ก.ล.ต.เสนอแก้กฎหมายเอาผิด Big 4 บทเรียนครั้งใหญ่จากหุ้น STARK

ก.ล.ต.เสนอแก้กฎหมายเอาผิดสำนักสอบบัญชี จากกรณีหุ้น STARK จากปัจจุบันมีอำนาจให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีรายคนเท่านั้น

‘ธวัชชัย พิทยโสภณ’ รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยในการแถลงข่าวกรณีหุ้น STARK (บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น) ตกแต่งบัญชี ว่า

กรณีมีผู้เรียกร้องให้ ก.ล.ต.ขึ้นบัญชีดำบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี นอกเหนือจากตัวผู้สอบบัญชีนั้น ปัจจุบัน ก.ล.ต.ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบกับสำนักสอบบัญชี แต่เป็นการให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบตัวบุคคลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากข้อจำกัดในส่วนนี้ ก.ล.ต.จึงได้เสนอแก้กฎหมายให้สำนักงานฯ สามารถให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบกับสำนักงานสอบบัญชีได้ แต่การแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม

ขณะที่ความคืบหน้ากรณี STARK วานนี้ (25 มิ.ย. 2566) ก.ล.ต.ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในการใช้กฎหมายลงโทษผู้กระทบความผิด

ปัจจุบันมูลค่าความเสียหายจากกรณี STARK สูงถึง 43,525 ล้านบาท แบ่งเป็น

1. ผลจากการปรับงบการเงินย้อนหลัง 21,464 ล้านบาท แบ่งเป็น

• การสั่งซื้อวัตถุดิบและการชำระหนี้กับบริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ในช่วงปลายปี 2565 มีการปรับตัวเลขสูงถึง 10,451 ล้านบาท
• การรับรู้รายได้จากการขายและลูกหนี้การค้าสูงเกินความเป็นจริง 7,759 ล้านบาท
• การตัดจำหน่ายภาษีขายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง 670 ล้านบาท
• การตั้งค่าเผื่อลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่ถูกต้องระหว่างปี 2564-2565 รวม 794 ล้านบาท
• การขาดทุนจากสินค้าคงเหลือหายในปี 2565 ที่ 1,790 ล้านบาท

2. หนี้หุ้นกู้คงค้างในระบบ 9,198 ล้านบาท

3. เงินกู้สถาบันการเงินประมาณ 8,800 ล้านบาท

4. ความเสียหายของนักลงทุนรายย่อยที่ลงทะเบียน 4,063 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังไม่รวมความเสียหายจากกองทุนรวมที่มีการลงทุนในหุ้น STARK ในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ระบุว่า ปัจจุบันกองทุนรวมมีสัดส่วนถือหุ้น STARK น้อยมาก เนื่องจากขายออกภายหลังเกิดข้อพิพาทไปแล้ว

นอกจากความร่วมมือกับ DSI และ บก.ปอศ.แล้ว ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยังจัดงานแถลงข่าวร่วมกับ 9 หน่วยงานในตลาดทุน เพื่อชี้แจงกรณี STARK และแนวทางการเรียกความเชื่อมั่นในวันที่ผ่านมาด้วย

ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีเดิมของ STARK คือ ‘ดีลอยท์’ (Deloitte) ส่วนผู้สอบบัญชีปัจจุบันภายหลังเกิดข้อพิพาทคือ ‘ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์’ หรือ พีดับบลิวซี (PricewaterhouseCoopers: PwC)