‘เศรษฐา’ คาดเริ่มได้ ตุลาคมนี้ ‘พักหนี้เกษตรกร-วีซ่าฟรีรับไฮซีซั่น’ ห่วงท่องเที่ยว งานโมโตจีพีถูกตัดงบฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปที่ จ.สมุทรสงคราม ในวันนี้ (1 ก.ย. 66) ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายลดราคาพลังงานว่า ได้หารือกับ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนหน้านี้แล้ว และวันนี้ก็จะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทาง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับผิดชอบด้านนี้ ก็ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ รอความชัดเจนอีกนิดหนึ่ง ทั้งในเรื่องของขั้นตอนและงบประมาณ เพราะเราต้องดูแลให้ครบทั้งองค์รวม
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้รับทราบว่า ประธานสภาอุตสาหกรรมแสดงความกังวลในการลดค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการ ไม่ว่าค่าไฟ ค่าพลังงาน ซึ่งทางเราคำนึงสูงสุดและได้ชี้แจงไปแล้วว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
สำหรับความคืบหน้าการพักหนี้เกษตรกรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ซึ่งกำลังพิจารณารายละเอียดว่าจะพักหนี้จำนวนเท่าไร นานเท่าไรและอย่างไร แต่จะมีการพักทั้งต้นและดอก หลักการคือเราต้องการให้พี่น้องเกษตรกรมีเวลาไปพื้นฟูตัวเอง ไปทำมาหากินโดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องหนี้สิน จะได้มีขวัญและกำลังใจในการรายได้ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะทำได้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ขณะนี้ได้ให้ ธ.ก.ส. ไปดูเรื่องของขั้นตอนต่างๆ โดยประสานงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 66 ได้พูดคุยกับทางสถาบันจัดอับดับหนี้ ซึ่งดูแลหนี้สินทั้งหมดของพี่น้องประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่ได้ดูแลแค่พี่น้องเกษตรกร แต่ยังจะดูแลครู ตำรวจและผู้ที่ประสบภัยพิบัติในช่วงโควิด (หมวด 21) ที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย ดังนั้นจึงขอเวลาในการพิจารณา แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะดูแลให้ครบทุกภาคส่วนเพื่อให้คนไทยทุกคนที่ประสบปัญหาได้มีขวัญ และกำลังใจกลับมาทำงานอีกครั้ง
“การลดหนี้ชั่วคราวเป็นการบรรเทาความทุกข์ เป็นการฟื้นฟูจิตใจให้มีขวัญและกำลังใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการเพิ่มรายได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เราจะพยายามเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งก็ต้องเร่งทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ภาคธุรกิจมีคำถามเกี่ยวกับแนวนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องของวีซ่า นายเศรษฐา กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตนหมายถึง ‘วีซ่าฟรี’ คือไม่ต้องขอวีซ่า เพราะฉะนั้นถ้าไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศ ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า ซึ่งเป็นความประสงค์ที่เราได้พูดคุยกันมาโดยตลอด และมั่นใจว่าทุกภาคส่วนเข้าใจว่าเรายกเว้นการขอวีซ่า ซึ่งน่าจะเป็นชั่วคราวก่อนในช่วงไฮซีซั่น ยืนยันว่าในส่วนนี้เราไม่ได้ดูแค่กระทรวงการต่างประเทศที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง แต่ได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน รวมไปถึงการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อพิจารณาทั้งหมด ทั้งการเดินทางเข้าประเทศ การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงรถโดยสารสาธารณะที่จะเข้าไปในสถานบินด้วยอีกหลายเรื่อง ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้วและเห็นชอบในหลักการ รวมทั้งได้พูดคุยกับทางว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เห็นด้วยและพร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายนี้จะสามารถเริ่มได้เมื่อไร นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในตอนต้นไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงพีคซีซั่นพอดี หวังว่าจะเริ่มต้นภายใน 1 ตุลาคม
นอกจากนี้ นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มาหารือกัน ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังมีเรื่องกองทุนพัฒนากีฬา เข้าใจว่า อีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงกีฬาเอเชียนเกมส์แล้ว แต่หลายสมาคมยังไม่ได้รับเงินอุดหนุน และค้างกันมาหลายล้านบาท ก็ฝากผู้ดูแลทางด้านกองทุนพัฒนากีฬาด้วยว่า หากจ่ายเงินได้ก็จะเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาไทยที่จะไปช่วงชิงเหรียญทองมาเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศชาติ เพราะเท่าที่ฟังมาหลายๆ สมาคมเดือดร้อน และค่อนข้างน่าเป็นห่วง
“เท่าที่ฟังมาหลายๆ สมาคมเดือดร้อน อย่างเช่น สมาคมเทควันโดฯ เป็นสิบๆ ล้านเลยก็ว่าได้ ตรงนี้ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันครับ” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถูกตัดงบ 150 ล้านบาท จะกระทบการจัดงานโมโตจีพีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้น่าเป็นห่วง แต่ต้องมาดูก่อนว่า 150 ล้านบาทที่ตัดไป เอาไปทำอะไร มีทางไหนหรือไม่ที่จะคงไว้ซึ่งกิจกรรมต่างๆ โดยที่ลดงบฯ ลงไป