‘วุฒิพงศ์’ สส.ปราจีนบุรี ขอโทษประชาชน ยอมรับผิดหวังมติ ‘พรรคก้าวไกล’ ขับออก เผยไม่มีคอนเนคชั่นทางการเมือง พร้อมโชว์หลักฐานสัมพันธ์ผู้เสียหาย ยืนยันไม่ลาออกจาก สส. ขอทำงานต่อ เดินหน้าพิสูจน์ตัวเอง
นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล เปิดใจที่อาคารรัฐสภา ในวันนี้ (2 พ.ย. 66) หลังพรรคก้าวไกลมีมติลงโทษขับออกจากพรรค ผิดวินัยร้ายแรง ปมคุกคามทางเพศว่า ตอนนี้กระบวนการของพรรคสิ้นสุดลงแล้ว หลังจากนี้จะเข้าสู่การพิสูจน์ความจริง ที่ผ่านมาได้รับความเสียหาย ทั้งโดยส่วนตัวและครอบครัว ออกตัวว่าไม่ใช่นักการเมืองที่จะแถลงเก่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่เคยได้ชี้แจงต่อสังคม รู้สึกอึดอัดมาโดยตลอด เพราะกระบวนการของพรรคยังไม่สิ้นสุด
นายวุฒิพงศ์ ชี้แจงไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อน เรื่องของ Sexual harassment มีหลายระดับ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นภายในพรรคก่อนหน้านี้ได้รับบทลงโทษความรุนแรงระดับปานกลาง แต่กรณีของตน รู้สึกผิดหวังมีมติที่รุนแรงที่สุด ทั้งที่กระบวนการทางคดีความภายนอกหรือกระบวนการยุติธรรม เรื่องจะต้องเกิดภายใน 3 เดือน
ขณะที่เรื่องความผิดของ สส. จะต้องเข้ามาเป็น สส. ก่อน แต่กรณีตนผู้ร้องเรียนใช้เอกสารกระดาษ 200 หน้า อ้างถึงเหตุการณ์กระทำผิดตั้งแต่ช่วงปี 2565 ก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็น สส. ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เสียหายมีเจตนาที่จะปล่อยข้อมูลก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการของพรรค และตั้งข้อสังเกตว่าการแถลงของกรรมการบริหารพรรคบางคนล่วงหน้าเข้าข่ายเป็นการชี้นำสังคมหรือไม่
นายวุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนยอมรับมติ เพื่อนสส.ทุกคนที่โหวต มองเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้ตนได้เดินหน้าต่อ จากนั้นได้เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเรื่องกระบวนการสอบของคณะกรรมการของพรรค เคารพการตัดสินใจแต่ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ว่า กระบวนการเป็นธรรมหรือไม่
“กระบวนการสอบครั้งแรกวันที่ 10 ต.ค. 66 กรรมการสอบวินัยมี 7 คน แต่มา 6 คน ได้พูดคุยอยู่กว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นอีกครั้ง วันที่ 30 ต.ค. 66 เข้าสู่กระบวนการของกรรมการวินัยครั้งที่ 2 ได้เข้าห้องประชุมของกรรมการล่าช้า 1 ชั่วโมง จากนัด 10 โมง ได้เข้า 11 โมง ซึ่งกรรมการเหลือเพียง 4 คนจาก 7 คน จึงรู้สึกข้อมูลที่ให้ต่อกรรมการไม่มีความสำคัญ และก่อนที่จะยุติการสอบสวน มีกรรมการ คนที่ 5 เข้ามา ซึ่งความสำคัญระดับนี้ของผู้แทนราษฎรของคนทั้งจังหวัดปราจีนบุรีไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในกระบวนการ” นายวุฒิพงศ์ กล่าว
สส. ปราจีนบุรีคนนี้ ยังระบุว่า ในการตั้งคณะกรรมการวินัยสอบควรจะเป็นกรรมการที่เป็นแพทย์ หรือเป็นจิตแพทย์ทางด้านนี้โดยตรง หรือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงว่า ผู้ที่ถูกคุกคาม มีความรู้สึกที่ถูกคุกคามจริงหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการวินัยในการสอบไม่มีคนนอก แต่เป็น สส. ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามกรณีเสียงโหวตขับออกจากพรรค ต่างจากนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เพียง 10 เสียง นายวุฒิพงศ์ ระบุว่า เพราะตนเองไม่มีคอนเนคชั่น หรือความสัมพันธ์กับ สส. ในพรรค เพราะส่วนใหญ่ทำงานในพื้นที่ โดยมองว่า เป็นเรื่องการเมืองภายในพรรค ยังแสดงความกังวลการใช้กระบวนการภายในของพรรคในการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะหากผู้ถูกร้องเรียน หรือ สส. บางคน ไม่ถูกกับกรรมการบริหารพรรค ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
และรู้สึกเสียใจว่าพรรคไม่ได้เปิดให้ตนเองได้พูดหรือชี้แจงต่อสังคม วันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาชี้แจงต่อสังคม รู้สึกเสียใจว่าในกรณีคุกคามทางเพศ 2 เคส เช่นเดียวกัน แต่มติออกมาแตกต่างกัน พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอโทษโหวตเตอร์และประชาชนชาวปราจีนบุรีที่ทำให้ผิดหวัง และหลังจากนี้จะพิสูจน์ตนเอง และเปิดเผยว่าชาวบ้านยังให้กำลังใจและเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น แต่บางมีกลุ่มที่สร้างเพจมาโจมตี และว่าจะไม่ขออุทธรณ์โทษในพรรค
นายวุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่า ยังไม่ได้มองในการไปเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ หลังถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล เพราะเมื่อพ้นสภาพจากพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองอื่นย่อมต้องมองอยู่แล้ว แต่ตนเองก็ต้องแสดงจุดยืนต่อพรรคการเมืองที่จะเข้าไปสังกัดใหม่ พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงปฏิกิริยาของคนในพรรคที่แสดงออกต่อกรณีการคุกคามทางเพศ ที่กดดันทั้งที่กระบวนการยังไม่สิ้นสุด แต่มีการตั้งตัวเป็นศาล ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับตั้งตัวเป็นศาลเพื่อตัดสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการแถลง นายวุฒิพงศ์ ได้โชว์หลักฐานภาพ ที่ถูกแชร์ในแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) ซึ่งเป็นแชร์ในโซเชียลมีเดีย บางภาพที่เป็นการจงใจทำให้เข้าใจผิดหรือไม่ พร้อมนำโน้ตข้อความของผู้เสียหายที่ได้เขียนถึงตน ที่ระบุว่า ยังคงต้องการจะลงพื้นที่ทำงานกับตนเองในทุกที่ทุกวัน และตลอดเวลาที่ออกไปทำงานมีความสุข ไม่มีครั้งไหนที่ไม่อยากออกไปทำงาน
นายวุฒิพงศ์ เปิดเผยด้วยว่า ได้นำโน้ตข้อความดังกล่าวไปปรึกษาจิตแพทย์ว่า ผู้ที่ถูกกระทำ ซึ่งมีบางข้อความแสดงออกที่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็ได้รับคลิปส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมอีก 50 คลิป จึงตัดสินใจให้ผู้เสียหายยุติการทำงานกับตน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แล้ว
โดยยืนยันว่า ตนให้ความสำคัญกับปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตเรื่องหลักฐานที่คณะกรรมการได้พิจารณาว่า เป็นเฉพาะการแคปข้อความบางส่วนเท่านั้น เพราะมีบางส่วนที่หายไป ซึ่งต่างกันกับกระบวนการสอบสวนยุติธรรมภายนอกที่จะต้องดูในมิติความเชื่อมโยงต่อเนื่อง แต่พยายามจะนำหลักฐานให้กรรมการวินัยได้รับทราบ ในการสอบครั้งที่ 2 แต่กรรมการฯ ก็เข้าไม่ครบ
โดยยืนยันว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งหรือการมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายเลย และไม่เคยให้ความหวัง โดยในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ ตนเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ไม่เคยคิดเรื่องใช้กำลัง ใช้อำนาจเป็นใหญ่
หลังจากนี้จะพิจารณาเรื่องกระบวนการนอกพรรค เนื่องจากมีผลกระทบมากกว่าที่คิด ทั้งเรื่องการถูกขับออกจากพรรค การทำลายชื่อเสียงและการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว มีการบิดเบือนข้อมูลส่วนตัว ผิด พ.ร.บ.คอมฯ จึงขอยืนยันว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง สส. และขอโอกาสในการทำงานต่อ ซึ่งเชื่อมั่นว่า การออกมาตอบคำถามอธิบายในครั้งนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ แม้แต่สส. ก็ไม่เคยได้ยิน และตนก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตนเองทุกขั้นตอน เนื่องจากผู้ร้องได้เดินทางไปยื่นร้องในทุกช่องทาง
เมื่อถามว่า ตอนนี้สังคมกดดันอยากให้ ทั้ง 2 สส. ลาออก เช่นเดียวกับกรณีกับ สส. ที่เมาแล้วขับ ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า การที่ตนเข้ามาทำงานตรงนี้ คือการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จึงมีหลายประเด็นที่หากเราก้าวถอยก็มีหลายคนยิ้มรอ เพราะในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดโดยรอบ มีตนเพียงคนเดียวที่เป็น สส.พรรคก้าวไกล
พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2565 แต่เพิ่งมาร้องเรียนในช่วงที่ตนได้รับตำแหน่งแล้ว และผู้ที่พามาร้องก็เป็นคนในพรรค จึงอยากให้ไปย้อนดู เพจก้าวไกล ปราจีนบุรี ช่วงเลือกตั้งไม่มีรูปตนในเพจเลย และไม่มีแม้แต่การแสดงความยินดีในวันที่ชนะเลือกตั้ง และคนทำงานในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง 2 ปีก็หายไป ตนเข้ามาด้วยความยากลำบาก และคิดว่าจะดำเนินคดีอาญากับผู้ร้องด้วย ในช่วงแรกจึงลำบากใจที่จะออกมาพูดเรื่องนี้เพราะรู้จักทั้งครอบครัว แต่คนอยู่เบื้องหลังกลับดันเขามาอยู่เบื้องหน้า ตนจึงอยากทำให้หลุดออกจากข้อครหาในเรื่องล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่ได้มีเจตนาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพียงแค่ต้องการ ‘ที่ยืน’ ในฐานะ ‘ผู้แทนราษฎร’ อย่างสง่างาม
อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าว นายวุฒิพงษ์ ได้ฝากถึงพรรคก้าวไกลว่า หลังจากนี้ขอให้พรรคก้าวไกล ปกป้อง สส. และสมาชิกพรรค อย่าให้อะไรก็ตามที่ยิงมาโดนพวกเขาง่ายๆ เพราะทุกคนลำบากกว่าจะเข้ามา ต้องแบกรับความกดดันสูง ส่วนเรื่องคณะกรรมการวินัย อยากให้มีสัดส่วนภายนอกจริงๆ ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆจริงๆ เช่น ตำรวจ จิตแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มีสัดส่วน สส. น้อยที่สุด ป้องกันการเมืองภายใน