‘ทิชา’ เล่าเรื่อง ‘หยก’ ผู้ถูกกล่าวหาคดี 112 อายุน้อยที่สุด เรียนดี-คะแนนภาษาจีนท็อป

‘ทิชา’ เล่าเรื่อง ‘หยก’ ผู้ถูกกล่าวหาคดี 112 อายุน้อยที่สุด เรียนดี-คะแนนภาษาจีนท็อป 

ทิชา ณ นคร หรือ ป้ามล ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเรื่อง “หยก” สมาชิกกลุ่มนักเรียนล้มฯ ผู้ถูกกล่าวหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่อายุน้อยที่สุด จากการชุมนุม เมื่อ 13 ต.ค. 65

โดย ทิชา ระบุว่า เรื่องของ “หยก” เด็ก 14 ปี คดี 112 ตอนนี้ถูกควบคุมตัวในสถานแรกรับบ้านปรานี “หยก” ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม โดยการไม่รับ ไม่ขอประกันตัว จากใคร โดยใคร ทั้งสิ้น แต่ต้องปล่อยเธออย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น!!!

เหตุผลของ “หยก” มาจาก … จุดเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลยนั่นคือการจับกุมของตำรวจที่ไม่มีหมาย ไม่แจ้งหมาย พอถึงผู้มีอำนาจสูงสุดในกระบวนการยุติธรรมซึ่งหมายถึง “ผู้พิพากษา” ก็ไม่พิจารณาการจับกุมของตำรวจว่าชอบหรือไม่ชอบตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้และถือปฏิบัติกันมา

“หยก” ถูกนำส่งสถานแรกรับบ้านปรานี นครปฐม ด้วยตำรวจ 10 นาย บางนายโชว์อาวุธ เมื่อถึงสถานแรกรับบ้านปรานี การจัดการกับเด็กหญิงคดี 112 กับคดีลัก วิ่ง ชิงปล้น ยาเสพติด ฯลฯ คือ มาตรฐานเดียวกัน (ซึ่งอธิบายได้ทั้งถูกและไม่ถูก !) เช่น วิธีเยี่ยม คนเยี่ยม ซึ่งคดี 112 บุคคลที่เด็กไว้ใจอาจไม่ใช่ผู้ปกครองที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น หรือผู้ปกครองที่ชอบด้วยกฎหมายไม่ประสงค์เข้าเยี่ยมก็ได้ ฯลฯ สถานแรกรับบ้านปรานี ค่อยๆ เดินเข้าสู่ “คลื่นขัดแย้ง” โดยไม่จำเป็นและไม่จำเป็น !!!

ความวุ่นวายทั้งภายในสถานแรกรับบ้านปรานีและถนนหน้าสถานแรกรับบ้านปรานี เริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาตาม plan “หยก” จะเรียนต่อ ม.4 ในเทอมนี้ (เปิดเรียน 16 พฤษภาคม 66) และ “หยก” มีผลการเรียนที่ดี เธอมีคะแนนภาษาจีนที่ท็อป เเต่การปล่อยตัวอย่างไม่มีเงื่อนไขที่ “หยก” เรียกร้องยังไม่ถูกตอบรับจากทุกขั้วอำนาจ

ความวุ่นวายล่าสุดคือ วันที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ จะเข้าไปแจ้งข้อหา พ.ร.บ.โบราณสถาน เพิ่มกับ “หยก” ที่สถานแรกรับบ้านปรานีโดยมีหญิงกลางคน แปลกหน้าที่พี่ๆ ของ “หยก” ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ร่วมเป็น “ที่ปรึกษากฎหมาย/ทนาย” หรือจะเรียกว่า “หยก” มี “ที่ปรึกษากฎหมาย/ทนาย” ตามที่ตำรวจจัดเตรียมให้ แต่ไม่ใช่ “ที่ปรึกษากฎหมาย/ทนาย” ที่ “หยก” ร้องขอ ไว้ใจ

ทิชา ยังได้แสดงความเห็นว่า เกือบทุกสถานการณ์ที่เด็กมีความไม่ลงรอยทางความคิดกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ powerful ผู้ใหญ่ที่อนุรักษนิยมสุดโต่ง ผู้ใหญ่ที่รับสารอาหารและเติบโตในพื้นที่ปลอดภัย (comfort zone) ผู้ใหญ่ที่มีสูตรสำเร็จในชีวิตเพียงไม่กี่สูตร และกอดความสำเร็จนั้นเหมือนมันเป็นนิรันดร์ เป็นอมตะ …

ผู้ใหญ่ประเภทนี้ ยากที่จะเข้าใจว่าทำไมเด็กจึงดื้อรั้นและดื้อรั้นขึ้น นานขึ้น เเข็งขึ้น จนมองไม่เห็นบริบท ณ จุดต้นเรื่อง แต่จะเห็นหรือจะให้ความสำคัญเฉพาะปรากฏการณ์ท้ายๆ โดยเฉพาะแรงๆ ร้ายๆ ที่ตามมา หลังจากผ่านแรงเสียดทานมาระยะหนึ่ง

ที่สำคัญผู้ใหญ่ประเภทนี้ มองไม่เห็นหรือเห็น แต่ไม่รู้ ไม่สน ไม่เข้าใจ การจัดการของอำนาจที่เป็นขั้วความคิดที่ตรงข้ามกับเด็ก เช่น เหตุการณ์ล่าสุดที่ตำรวจจะเข้าไปตั้งข้อหา พ.ร.บ.โบราณสถานกับ “หยก” เพิ่มอีกหนึ่งคดี ในระหว่างที่มีการคุมขังเธอที่สถานแรกรับบ้านปรานี

และทิ้งท้ายว่า ทิชา … ไม่อ้อนวอนใครให้เข้าใจใคร เพราะสภาพบ้านเมืองแบบนี้การแก้ปัญหาแบบรายวัน แบบ case by case เลี่ยงไม่ได้ “แต่เชื่อมั่นว่า หากออกมาจากแรงเสียดทานนี้ได้ทุกคนจะไม่มีทางเหมือนเดิม”

ภาพจาก FB : Thicha Nanakorn