SHARE

คัดลอกแล้ว

ในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหลังมา เมื่อภาพยนตร์และซีรีส์เฟื่องฟู นิยายกลายเป็นงานเขียนที่คล้ายจะถูกแย่งพื้นที่ในสปอตไลต์ไปเล็กน้อย ทั้งที่ในยุคก่อนมีละครที่ดัดแปลงจากนิยายอยู่มากมาย และในบรรดานิยายเหล่านั้นมีงานศิลปะที่ซ่อนอยู่ในมุมที่ลึกและมืดกว่านิยายแบบอื่น ๆ อย่างนิยายอีโรติก ทว่า น้ำผึ้ง บัวเจริญ กลับเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวในรูปแบบของ นิยายอีโรติกใน  Saturday Im In Love โดยเธอเผยว่า ผลงานเรื่องนี้เกิดจากความตั้งใจที่จะถ่ายทอดชีวิตของหมอนวดในต่างแดนอย่างละเอียดละออ

 

ถ้าให้เล่าเรื่องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น แรกเริ่มงานชิ้นนี้วางไว้ว่าเป็นความเรียงบันทึกประสบการณ์การเดินทางและใช้ชีวิตในต่างแดนอ้างอิงจากประสบการณ์จริงทั่วไป แต่เมื่อลงมือทำงานจริง เก็บข้อมูลจริง บวกกับความตั้งใจที่จะตีแผ่อาชีพหมอนวดอย่างละเอียด จึงเลือกที่จะบรรยายชีวิตหมอนวด และการทำงานอย่างละเอียด

ด้วยบริบทแวดล้อมต่างๆ ด้านเนื้อหา วิธีการเล่าเรื่อง ความสมจริง มีความเหมาะสมที่จะนำเสนอเป็นแนวอีโรติก ซึ่งน่าจะสร้างอรรถรสให้กับผู้อ่านได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น ในฐานะผู้ผลิตงานวรรณกรรม เรื่องราวนี้มีความเหมาะสมในแง่สุนทรีย์ที่จะนำเสนอเป็นแนวอีโรติก พอเราวางแผนการทำงาน และเส้นเรื่อง เป็นการบันทึกประสบการณ์การเดินทางของผู้เขียน ภาพรวมเรื่องราว เนื้อหา นำเสนอให้เป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง บนไทมไลน์เดียวกัน  ด้วยวิธีการบรรยายอย่างละเอียดตรงไปตรงมา เพื่อต้องการฉายภาพเหตุการณ์ให้ผู้อ่านได้เห็นอย่างชัดเจน

ที่จริงก็ใช่ว่าคอนเทนต์แนวนี้จะไม่มี และน่าจะมีมากด้วย แต่ก็อย่างที่เราก็รู้ ๆ กันอยู่ ว่าพอต้องยกขึ้นมาพูดในที่สาธารณะที่ค่อนข้างทางการ มันกลับเป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนใจ

เหตุผลสำคัญอีกข้อที่ทำให้ตัดสินใจเขียนเป็นนิยายอีโรติก เพราะถ้าใครที่ได้อ่านไปแล้ว และลองสังเกต น่าจะพอรู้สึกได้ขณะอ่านว่า ฉากที่ราบรื่น พลิ้วไหวที่สุด คือฉากอีโรติก ช่วงเวลาที่ตัวละครหลักมีความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เป็นการแสดงออกถึงความต้องการตามธรรมชาติในฐานะมนุษย์ที่บริสุทธ์ ที่ไม่ได้เกิดจากกระบวนการขัดเกลาทางสังคม ค่านิยม ความเชื่อที่แต่ละคนถูกหล่อหลอมขึ้นมา

แต่นอกจากนั้นแล้ว ตัวละครต้องพบกับความย้อนแย้ง สับสนในความคิดการกระทำ ซึ่งจะเห็นได้จากวิธีการบรรยายความรู้สึกของตัวละคร ที่คิดวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ลึก ๆ แล้วตรงนี้เป็นอีกจุดที่สะท้อนให้เห็นว่า บางส่วนของชีวิตก็ถูกกดทับ ควบคุม หล่อหลอมเราขึ้นมาอย่างเนียบเนียนโดยระบบ ของสังคมที่เราอยู่ เราอาจจะเรียกสิ่งนั้นว่า ขนบธรรมเนียม ค่านิยม หรือกระบวนการจัดการของสังคม

