เซ็นทรัลพัฒนา กำไร 4 พันกว่าล้าน เปิด GO! Hotel – มิกซ์ยูสเซ็นทรัล อุบล ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ จ่อคิวส่งท้ายปี

เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 รายได้รวม 12,277 ล้านบาท โต 31% จากปีก่อน ฟาดกำไรสุทธิ 4,162 ล้านบาท โต 45% ที่ผ่านมาลุยเปิดโครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล อุบล โซนอีสานใต้ ตอบรับกระแส MICE City และ “อุบล ฮอลล์” ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่แห่งใหม่ และยังเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ GO! Hotel ศรีราชา และชลบุรี

ส่วนสิ้นเดือน พ.ย. นี้ เตรียมเปิด “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ศูนย์การค้าลำดับที่ 40 ของเซ็นทรัลพัฒนา พร้อมเป็นต้นแบบศูนย์การค้า Semi-outdoor และ Low Carbon Mall แห่งอนาคต ตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย ไตรมาส 4 ดันศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็น Global Destination

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกำลังซื้อทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยว ที่สอดคล้องกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจแบบผสม (mixed-use development) ทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นในทุกๆ ธุรกิจ

ไตรมาสที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาสามารถเปิดโครงการใหม่ได้ตามแผน ได้แก่ โรงแรม GO! Hotel ศรีราชา บริเวณเดียวกับเซ็นทรัล ศรีราชา และโรงแรม GO! Hotel ชลบุรี บริเวณเดียวกับเซ็นทรัล ชลบุรี โครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ BAAN NIRATI นครศรี เมื่อเดือนสิงหาคม ต่อมาในเดือนตุลาคม ได้เปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสเซ็นทรัล อุบล และ “อุบล ฮอลล์” ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่แห่งใหม่ในอีสานใต้

นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังเดินหน้าตามแผนธุรกิจ เตรียมเปิด “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ศูนย์การค้าลำดับที่ 40 ของเซ็นทรัลพัฒนา ที่พร้อมเป็นต้นแบบศูนย์การค้า Semi-outdoor และ Low Carbon Mall เชื่อมโยงการใช้ชีวิตทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ผสานเทรนด์รักษ์โลก ในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้”

ส่วนปีหน้ามี แผนการเปิดเซ็นทรัล นครสวรรค์ (Q1/2567) เซ็นทรัล นครปฐม (1H/2567) เซ็นทรัล กระบี่ (2568) และโครงการอื่น ๆ ที่เตรียมเปิด ได้แก่ โรงแรม Centara Ayutthaya (Q4/2566) โรงแรม Centara One Rayong (2567) และโครงการที่อยู่อาศัย 5 โครงการ (บ้านนิรดา 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม ESCENT 2 โครงการ) นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Mega Mixed-use “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” big project ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2567 เป็นต้นไป

เซ็นทรัลพัฒนา ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย การันตีความเป็นเลิศรอบด้านทั้งการบริหารจัดการธุรกิจและการเงิน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและวางแผนกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน   ด้วยรางวัลชนะเลิศ “Dot Property Thailand Awards 2023” – สาขา Best Housing Development Chiangmai จากโครงการบ้านนิรติ เชียงใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Embrace of Nature พื้นที่การใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ รางวัลชนะเลิศระดับ Gold Awards ด้าน Excellence in HR Change Management จากงาน HR Excellence Awards 2023 จัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ และได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization: CALO) ที่มีผลการประเมินระดับ GOLD ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในหมวดการตรวจวัด (Measure) และการลดก๊าซเรือนกระจก (Reduce) และระดับทองแดงในขั้นตอนการชดเชยก๊าซเรือนกระจก (Contribute) นอกจากนี้ CPNREIT ได้รับอันดับเครดิต “AA-” จากทริสเรทติ้ง สูงที่สุดในกลุ่ม Thai REITs เป็นผลจากการดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง และการรักษาฐานะการเงินอย่างแข็งแกร่งมาโดยตลอด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืนและมั่นคง และประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนไตรมาส 3 ปี 2566 ในอัตรา 0.257 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (yield) 10%

ไตรมาส 3 ปี 2566 เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 39 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกา บางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร

นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 8 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 30 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT  VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN  (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ) NINYA (บ้านแฝด) NIYAM (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ NIRATI และ BAAN NIRATI