เลือกตั้ง 66 ‘อ.ประจักษ์’ วิเคราะห์เปิด 7 จังหวัด ชี้ชะตาพลิกขั้วการเมืองไทย

เดินทางมาถึงช่วงเวลาใกล้เข้าสู่ ‘โค้งสุดท้าย’ เลือกตั้ง 2566 ระหว่างที่บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยการหาเสียง เวทีดีเบตแคนดิเดตนายกฯ แกนนำของพรรคการเมืองต่างๆ

สำนักข่าว TODAY ชวน รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำสาขาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาอ่านสถานการณ์และวิเคราะห์สมรภูมิเลือกตั้ง 2566 พบมีพื้นที่สำคัญ ‘7 จังหวัด’ ที่จะกลายเป็นจุดชี้ชะตาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ถึงขนาดทำให้พลิกหรือไม่พลิกขั้วได้

อาจารย์ประจักษ์ เกริ่นถึง 3 ปัจจัย ในการตัดสินใจของผู้เลือกตั้งจะลงคะแนนให้กับใคร คือ 1. พรรคและนโยบาย ซึ่งมีความสำคัญมากขึ้นหลัง ปี 2540 2. ผู้สมัคร เพราะบางพื้นที่พรรคอาจไม่แข็งแรง หรือมีพรรคแข็งแรง 2 พรรค ตัวผู้สมัครยิ่งมีความสำคัญ กับการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ และ 3. เครือข่ายหัวคะแนน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด

สำหรับ จังหวัดยุทธศาสตร์ คือ มีการแข่งขันระหว่าง ‘ขั้วรัฐบาล’ กับ ‘ขั้วฝ่ายค้าน’ ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างเด็ดขาด อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตรงนี้ดูเฉพาะผลเลือกตั้งยังไม่พูดถึง ส.ว. แต่จังหวัดในภาคใต้นั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ จะทวงคืน แต่ ภูมิใจไทย ก็ปักธงไว้มาก โดยเฉพาะทางอันดามัน แล้วยังมี รวมไทยสร้างชาติ ทำให้จังหวัดในภาคใต้ความจริงแล้ว ใครชนะ ได้ที่นั่ง ส.ส. แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนขั้ว

แต่จังหวัดที่มีการแข่งขันดุเดือด ชนิดใครชนะ ใครแพ้ จะส่งผลต่ออำนาจการต่อรอง พลิกขั้วได้ชัดเจน อาจารย์ประจักษ์ บอกว่า มี 7 จังหวัด ดังนี้

1. ชลบุรี บ้านใหญ่สู้กับบ้านใหม่ ศึกแห่งศักดิ์ศรี ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น ระหว่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ปัจจุบันอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ ตระกูลคุณปลื้ม ที่ย้ายกลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย แพ้ชนะเท่ากับรวมไทยสร้างชาติ หรือเพื่อไทยจะได้ การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกจังหวัดที่รวมไทยสร้างชาติพอจะมีความหวังเขาจะเทหมดหน้าตักเพื่อให้ได้ ส.ส.เกิน 25 ที่นั่ง เพื่อเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐต่อสภาฯ ขณะที่ เพื่อไทย ก็ต้องสู้เต็มที่เพราะต้องการแลนด์สไลด์

2. สมุทรปราการ การเสียชีวิตของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม กระทบกับบ้านใหญ่ การเมืองแบบบ้านใหญ่อาศัยบารมีตัวบุคคล ครั้งนี้ เพื่อไทย จึงมีสิทธิ์มีโอกาสสอดแทรกพลังประชารัฐที่นายชนม์สวัสดิ์เคยให้การสนับสนุนอยู่ อีกทั้ง พื้นที่สมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดอยู่แล้วเช่นเดียวกับที่ชลบุรี

3. เพชรบูรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำของพลังประชารัฐ คุมพื้นที่อยู่ ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ย้ายจากพลังประชารัฐ กลับเพื่อไทย ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างอยู่ นอกจากสุโขทัยแล้ว เพชรบูรณ์ก็เป็นอีกจังหวัดที่เพื่อไทยหวังจะได้ ส.ส. ขณะที่ นายสันติ ก็คงไม่ยอม

4. กำแพงเพชร เป็นจังหวัดสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนให้การเลือกตั้งเมื่อปี 2562  พลังประชารัฐตั้งรัฐบาลได้ เพราะนายวราเทพ รัตนากร อดีตคนสำคัญของพรรคไทยรักไทยและเพื่อไทย ซึ่งครั้งที่แล้วนายวราเทพ พาทั้งมุ้งย้ายมาพลังประชารัฐ และครั้งนี้ก็ไม่ย้ายกลับ นอกจากนี้ยังมี นายไผ่ ลิกค์ อดีต ส.ส.พื้นที่เดิม ตอนนี้จากกระแสพรรคเพื่อไทยที่มาแรง แต่ว่าตัวผู้สมัครชาวบ้านรัก ดังนั้นต้องวัดกันว่าผลจะเป็นอย่างไร

5. นครราชสีมา จังหวัดใหญ่ที่มีเก้าอี้ ส.ส. 16 ที่นั่ง เป็นรองแค่กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่ยากจะมีพรรคไหนจะชนะได้พรรคเดียว เพื่อไทยหวัง 8 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติก็หวัง พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่เอง ชาติพัฒนากล้า ก็พลาดไม่ได้ ส.ส.เขต มีโอกาสจะได้ที่นครราชสีมา ไทยสร้างไทยก็หวังพ่อของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ก็มีฐานเสียงที่นี่

6. ศรีสะเกษ ในการเลือกตั้ง 2562 มี ส.ส. 8 คน เพื่อไทยได้ 6 คน ภูมิใจไทยได้ 2 คน  แต่ปรากฏว่าครั้งนี้เก้าอี้มี 9 ที่นั่ง อดีตส.ส.ของเพื่อไทย ย้ายมาอยู่ภูมิใจไทย ถึง 3 คน แถมแบรนด์ตัวเองแข็งแกร่ง เพื่อไทยถึงขนาดเปิดแคมเปญ “ไล่หนูตีงูเห่า” เชื่อว่าสู้ดุเดือดแน่นอน

7. อุบลราชธานี การเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมาเป็นจังหวัดที่ไม่มีพรรคไหนครองทั้งจังหวัดได้ อย่าง ประชาธิปัตย์ ก็มาเจาะได้จากตระกูลนามบุญ (วิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ยังมีลุ้น ขณะที่ ภูมิใจไทย ก็มี อดีตส.ส.เด่นๆ ย้ายไปอยู่ ถ้าพ้นจากกรุงเทพฯ ไปแล้ว คู่ต่อสู้ที่สำคัญของเพื่อไทยในต่างจังหวัดคือภูมิใจไทย ทำการเมืองอุปถัมภ์เก่ง

ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ อาจารย์ประจักษ์ กล่าวว่า แม้จะเลือก ส.ส.เขต แต่การตัดสินใจดูจากกระแสเป็นหลัก คำสัญญาของนักการเมืองมาให้โครงการหรือให้เงินมีผลน้อย มองว่าผลการเลือกตั้งจะแบ่งกันหลักๆ คือ เพื่อไทย กับ ก้าวไกล ส่วนภูมิใจไทย ที่หวังไว้ก็มีสิทธิจะได้บ้าง รวมถึงประชาธิปัตย์ ขณะที่พลังประชารัฐ แชมป์เก่าเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้วกับรวมไทยสร้างชาติ ก็อาจจะได้ 1-2 เขต

คลิปสัมภาษณ์เต็ม :