SHARE

คัดลอกแล้ว

วิกฤต PM 2.5 ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับวันยิ่งทวีความรุนแรง จนหลายคนเป็นกังวลโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ เนื่องจาก PM 2.5 ไม่ใช่แค่ฝุ่น แต่เป็นพิษร้าย ที่ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า ก่อให้เกิดโรคร้ายเป็นภัยต่อสุขภาพ วันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้ออกมาชี้แจงถึงการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 รวบรวมได้ดังนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ใจความสำคัญระบุว่า “การประชุมคณะรัฐมนต รีในวันนี้ (28 มี.ค.66) ได้หารือและสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยผมขอให้กำกับดูแลลงในรายละเอียดมากขึ้น เน้นแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาจริงๆ”

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ระบุ 4 ข้อที่สั่งการไปแล้ว ดังนี้

1. การเผาป่า/ไฟป่า “นอกประเทศ” ที่เป็นสาเหตุหลักในปัจจุบัน ช่วงเดือนมีนาคมนี้ พบจุดความร้อนสะสมสูงถึง 25,209 จุด ทั้งนี้ผมได้ใช้ ทั้งช่องทางทางการทูตและช่องทางส่วนตัว หารือ/ขอความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในการควบคุมการเผาต่างๆ เพื่อลดผลกระทบร่วมกันของประชาชนในพื้นที่

2. การควบคุมและดับไฟป่า “ในประเทศ” ทั้งป่าอนุรักษ์และป่าสงวน โดยผมได้สั่งการให้บูรณาการเครื่องมือ เจ้าหน้าที่ และแผนงาน จากทุกภาคส่วน เช่น เจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า, เฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่า, การทำฝนหลวง, การสร้างแนวกันไฟ ตลอดจนอาสาสมัครในพื้นที่ ทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง-ฝ่ายทหาร เพื่อลดปัญหาเป็นการเร่งด่วนด้วย

3. การกำกับดูแลการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม “ในประเทศ” ซึ่งผมให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ใช้กลไกที่มีอยู่ในทุกระดับ ขอความร่วมมือและสร้างเข้าใจให้มากขึ้น เพื่อลดการเผาลงให้ได้มากที่สุด รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

4. การให้คำแนะนำด้านสุขภาพ เช่น ลดการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงนี้ และควรสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เป็นต้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาแสบตา คันตา ตาแดง ระคายเคืองผิวหนัง ไอ หายใจลำบาก หรือแน่นหน้าอก ฯลฯ ขอให้เข้ารับบริการ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และสถานพยาบาลของรัฐที่ใกล้บ้านในทันทีได้ทุกแห่ง

พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งท้ายด้วยว่า “ผมได้ติดตามและได้รับรายงานการป้องกัน รวมทั้งการแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ในภาพรวมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าโดยพื้นฐานแล้ว คนไทยเป็นผู้มีน้ำใจและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้นหากได้รับทราบข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้อง ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ทำให้ทุกปัญหาของบ้านเมืองคลี่คลายลงไปได้ ในทางที่ดีเสมอครับ”

‘วราวุธ’ เผย นายกฯ สั่งกระทรวงการต่างประเทศ ถามเพื่อนบ้านทุกวัน 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.วันนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามและสอบถามไปยังประเทศเพื่อนบ้านทุกวัน เพื่อตอกย้ำถึงความเร่งรีบในการแก้ไขปัญหา และในส่วนของประเทศไทย  ขอให้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการ ตามที่ได้เคยสั่งการไปก่อนหน้านี้อย่างเคร่งครัด  แต่หากจะเคร่งครัดเกินไป ก็จะกระทบกับพี่น้องประชาชนอีกส่วนนึง ดังนั้นจะต้องสร้างสมดุลให้ดี

ส่วนมาตรการเร่งด่วนก็มีทุกมาตรการอยู่แล้ว ขอให้ทางจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เข้มงวดในระดับอำเภอ ตำบล และระดับหมู่บ้าน ช่วยกันสอดส่องดูแล และการป้องกันเบื้องต้น อย่างการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละออง PM2.5

รมว.มหาดไทย  เผย ถ้าสั่งหยุดห้ามเดินรถแก้ PM 2.5 มีปัญหาแน่

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะต้องทำตามกรอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ ถึงระดับใดจะต้องมีความเข้มงวด ซึ่งเราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือ พร้อมกับระบุว่า จุดความร้อนในประเทศนั้นลดลง แต่จากด้านนอกประเทศก็ยังคงมี ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขอความร่วมมือในการใช้ยานพาหนะ แต่ยังไม่มีการบังคับว่า ห้ามเดินรถในเขตใด ซึ่งการใช้ยานพาหนะถือเป็นสาเหตุรองของการเผาในที่โล่งแจ้ง

นอกจากนี้ ยังมองว่าการสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัด หากมีคำสั่งหยุดห้ามเดินรถ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เป็นทางที่สามารถทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า จะมีปัญหาอย่างแน่นอน คนไทยก็ไม่ยอมกัน เพราะหากคนไม่ร่วมมือกันทำอย่างไรก็ไม่สามารถดำเนินการได้

ส่วนการที่จะเปลี่ยนจากรถยนต์ปกติ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ก็อาจเป็นเรื่องยากเพราะมีต้นทุนสูง ส่วนเรื่องโรงงานอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ก็มีความเข้มงวด ฉะนั้นถ้าทุกคนอยากให้สถานการณ์ดีขึ้น ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน จะให้ไปไล่จับก็คงไม่ได้ เพราะผู้ที่โดนจับส่วนใหญ่คือเกษตรกร

พล.อ.อนุพงษ์ ยอมรับว่า การสั่งและมุ่งหวังให้ค่าฝุ่นละอองลดลง คงเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันก็จะมีการทำฝนหลวง แต่ตนไม่ขอวิเคราะห์ว่าจะได้ผลหรือไม่ ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ตอบว่ามีการหารือกับประเทศเพื่อนบ้านในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ รวมไปถึงจะมีการนำเสนอเข้าเป็นวาระของอาเซียน เนื่องจากเกินอำนาจของตน ส่วนจะต้องใช้มาตรการเคอร์ฟิวหรือไม่ รมว.มหาดไทยก็ย้ำว่า ไม่ใช่อำนาจตนในการพิจารณาเรื่องนี้ เป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าราชการจังหวัด

‘อนุทิน’ เผย ผู้ป่วยภาคเหนือ 4,000 รายต่อสัปดาห์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ PM 2.5 ว่า ได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสารธารณสุข ที่ขณะนี้อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้รับการยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม ในเรื่องของยา เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันPM 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่สุ่มเสี่ยง หากกรณีฉุกเฉิน ปลัดกระทรวง สามารถตัดสินใจได้ทันที

นายอนุทิน ย้ำว่า ในส่วนของโรงพยาบาล มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น โดยผู้ป่วยที่มีอาการจะมีห้องแยกโดยเฉพาะ ที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศมากเป็นพิเศษ ขณะนี้จำนวนผู้ป่วย ที่เดินทางมารักษายังโรงพยาบาลยังมีไม่มากนัก ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ มีผู้ป่วยประมาณ 4,000 รายต่อสัปดาห์ โรงพยาบาลยังสามารถให้บริการได้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องทรัพยากร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะดูแลในส่วนของปลายเหตุให้ไม่มีปัญหามากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ครม. สั่งการทุกกระทรวงระดมแนวทางแก้ปัญหา PM2.5

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า