ตำรวจยัน! สุนัขพิตบูลล์กัดเจ้าของจนตาย แถมเฝ้าศพรอคนมาพบ

ตำรวจเวอร์จิเนียเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ทางตำรวจยืนยันว่าเธอถูกสุนัขที่เธอเลี้ยงไว้กัดจนเสียชีวิต ระหว่างพาพวกมันไปเดินเล่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการฆาตกรรม แต่ยังคงดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง 

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนางสาวเบธานี สตีเฟนส์ (Bethany Stephens) วัย 22 ปี ที่เชื่อว่าถูกสุนัขพิตบูลล์ที่เธอเลี้ยงไว้กัดจนเสียชีวิต ขณะพาพวกมันไปเดือนเล่นที่สวนสาธารณะ ในเมืองกูชแลนด์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

โดยพ่อของสตีเฟนส์โทรเรียกบริการฉุกเฉินในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันดังกล่าว เพื่อออกตามหาลูก หลังจากยังไม่กลับมาจากการพาสุนัขไปเดินเล่น

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่และผู้เป็นพ่อต้องตกใจ เมื่อพบว่าเธอกลายเป็นศพอยู่ในป่า และดูเหมือนว่าสุนัขพิตบูลล์ 2 ตัวที่พาไปเดินเล่นจะยืนอยู่ข้างๆ ร่างของสตีเฟนส์ เปรียบเสมือนเป็น “การ์ด” คอยปกป้องศพ โดยบาดแผลของเธอได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณคอและใบหน้า พบเสื้อผ้ากระจัดกระจาย

เจ้าหน้าที่จึงทำร่างของเธอส่งให้แพทย์ตรวจสอบ เบื้องต้นแพทย์กล่าวว่าเธอเสียชีวิตจากการถูกสุนัขกัด

ตามรายงานระบุว่า นายเจมส์ เอ็กนิว นายอำเภอเมืองกูชแลนด์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 4 คน กล่าวว่า พบร่องรอยสุนัขกัดบริเวณหลายแผลทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่คอและหน้า และยังพบหลักฐานบริเวณแขนและมือ ว่าเธอพยายามดิ้นรนจากการถูกสุนัขกัดขณะยังมีชีวิต

หลังจากข่าวแพร่ออกไป เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านี่เป็นการฆาตกรรมหรือไม่

ทำให้ทางตำรวจได้ออกมาแถลงอีกครั้งเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต ระบุว่า คดีนี้ไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่ยังคงรอรายงานจากการตรวจสอบทางพิษวิทยาเพื่อสอบสวนอีกครั้ง

ขณะที่เพื่อนสนิทของสตีเฟ่นกล่าวว่า เธอไม่เชื่อว่าสัตว์ (สุนัขพิตบูลล์ทั้ง 2 ตัวของสตีเฟนส์) จะทำร้ายเธอจนเสียชีวิต โดยสตีเฟนส์ได้เลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของเธอมาตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข

ภายหลังการสอบสวนอีกครั้งยืนยันแน่ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว สุนัขพิตบูลล์ทั้ง 2 ของสตีเฟนส์จะถูกทำทารุณยฒาตในที่สุด