เราต้องหยิบยื่นทางเลือก การคิดวิเคราะห์ เพราะชีวิตมันไม่มีสูตรสำเร็จที่จะมาบอกกันให้เชื่อแบบนั้น ๆ ทำแบบนี้ ห้ามทำแบบนั้น แล้วใช้ได้กับทั้งหมด แต่ถ้าเราคิดเป็นด้วย เราจะประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ตามเหตุที่เราทำ และ ผลที่เราจะต้องรับ ภายใต้เงื่อนไขและบริบทที่แตกต่างกันออกไป

ในมุมมองของคุณน้ำผึ้ง ปัจจุบันนี้ประเทศไทยเปิดกว้างมากแค่ไหน และมีความเป็นไปได้แต่ไหนสำหรับการเขียนนิยายอีโรติกเป็นอาชีพ เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ

จริง ๆ งาน อีโรติกนี่มีมานานมาก ตั้งแต่ยุคถ้ำ ซึ่งปรากฏในรูปแบบของงานศิลปะ รูปวาด เปลือย ภาพวาดในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ภาพวาดบนภาชนะและเครื่องใช้ จนพัฒนามาสู่รูปแบบ วรรณกรรมประเภทบทกลอน นวนิยาย และเรื่องสั้น ซึ่งมีลักษณะการนำเสนอที่แตกต่างกันไปตามแต่ละยุคสมัย

มาถึงปัจจุบันตลาดนิยายอิโรติก อันนี้ไม่มีตัวเลขเชิงเศรษฐกิจ มาอ้างอิงนะคะ แต่จากการพูดคุยกับกลุ่มนักเขียน และสังเกตการตอบรับของกลุ่มผู้บริโภค ตลาดอีโรติกเติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งถูกนำเสนอไปในหลายรูปแบบ หลายช่องทาง ไม่เฉพาะงานเขียนงานวรรณกรรม แต่รวมไปถึงพวก content creator ทั้งไทยเทศ จากทั้ง Only Fan Sex Creator แม้แต่ในแวดวงแฟชั่น (เช่น sell sex fashion) ต่าง ๆ ซึ่งมีนานแล้ว เช่นเดียวกับ งานอีโรติกของไทย

ที่ได้รับการพูดถึงในช่วงสมัยเรา ก็น่าจะเป็น ของนักเขียนชั้นครู คุณ อุษณา เพลิงธรรม ที่เขียนเรื่อง เรื่องของจันดารา และมีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่น หรือ แม่เบี้ย ของ คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ ก่อนหน้าก็มีงานเขียนของ อาจารย์ รงค์ วงษ์สวรรค์ “สนิมสร้อย” ในปัจจุบัน ก็มีหลายผลงานของนักเขียน ที่นำเสนองานอีโรติก ผ่านทั้งงานศิลปะ และนวนิยาย เช่น คุณ อุทิศ เหมะมูล

งานเขียนอีโรติกในแบบรูปเล่ม ก็ยังมีกลุ่มคนอ่านคนเขียน หน้าเก่าหน้าใหม่ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ยังเกิดขึ้นอย่างจำกัดด้วยเหตุ ปัจจัยหลายอย่าง แต่สำหรับงานอีโรติก ในรูปแบบ Digital ในเว็บไซต์ นิยายอีโรติกออนไลน์จะเติบโตมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งผู้อ่านผู้เขียน สามารถทำเป็นอาชีพ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับนักเขียนบางราย ได้ไม่น้อย

แต่ในส่วนการตอบรับของผู้อ่าน อาจจะยังเป็นสิ่งที่ท้าทายความเก้อเขิน ความกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้าง ถ้าเทียบกับต่างประเทศ ซึ่งเราอยากให้เปิดใจ เพราะงานอีโรติก ไม่ใช่งานที่ลามก อนาจาร แต่คือการเสพสุนทรีย์ทางศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง

ในหลายครั้งนิยายโรมานซ์-อีโรติก มันจะถูกมองว่ามีพล็อตที่ไม่หลากหลาย มักอยู่กับมาเฟีย คุณหนู ถูกจับไปเป็นทาสกาม ทะเลทราย ฯลฯ คุณน้ำผึ้งมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร และแท้จริงแล้วนิยายอีโรติกไทยมีความหลากหลายมากแค่ไหน

ประเด็นความหลากหลายของพล็อต ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะนิยายแนวโรมานซ์-อีโรติก ที่เราเคยตั้งคำถามกันมาก่อนหน้านี้ ว่าทำไมหนังไทย ละครไทย พล็อตบ้านเรา ถึงมีแต่ น้ำเน่า ตบตี แย่งผู้ชาย และงานรีเมค

