7 สายการบินหารือ ‘พิธา’ ลดต้นทุน-เพิ่มขีดความสามารถ พาไทยชิง ‘ฮับการบินภูมิภาค’

หลังจากพบกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และหัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะเปลี่ยนผ่านรัฐบาลได้พูดคุยกับ ‘สมาคมสายการบินประเทศไทย’ 

ประกอบด้วย 7 สายการบินสัญชาติไทย ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ สายการบินไทยสไมล์ สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท

ประเด็นหลัก คือ ผลักดัน ‘มาตรการสำคัญ’ สนับสนุนการฟื้นฟูธุรกิจสายการบินให้เเข็งเเกร่ง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ เน้นสร้างความเเข็งเเกร่ง ลดข้อจำกัด เเละเพิ่มขีดความสามารถ ให้กับธุรกิจสายการบินให้บริการมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบค่าโดยสารพร้อมรับฟังนโยบาย ปัญหา และข้อเสนอเเนะ สู่การให้ประเทศไทยเป็น ‘ฮับการท่องเที่ยวเดินทางในภูมิภาค’ 

หลังจาก ‘พิธา’ และสมาคมสายการบินฯ หารือร่วมกันแล้ว สรุปออกมาเป็นประเด็นเร่งด่วน 3 เรื่องหลักที่ครอบคลุมทั้งด้าน ‘อุปทาน’ (supply) และด้าน ‘อุปสงค์’ (demand) คือ

1. นโยบายเสริมแกร่งอุตสาหกรรมการบิน ที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ ‘ภาษี’ (tax) ที่สายการบินจะต้องจ่ายให้กับองคาพยพของรัฐ เช่น การกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน (excise tax) ให้เหมาะสม

2. การเร่งแก้ไขอุปสรรคและข้อจำกัดของอุตสาหกรรมการบินไทย รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับ ‘ต้นทุนการดำเนินงาน’ (operating cost) เช่น ค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้สนามบิน การเร่งเพิ่มอุปทานของอุตสาหกรรมการบิน กระบวนการขั้นตอนการนำเข้าเครื่องบิน หรือการบูรณาการทำงานระหว่างสนามบินและสายการบิน

โดย ‘พิธา’ อธิบายว่า อีโคซิสเต็มก็เป็นอีกต้นทุนหนึ่งของสายการบินที่มีสัดส่วนราว 15-20% ซึ่งจะต้องนำไปเทียบกับต่างประเทศว่า สูงเกินไปหรือไม่ และสามารถปรับลดได้อย่างไรบ้าง

3. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่อุตสาหกรรมการบิน ผ่านวิธีการต่างๆ อาทิ การเจรจาเพิ่มสิทธิการบิน (Air Service Agreement) ในประเทศกลุ่มเป้าหมายของการท่องเที่ยวไทยอย่างอินเดีย เกาหลีใต้ และจีน ไปจนถึงการลดค่าธรรมวีซ่าเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือการออกฟรีวีซ่า (Free Visa) เป็นต้น

ในส่วนของฮับการบิน ‘พิธา’ อธิบายว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศในอาเซียนรุกหนักเพื่อตำแหน่งฮับการบินของภูมิภาคอาเซียน อย่างสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์และรัฐบาลสิงคโปร์ก็รวมกันเป็นทีมสิงคโปร์จัดหาเอกสิทธิ์ในเส้นทางการบิน ทำให้ต้นทุนในการเดินทางข้ามทวีปสู่สิงคโปร์ถูกกว่า ระยะเวลาสั้นกว่า ทำในส่วนของไทยที่พลาดเอกสิทธิ์เส้นทางการบินต่างๆ เองก็ได้รับผลกระทบ

หนึ่งในซีอีโอ 7 ท่านก็ได้บอกว่า มีกรณีบินข้ามประเทศมาภูเก็ต แต่ลงเครื่องที่สิงคโปร์ ไม่ได้บินตรงไปลงกรุงเทพฯ หรือว่าลงภูเก็ต เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก และเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของรัฐบาลชุดต่อไปที่จะต้องทำให้ไทยกลับมาฮับให้ได้

เพราะการเดินหน้านโยบายการท่องเที่ยวหรือนโยบายการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจอย่างไมซ์ (MICE) จะยากขึ้น ถ้านักท่องเที่ยวไม่เลือกเดินทางมาไทย เพราะเสียเวลาแวะหลายจุดหลายรอบ ราคาตั๋วโดยสารแพงกว่า หรือเวลาเดินทางไม่ดี

ทางด้าน ‘ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์’ อุปนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย ระบุว่า “ขอบคุณคุณพิธา ขอบคุณมากครับที่แวะมาพูดคุยกับสมาคมสายการบินฯ ทั้ง 7 สาย ท่านซีอีโอทุกคนก็อยู่ที่นี่ ทีมงานของพรรคก้าวไกลและคุณพิธา เข้าใจปัญหาและเรียนรู้เร็วมาก คิดว่าน่าจะช่วยกันแก้ปัญหาได้ ก็ฝากความหวังไว้นะครับ ขอบคุณครับ”

โดยก่อนหน้านี้สมาคมสายการบินฯ ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า ‘การเดินทางทางอากาศ’ เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภาพรวมของประเทศ เพราะเป็นผู้เชื่อมต่อการสร้างเเละกระจายรายได้สู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ

ปัจจุบันธุรกิจการบินอยู่ในช่วงการฟื้นฟูที่สำคัญที่สุด ต้องอาศัยทั้งการปรับตัวของสายการบิน เเละการสนับสนุนต่อเนื่องจากภาครัฐ การหารือร่วมกันในวันนี้จะทำให้ว่าที่รัฐบาลใหม่เห็นภาพสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจการบินในทุกมิติ แผนการฟื้นตัว และข้อเสนอเร่งด่วน

โดยสมาคมสายการบินประเทศไทยยืนยันความพร้อมเต็มที่ในการทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อบรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน