อิทธิพลจากพายุโซนร้อนเทมบิน พัดถล่มเกาะมินดาเนา ฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน สูญหายกว่า 150 คน และอีก 70,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย ด้านทีมค้นหายังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องพบกับอุปสรรคจากฝนที่ตกหนักและถนนถูกตัดขาด
สถานการณ์ล่าสุดสำหรับพายุโซนร้อน “เทมบิน” พัดถล่มเกาะมินดาเนา เกาะใหญ่อันดับ 2 ของ ทางตอนใต้ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันศุกร์ (22 ธันวาคม 2560) ด้วยความแรงลมสูงสุด 125 กม./ชม. ทำให้เกิดพายุฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำท่วมรุนแรง และดินถล่มในหลายพื้นที่ ซึ่งสำนักงานบริหารและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าวว่า มีประชาชนอย่างน้อย 200 คนเสียชีวิต สูญหาย 150 คน อีก 70,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และคาดว่ายอดจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ตำรวจกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 135 คน และ 72 คนสูญหาย ทางตอนเหนือของเกาะมินดาเนา ขณะที่ 47 คนเสียชีวิตและ 72 คนสูญหายในซัมบอนกา เพนนินซูลา และอีก 18 คนเสียชีวิตในจังหวัดลาเนาเดลซูร์ โดยหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือที่หมู่บ้านภูเขาดาลามา ที่ต้องจมอยู่ในกองดินโคลนและน้ำ ซึ่งประชาชนบางส่วนไม่สามารถหลบหนีออกจากบ้านไปยังที่ปลอดภัยได้
ทีมช่วยเหลือบางคนกล่าวว่า ประชาชนไม่สนใจคำประกาศเตือนให้อพยพก่อนที่เทมบินจะพัดถล่ม ที่บางคนเชื่อว่าพายุจะไม่รุนแรงถึงเพียงนี้ แต่ทีมฯ ยังคงทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องพบกับอุปสรรคจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง การตัดไฟ และถนนถูกตัดขาด
ด้านนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชน หรือยูเอ็น กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยูเอ็นพร้อมให้ความช่วยเหลือ ส่วน นายโรดิโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยจากพายุเทมบินแล้ววันนี้
พายุเทมบินที่อยู่ที่หมูเกาะสแปรตลีย์ขณะนี้ กำลังมุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม ด้วยความแรงลมสูงสุด 120 กม./ชม.