จากคำถามเหล่านี้ ก็เกิดสมมติฐานหลักๆ มา 2 ประเด็น คือ มันเป็นอย่างนั้น เพราะคนดูชอบงานแนวนั้น พล็อตแบบนั้น ผู้ผลิตจึงผลิตต่อไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดหรือผู้บริโภค พล็อตซ้ำๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับเรื่องเรตติ้ง  หรือ อีกสมมติฐาน เพราะฝั่งผู้ผลิตเองไม่พยายามนำเสนอ คอนเทนต์ที่แปลกใหม่ ผู้ชมก็ดูแนวเดิมวนไป  งานอีโรติก ก็มีความยากไปอีกขั้น เพราะไม่ได้แตะแค่เรื่องพล็อต เส้นเรื่อง แต่คนเขียน คนอ่านต้องต่อสู้กับความรู้สึกบางอย่างภายในใจ จากค่านิยม ความเชื่อที่เราคุ้นชินกันมา ก็เป็นไปได้ว่า ผู้ผลิต หรือผู้เขียนเอง โดยเฉพาะในเว็บออนไลน์ หรือ แบบเล่มที่เป็นแนวการ์ตูน ไม่อยากหมดพลังงานหรือเสี่ยงไปกับการลองผิดลองถูกกับพล็อตใหม่ ๆ ซึ่งอาจจะขัดต่อความนิยม หรือ ความคุ้นเคยของนักอ่านแนวนี้ กับมาเฟีย คุณหนู ถูกจับไปเป็นทาสกาม ทะเลทราย

ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ มันเป็นพล็อตที่ ถ้าเปรียบกับอาหาร ก็เรียกว่า ถูกปากคนกิน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนเมนู นี่อาจเป็นอีกวิธีคิดหนึ่งที่พล็อตของนิยายถูกเสิร์ฟแบบเดิม ๆ ซึ่งมันเป็นเมนูที่กินง่าย คุ้นลิ้น เหมือนกับพล็อตแนวชวนฝัน โกรธกัน เกลียดกัน สถานะต่างกัน แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันด้วยดี แฮปปี้เอ็นดิ้ง ซึ่งนอกจากความเพลิดเพลิน ชวนฝัน ทำความเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน พล็อตแบบนี้อาจไปช่วยเติมเต็มความต้องการลึก ๆของผู้อ่าน ที่อยากมีบทชีวิตที่ลงเอยแบบในนิยาย ที่ต่างไปจากชีวิตจริง แฟนตาซี

แต่ก็ยังมีงานวรรณกรรมอีกแบบ โดยเฉพาะที่เป็นหนังสือเล่มที่มีพล็อตค่อนข้างหลากหลาย แปลกใหม่ มีความซับซ้อน และสารที่ต้องการสื่อที่ต้องการสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม กระตุ้นความคิดบางประการของผู้อ่านเป็นอีกทางเลือก ของทั้งผู้อ่านผู้เขียน

ในหลายครั้งนิยายอีโรติกและนิยายไทยมักมีประเด็นเรื่องความหมิ่นเหม่ในแง่ของ consent และการนำเสนอประเด็นข่มขืน ในฐานะนักเขียนและผู้ที่อยู่ในวงการ คุณน้ำผึ้งคิดว่ามีการพัฒนาในประเด็นนี้หรือไม่หรือจะก้าวข้ามผ่านพล็อตนี้ได้อย่างไร ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีคนส่วนหนึ่งที่นิยม หรือ ไม่ถือว่า consent เป็นเรื่องใหญ่

นิยายอิโรติก หรือ แม้แต่ละคร มักมีฉากไม่สมยอม หรือ ฉากความรุนแรง ข่มขืน และตอนจบของนิยาย หรือ ละคร ยิ่งกรณีเป็นโรแมนซ์ด้วยแล้ว จะจบด้วยความสมหวัง

ผู้อ่าน หรือ ผู้ชม อาจมองว่า consent ในนวนิยายไม่เป็นเรื่องใหญ่ นั่นอาจเป็นเพราะ ในทางหนึ่ง นิยาย หรือ ละครเอง เป็นพื้นที่ในการปลดเปลื้องจินตนาการทางเพศของคนอ่าน ที่ไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง เช่น รสนิยมทางเพศของคนเรามันอาจจะไม่ใช่แค่ถอดเสื้อผ้าแล้วมีอะไรกัน ยังมีกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศเฉพาะ  เช่นอาจชอบ role paly BDSM แฟนตาซี ต่าง ๆ  แต่เหนื่อสิ่งอื่นได้ ที่ทั้งผู้ผลิตงาน และ ผู้เสพ พึงตระหนักไว้ก็คือ ไม่ว่าจะในชีวิตจริง หรือ ในนวนิยาย คุณจะมีรสนิยมทางเพศแบบใดก็ตาม ต้องมาพร้อม กับความยินยอมของคู่รัก หรือ คู่นอน แม้กระทั้ง ในต่างประเทศ  Fifty Shades of Grey เองก็ยังถูกวิพากษ์ในกรณีที่ว่า การแสดงออกถึงรสนิยมทางเพศ แบบ BDSM  ที่ถูกต้อง คือ การยินยอมของฝ่ายตรงข้ามด้วย ไม่ใช่ฝืนใจกัน เหมือนที่ปรากฏในบางฉากของภาพยนตร์

