทันฑ์บนให้ ซึ่งจะมีกำหนดวันเดินทางกลับชัดเจน เพื่อเป็นการป้องกันการโจรกรรมรถยนต์จากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการติดตามหาผู้กระทำผิดในกรณีที่ไม่มีการนำรถกลับ ซึ่งทางการประเทศลาวก็ได้มีการรับทราบเรื่องนี้ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้าไทยได้ทราบแล้ว เริ่มใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 1 มกราคม 2561

ทั้งนี้ในตอนท้าย นายด่านศุลกากร ได้กล่าวว่า ตนไม่สบายใจที่มีข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ในด่านพรมแดนฯ รู้เห็นเป็นใจ เนื่องจากผู้ต้องหาได้มีการลักลอบขนเงินหลายครั้งแล้ว ตนจึงอยากชี้แจงว่า การกระทำของผู้ต้องหาเป็นการกระทำธุรกรรมด้านมืด ประกอบกับรถมีการผ่านเข้า-ออกที่ด่านฯ เป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ เงินที่นำเข้ามาเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ใช่เงินที่เยอะมาก สามารถซุกซ่อนในจุดลับได้ง่าย ยิ่งตอนผู้ต้องหานำเงินบาทกลับ ยิ่งตรวจสอบได้ยาก เพราะไม่เคยมีประวัติในเรื่องยาเสพติด มันเป็นเรื่องของการได้เปรียบที่มีคนเข้ามาจับจ่ายในบ้านเรา เจ้าหน้าที่จึงมีการผ่อนผันอยู่แล้ว จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่เขาใช้ จะกล่าวหาเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็น หรือมีผลประโยชน์ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม และคนที่จับกุมก็เป็นเจ้าหน้าที่ของด่านศุลกากรหนองคาย จึงอยากขอความเป็นธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำความดีควรให้กำลังใจกันมากกว่า มากล่าวโทษเช่นนี้