สหพันธ์ขนส่งฯ หอบหลักฐานแฉส่วยทางหลวงถึงมือ ‘วิโรจน์’ เผยเคยร้องเรียนมานานแต่เจอปัญหาถูกข่มขู่ หลายสิบปีไม่คืบ ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ยัน หลักฐานทั้งหมดถึงมือจเรตำรวจแห่งชาติ-รักษาการผู้การทางหลวงแน่นอน หวังปราบให้สิ้นซาก
สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งจำนวน 10 สมาคมทั่วประเทศ เข้ายื่นหลักฐานและหารือประเด็นส่วยทางหลวง กับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
โดย นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาส่วยมีมานานและความรุนแรงของปัญหาได้เพิ่มขึ้น ในอดีตใช้วิธีให้ตำรวจรับเงินริมถนน ต่อมาเมื่อมีสื่อนำเสนอข่าว วิธีนี้จึงหมดไป เปลี่ยนวิธีเป็นแผ่นสติ๊กเกอร์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของแต่ละองค์กร เป็นการเคลียร์ทางในการทำผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาสหพันธ์ฯ ได้ร้องเรียนหลายช่องทาง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รัฐมนตรีคมนาคม ตำรวจทางหลวง แต่ต้องเจอปัญหา โดยเฉพาะการถูกข่มขู่
ปัจจุบันมีแผ่นสติ๊กเกอร์ถึง 40-50 ป้าย รถบรรทุกทั้งหมดที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกมี 1.5 ล้านคัน ส่วนรถบรรทุกที่เป็นส่วนหนึ่งในสหพันธ์ฯ มีกว่า 4 แสนคัน เราได้ตกลงร่วมกันว่า จะปฏิบัติตามกฎหมาย พยายามชักจูงผู้ประกอบการรายอื่นให้เข้ามาร่วม แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถสู้กับการกดดันจากฝั่งรัฐได้ มักมีเจ้าหน้าที่ระดับล่างขอให้ไปเคลียร์กับ ‘เจ้านาย’ ของเขา
การขนส่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ ถ้าไม่ราบรื่น สินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องขนถ่ายไปตามภูมิภาคต่างๆ จะติดขัด ดังนั้น ถ้ายังมีระบบส่วย จะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น กระทบประชาชน ถนนหนทางที่ก่อสร้างจากเงินหลายแสนล้านถูกทำลายข้าราชการที่รับอามิสสินจ้าง ควรรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมา ต้องหยุดได้แล้ว
“ผมไม่เคยติดต่อคุณวิโรจน์ แต่ตรงกันข้าม คุณวิโรจน์หยิบปัญหานี้มาพูดในสังคม แม้ขณะนี้พรรคก้าวไกลอยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็สามารถนำปัญหาของประชาชนนำมาสู่การตรวจสอบ ที่ผ่านมาเราพยายามร้องเรียนทุกกรมกอง แต่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่าใช้เวลาเพียง 3-4 วัน สามารถย้ายผู้การทางหลวงได้ การแก้ไขปัญหาทั้งระบบต้องใช้เวลา วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นแล้ว” นายอภิชาติ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติที่จะได้ทำงานร่วมกันกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อขจัดปัญหาคอร์รัปชันให้หมดไปจากแวดวงธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงและกระทบประชาชนทุกคน ทั้งด้านราคาสินค้าและความปลอดภัยทางถนน วันนี้สังคมอาจพุ่งเป้าไปที่ตำรวจทางหลวง แต่ความจริงแล้วเกี่ยวข้องกับตำรวจภูธร โดยเฉพาะที่ดูแลจราจร ซึ่งต้องย้ำว่า เป็นเพียงตำรวจบางคนเท่านั้น ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องขออย่าหมดกำลังใจ
“วันนี้การหารือกับสมาพันธ์การขนส่งฯ วาระสำคัญคือจะมาสืบสาวราวเรื่องกันว่า เกี่ยวพันกับข้าราชการคนไหน และกำหนดท่าทีที่จะให้ข้อมูลกับ จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับบัญชาการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง โดยหลังจากนี้ จะซักซ้อมท่าทีและรวบรวมหลักฐาน หวังว่าจะเข้ามาปราบปรามเรื่องนี้ให้สิ้นซาก” นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ ย้ำว่าการแก้ไขเรื่องนี้ การปราบปรามวงจรการส่งส่วยอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องทบทวนกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องในการปฏิบัติงานจริง เปิดช่องว่างให้ข้าราชการบางคน ใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้ง รังควาน รีดไถหรือเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน รวมถึงต้องนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างจริงจัง เช่น Weight in Motion หรือการชั่งน้ำหนักขณะรถวิ่ง เชื่อว่าถ้าเราตัดตัวกลาง ตัดดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ การคอร์รัปชันจะลดลงและหมดไป และสำหรับตำรวจ ต้องยกเลิกการซื้อขายตำแหน่ง ยกเลิกระบบตั๋ว ถ้าทำทั้งหมดนี้ ปัญหาคอร์รัปชันจะหมดไปอย่างยั่งยืน
นายอภิชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอขอบคุณพรรคก้าวไกลที่นำปัญหานี้มาแก้ไข อยากให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จโดยเร็ว จากใจประชาชน ขอฝากถึง ส.ว. ขอให้ช่วยสนับสนุนการตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เศรษฐกิจได้เดินหน้าต่อเสียที พร้อมกับแสดงเอกสารรายละเอียดเชิงลึกที่มอบให้พรรคก้าวไกล มีรายชื่อตัวบุคคล ยศตำแหน่ง ข้อมูลสติ๊กเกอร์ทั่วประเทศ