ส่วนตัวยังเชื่อลึก ๆ ว่า คนดูน่าจะแยกแยะออกว่า ไม่สามารถทำได้ ไม่เหมาะสมในชีวิตจริง

ส่วนในงานของตัวเอง อย่างใน Saturday I’m in Love พล็อต และ บทที่วางไว้ ในเรื่องเซ็กซ์ ผึ้งวางไว้ให้ตัวละครมีความเท่าเทียมกัน แม้จะต่างวัฒนธรรม แม้ฝ่ายหญิงจะเติบโตมาแบบ conservative แต่ในบทบาทและการกระทำในเรื่องเซ็กซ์  ตัวละครไม่ถูกกดขี่ หรือถูกกระทำจากฝ่ายชายเลย แม้ฝ่ายชายจะมีความต้องการในตัวเธอมากแค่ไหน แต่หากเธอไม่พร้อม ฝ่ายชายก็ไม่ฝืนบังคับใจเธอ ในทางกลับกัน เธอกลับโลดแล่น มีบทบาททั้งเป็นคนนำ คนตาม ระหว่างกิจกรรมทางเพศ อย่างพลิ้วไหว เป็นความงดงามในการแสดงออกไปตามธรรมชาติในฐานะมนุษย์ แม้เธอจะรู้สึกผิด ทุกครั้ง เมื่อต้องกลับมานั่งใคร่ควร ถึงขนบประเพณี ที่เธอเติบโตมา

ในนิยายของผึ้งจะไม่ให้ผู้หญิงทน เซ็กซ์แย่ก็ฟีดแบคตรง ๆ ผู้ชายบางคนหลงตัวเองเรื่องเซ็กซ์มาก ทั้งที่ความจริงไม่เคยทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดเลยสักครั้ง หรือแม้แต่คนที่เป็นคู่ สามี ภรรยากันถูดต้องตามกฎหมายก็ต้องคำนึงถึงเรื่อง consent ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะบังคับอีกฝ่ายให้มีเซ็กซ์เมื่อไม่มีอารมณ์ หรือ ความต้องการทางเพศที่ต่างกันมาก ๆ ก็บังคับกันไม่ได้ ต้องเปิดใจคุยกัน และหาวิธีปรับจูนกัน

งานของผึ้ง น่าจะพัฒนาไปในแนวนี้มากกว่า  เพราะนวนิยายของผึ้งส่วนใหญ่ เขียนมาจากชีวิตจริง base on a true story แต่ถ้าเป็นเรื่องแต่ง แนวทางพัฒนาพล็อต ในเรื่องเซ็กซ์ คงต้อง มีความเท่าเทียมกัน และคงให้ความสำคัญกับ consent  ด้วย แต่ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องถูกกระทำ ก็คงนำเสนอถึง เหตุที่มา ภูมิหลังความคิด การกระทำ และจุดจบ หรือ ผลของการระทำนั้นๆด้วย

Saturday I am In Love ผลงานของคุณน้ำผึ้งมีทีมาจากอะไร

เดิมทีเราทำงานเขียนมาโดยตลอดแต่เป็นการเขียนเพราะอาชีพการงานประจำที่ทำ และมีงานเขียนที่เป็นผลงานหนังสือจริงจัง ออกมาก่อนหน้านี้ 1 เล่ม เนื้อหาแตกต่างจากเล่มนี้มาก

Saturday I’m in Love เล่มนี้ คงมีจุดเริ่มต้นเหมือนหนังสือบันทึกประสบการณ์ชีวิตทั่ว ๆ ไป เพราะหลังจากที่ผึ้งทำงานมานานจนเกิดภาวะเบิร์นเอาท์ จึงตัดสินใจเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของตัวเองใหม่ทั้งหมด และเดินทางไปเรียนต่อด้าน ดิจิตอล    มาร์เก็ตติ้ง ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะเซ็ทซีโร่ก็เลยอยากทดลองใช้ชีวิตและคลุกคลีกับผู้คนที่ต่างไปจากเดิมมาก ๆ จึงตัดสินใจไปลงเรียนนวดไทยที่วัดโพธิ์ และสมัครทำงานเสริมทำอาชีพนวดไทยที่นั่น ร่วมกับอีกหลาย ๆ อาชีพ ทั้งงานเสิร์ฟอาหาร งานสอนพิเศษ รับทำการบ้าน ทำเยอะมาก

