‘พิธา’ ชี้แจง จัดลำดับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ยึดตามนโยบายล่าสุด เผย หากได้เป็นรัฐบาล มีพื้นที่ให้ทำงานตามถนัด ขอทุกคนอย่าเพิ่งท้อแท้ ถอดใจ ให้สู้ต่อไปกับพรรค
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีมีอดีตผู้สมัคร ส.ส.หลายคน แสดงความไม่พอใจ ภายหลังพรรคเปิดเผยลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อว่า การจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคดังกล่าว มาจากการเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเราต้องการให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้กาพรรคก้าวไกล การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต แต่ละเรื่องไม่ว่าจะทำให้การเมืองดี ทั้งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิทธิมนุษยชน การกระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด ดูแลเยาวชนคนหนุ่มสาว และอีกหลายนโยบาย เราเลยเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้สะท้อนนโยบายเหล่านั้น แน่นอนว่าเมื่อมีลำดับ อาจมีคนไม่พอใจบ้าง หรือรู้สึกไม่ดี แต่เชื่อว่าวัฒนธรรมแบบพรรคก้าวไกล ทุกคนอาจรู้สึก แต่ไม่มีใครทิ้งพรรค อาจมีเว้นวรรคเล็กน้อย แต่ทำงานต่อในนามของพรรค
“นี่เป็นการเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 หากเป็นครั้งที่ 3-4 วัฒนธรรมพรรคจะชัดมากขึ้น ในการที่เราผสมผสานคนเก่าและคนใหม่ ขณะเดียวกัน ขอเรียนถึงคนที่อยู่ทั้งในและนอกพรรค ที่ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ว่า การที่เราเลือกลำดับปาร์ตี้ลิสต์ แล้วไปเป็นรัฐบาล ปาร์ตี้ลิสต์ก็จะขยับขึ้น และการเป็นรัฐบาลมีหลายตำแหน่งทั้งรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วย โฆษก เลขาธิการ ที่ปรึกษา จะมีที่ในการทำงานที่ท่านถนัด ในวาระที่ถนัด แต่ละพื้นที่แน่นอน โดยหากมีบางคนลาออกจาก ส.ส. ไปรับตำแหน่งในรัฐบาล ดังนั้นคนลำดับถัดมาจะได้เลื่อนขึ้นมา อย่างที่บอกการเลือกตั้งไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียว มีครั้งที่ 2-3 ต่อ เราต้องดูการทำงานต่อเนื่อง ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งท้อแท้ หรือถอดใจ ให้สู้ต่อไปกับพรรคก้าวไกล” นายพิธา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่เพิ่งเคลียร์ใจกันไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดได้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกครั้ง จะทำให้เกิดปัญหาถึงเสถียรภาพในพรรคอีกหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า “ไม่มีหรอก” นายปิยบุตรให้ความเห็นในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่เป็นเรื่องชื่นชมเสียมากกว่า อย่างกรณี นายธีรัจชัย พันธุมาศ ที่เคยเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทำหลายเรื่องอภิปรายในสภา ตอนนี้มาลงสมัคร ส.ส.เขต ก็ชื่นชมว่า ลงจากปาร์ตี้ลิสต์ ได้ 2 รสชาติ หรือกรณี นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ที่ปัจจุบันไปอยู่เบื้องหลัง เพราะการบริหารพรรค การเป็นพรรคมวลชนได้ หลังบ้านต้องแข็งแรง
นายพิธา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีหลายคนไม่ได้ไปต่อ ให้คนรุ่นใหม่ไปบริหารพรรค ให้หน้าใหม่มีโอกาสบ้าง อีกอย่างเป็นการอัปเดตความท้าทาย เพราะการเลือกตั้งปี 2562 และปี 2566 ต่างกันสิ้นเชิง ปี 2566 เป็นเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มี 2-3 คน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และซอฟต์พาวเวอร์ เพราะปัจจุบันเรื่องเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม กลายเป็นเรื่องเดียวกัน มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจุลภาค การกำจัดขยะ เรื่องภาวะโลกร้อนอยู่ด้วย จึงคิดว่า การจัดปาร์ตี้ลิสต์ครั้งนี้ มีการอัปเดตมากขึ้นให้ตรงกับนโยบายพรรค ตรงคุณค่าพรรค ใกล้กับโอกาส และความท้าทายของไทยในตัว สะท้อนข้างในและข้างนอกค่อนข้างชัดเจน