กลุ่มธุรกิจ TCP เจ้าของเครื่องดื่มให้พลังงานแบรนด์ดัง ‘กระทิงแดง’ ลุยแตกไลน์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รับเทรนด์ใหม่ของพฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศเต็มที่
‘สราวุธ อยู่วิทยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ว่า กลุ่มธุรกิจ TCP คร่ำหวอดในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารมานานกว่า 60 ปี โดยยึดแนวทางการทำธุรกิจด้วย Consumer-Centric เข้าใจตลาดและความต้องการของผู้บริโภค
ซึ่งหนึ่งในเทรนด์ที่น่าจับตาของผู้บริโภคยุคใหม่ คือการหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น ทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งห้าพัฒนาโปรดักต์เพื่อรับเทรนด์นี้มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แมนซัมสูตรน้ำตาลน้อย, สปอนเซอร์สูตรน้ำตาล 0% ล่าสุดเรากำลังจะเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ Red Bull Soda Energy Drink น้ำตาล 0% เตรียมออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 โปรดักต์ใหม่ที่เราเอามาให้ชมกันในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 คือ
-FarmZaa แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่มคุณค่าให้ผลไม้ไทย ประเดิมด้วย ‘มะปี๊ด ผลไม้ถิ่นเมืองจันท์’ เครื่องดื่มโซดาที่ทำจากน้ำมะปี๊ดที่รับซื้อจากเกษตรกรใน จ.จันทบุรี แล้วนำมาผ่านกระบวนการผลิตของเรา ได้เป็นเครื่องดื่มรสชาติเปรี้ยวหวาน กำลังดี ให้ความรู้สึกสดชื่น แต่น้ำตาล 0% ซึ่งมีจำหน่ายแล้วทางช่องทางออนไลน์
-Planett เครื่องดื่ม Floral Soda รายแรกในไทย ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ผสานกลิ่นดอกไม้และผลไม้ ให้ความรู้สึกสดชื่น ที่สำคัญคือไม่มีน้ำตาล แคลอรี่ 0% ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 สินค้านวัตกรรมด้านรสชาติที่จะถูกจัดแสดงในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ครั้งนี้ด้วย
‘สราวุธ’ บอกอีกว่า ในประเด็นที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่งประกาศถึงอันตรายของสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เรื่องนี้หากเข้าไปดูในประกาศฉบับเต็มจะพบว่า WHO หมายถึงสารเหล่านั้นไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้เพื่อควบคุมน้ำหนัก จึงคาดว่าน่าจะไม่กระทบกับเทรนด์รักสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจ TCP จะตรวจสอบประกาศให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงหารือในแง่ของการผลิตด้วย
[ เตรียมเดินเครื่องผลิตโรงงานในจีน ]
เพราะตลาดต่างประเทศคือตลาดสำคัญของกลุ่มธุรกิจ TCP โดย ‘สราวุธ’ เปิดเผยว่า ภาพรวมปีที่ผ่านมารายได้ของกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท มีสัดส่วนมาจากในประเทศ 30% และต่างประเทศถึง 70% ทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP พยายามขยายไปเปิดในต่างประเทศมากขึ้น
ล่าสุดคือการไป JV ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในมาเลเซีย ซึ่งแต่เดิมเป็นบริษัทดิสทริบิวเตอร์ Red Bull ให้กลุ่มมาราว 8 ปีแล้ว และเนื่องจากเราเห็นว่าตลาดมาเลเซียแม้ยังไม่ใหญ่มาก เฉลี่ยผู้บริโภคดื่มที่ 1 ลิตร/คน/ปี ขณะที่ไทยอยู่ที่ 5 ลิตร/คน/ปี เวียดนาม 6 ลิตร/คน/ปี แต่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี และเรายังเป็นเบอร์ 1 ในมาเลเซียด้วย
อีกทั้งยังมีพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ทำให้เราจัดสินใจ JV เพราะเป็นโอกาสที่เราต้องการจะขยายโปรดักต์อื่นๆ ไปขายในมาเลเซีย รวมถึงโอกาสในการผลิตในอนาคตด้วย
อีกตลาดที่สำคัญของกลุ่มธุรกิจ TCP คือ ‘ประเทศจีน’ ที่ Red Bull นั้นทำตลาดมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยบริษัทคาดว่าโรงงานผลิตที่มีกำลังการผลิต 1,400 ล้านลิตร/ปี จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ และเดินเครื่องผลิตได้ในปี 2567
ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมาย ก็จะช่วยขยายตลาดที่จีนได้เป็นเท่าตัว จากเดิมที่ใช้โรงงาน OEM อย่างเดียวเท่านั้น
“ตลาดจีนแม้มีไดนามิกสูง อีกทั้งโลคอลแบรนด์ของเขาก็ใหญ่และแข็งแกร่ง แต่ภาพรวมของเราก็เติบโตดี ด้วยอานิสงส์ของการเปิดประเทศ ผู้บริโภคชาวจีนออกมาใช้ชีวิต อีกทั้งพฤติกรรมของชาวจีนยังดื่มเครื่องดื่มให้พลังงานกันในทุกกลุ่ม ทุกวัย และดื่มได้แม้ในเวลาว่าง”
[ ปีนี้ยังมีความท้าทาย แต่ยืนยันไม่ปรับขึ้นราคา ]
‘สราวุธ’ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของปีนี้ไว้ที่ 10-15% อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกที่ผ่านมายังไม่ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากช่วงต้นปีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศจะหาย แต่ก็จะค่อยๆ กลับมาในภายหลัง
และหากไม่มีปัจจัยระดับโลก เช่น สงคราม ที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและสร้างความท้าทายสำคัญ ก็เชื่อว่าเราจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าได้
ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ‘สราวุธ’ ย้ำว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะส่วนใหญ่แล้วธุรกิจรายใหญ่ปรับตัวได้ แต่มองว่านโยบายนี้จะไปกดดันผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กมากกว่า ส่วนปัจจุบัน เขายืนยันว่ากลุ่มธุรกิจ TCP ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด ยังคงตรึงราคาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้