ซึ่งพอไปทำจริงๆ เราก็ได้เห็นหลายๆ มิติของคนที่ทำอาชีพนี้ และก็ได้คำตอบในเรื่อง การค้าบริการ ที่ก็มีอยู่จริง ก็เลยตั้งใจจะพาไปดูการทำงานของคนที่ทำอาชีพนวดไทย ในมุมลึก ๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้ มาก่อน จึงเลือกที่จะเดินเรื่องด้วยตัวละครหลักที่ทำอาชีพนี้ เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นประสบการณ์ตรงของตัวเอง คงนำเสนอได้ใกล้เคียงความเป็นจริง อีกบางส่วนก็เก็บข้อมูลจากคนที่ทำอาชีพนี้ด้วยกัน รวมถึง คนที่แอบค้าประเวณีแฝงด้วย

ซึ่งในเนื้อหานวนิยาย เราจึงบรรยายขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียด เพื่อสื่อให้เห็นถึงทักษะ ความละเอียดละออ ความยาก การจัดการสิ่งต่างๆรอบตัว  ทั้งความรู้สึกตัวเอง กิเลส ตัณหา ความต้องการ และลึกไปกว่านั้น การเลือกทำในสิ่งซึ่งบางครั้งตัวเองยังไม่กล้ายอมรับ อะไรคือเบื้องหลังการตัดสินใจ และอะไรนำเขามาสู่จุดนี้ จากนั้นเขาจัดการความคิด ความรู้สึกตัวเองอย่างไร เพื่อที่จะอยู่ได้ในระบบสังคมที่ไม่ได้มีพื้นที่ตรงนี้ให้เขา

และคำถามตามมา ที่อยากส่งเสียงและตั้งคำถาม คือ ในเชิงระบบ(และยังเชื่อมโยงกันหลายระบบ) เราควร ทบทวน บริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ไหม อย่างไรดี การทำงานหมอนวด และความสัมพันธ์ที่ต่างวัฒนธรรมกัน พาเราไปเจอกับคำถามมากมาย ยิ่งทำให้รู้สึกว่า อยากถ่ายทอด อยากชวนผู้อ่าน สังคม ให้สังเกต ทบทวนบางสิ่ง บางประเด็นที่เราอาจจะคุ้นชินกันมานาน เพราะโลกเราเปลี่ยนมานานแล้ว และมีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ทั้งหมดที่ว่ามาคือ สิ่งที่ผลักดันให้พัฒนามาเป็นหนังสือในแนวนี้  อยากให้ผู้อ่าน ได้ร่วมกันสังเกต และตั้งคำถาม ในประเด็นที่นิยายนำเสนอไปด้วยกัน อย่างที่บอกไป คือ เราไม่ได้ต้องการหาคำตอบที่เป็นข้อสรุปในตอนนี้ แต่ก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะลองตั้งคำถาม ขยับขยายมุมมอง ขบคิดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ร่วมกัน

สุดท้าย สิ่งที่คาดหวังจะเห็นในอนาคตกับวงการตลาดนิยายอิโรติกไทยคืออะไร

หวังธรรมดาๆเลย คือ เติบโตอย่างอิสระ ทั้งในฐานะคนทำงาน และผู้อ่าน หมายถึง ผู้ผลิตหรือผู้เขียนสร้างสรรค์งานอย่างไม่ต้องกังวล พัฒนางานที่มีคุณค่า มีความหมายอย่างรับผิดชอบ  และผู้เสพงานเองก็สบายใจ ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ ที่จะถืออ่านและจะดีมากหากได้รับการสนับสนุนจากส่วนเกี่ยวข้องตามสมควร เช่น สื่อมีพื้นที่ให้นำเสนองาน หรือพูดคุย ผู้ซื้อเปิดใจมากขึ้น ผู้มีบทบาทเกี่ยวข้องดูแล สนับสนุนตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มที่ รวมไปถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของสังคมแม้เพียงเล็กน้อยจากสารที่เราพยายามส่งผ่านงานวรรณกรรม และหวังอยากจะเห็นมาก ๆ เลย คืออยากเห็นวรรณกรรมอีโรติกไทยประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลก ซึ่งถ้าเทียบจากผลงานที่ออกมา งานวรรณกรรมไทยมีความโด่ดเด่น งดงาม เสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหลไม่น้อยเลยทีเดียว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า