SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลอุทธรณ์ สั่งแก้เพิ่มโทษ จำคุก 10 ปี 2 เดือน คดี ‘ส.ต.ต.นรวิชญ์’ ขี่บิ๊กไบค์ชน ‘หมอกระต่าย’ เสียชีวิต เมื่อปี 65

วันนี้ (16 ม.ค. 67) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ อ. 399/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล บิดามารดาของพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถโดยประมาทฯ กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพ.ร.บ.จราจรฯ กรณีที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ชนพญ.วราลัคน์ ที่กำลังข้ามทางม้าลายเสียชีวิต เหตุเกิดหน้าโรงพยาบาลสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 65 ตามหลักฐาน พบว่า มีการใช้ความเร็วในการขับขี่ถึง 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด

โดยเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 65 ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุกจำเลย รวม 1 ปี 15 วัน ไม่รอลงอาญา โดยจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาโจทก์เเละโจทก์ร่วม ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลกำหนดโทษหนักขึ้น จำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลรอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันเเล้วมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุก 1 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 15วัน และลงโทษฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 2ปี ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1ปี และไม่ปรับจำเลยในข้อหานี้ โดยไม่รอการกำหนด หรือไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยนั้น เหมาะสมหรือได้สัดส่วนหรือสอดคล้องกับความร้ายแรงและพฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลย และอัตราโทษที่กำหนดโดยกฎหมายหรือไม่

เห็นว่า พฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง เนื่องจากขณะกระทำความผิด จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและบังคับใช้กฎหมายควรต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่จำเลยไม่เคารพยำเกรงกฎหมายและกระทำผิดต่อกฎหมายเสียเอง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน และมีพฤติกรรมในทางฝ่าฝืนกฎหมาย โดยจำเลยขับรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเมื่อจำเลยกระทำความผิดและจำเลยหลบหนีไปได้ ก็ทำให้การติดตามหาตัวคนกระทำความผิดเป็นไปได้ยากมากขึ้น จำเลยขับรถจักรยานยนต์โดยไม่เสียภาษีประจำปี ซึ่งหากเป็นประชาชนทั่วไปกระทำความผิดนี้ จะต้องถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมและปรับโดยไม่มีละเว้น จำเลยไม่ได้จัดให้มีการทำประกันภัยความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องทำเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการช่วยเหลือและรักษาพยาบาลในเบื้องต้นได้ทันท่วงที

เมื่อเกิดเหตุขึ้น ผู้ตายและโจทก์ร่วมทั้งสอง จึงไม่ได้รับการเยียวยาหรือไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนในเบื้องต้นจากบริษัทผู้รับประกันภัย จำเลยขับรถโดยไม่มีกระจกมองข้าง และขับรถด้วยความเร็วสูงมากถึง 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตเมืองบริเวณหน้าโรงพยาบาล ซึ่งเกินกว่าอัตราความเร็วที่กำหนดในกฎกระทรวง อีกทั้งปรากฏทางม้าลายสำหรับคนเดินข้ามบริเวณหน้าโรงพยาบาลดังกล่าว จำเลยควรต้องลดความเร็วของรถให้ช้าลง เพื่อระมัดระวังไม่ให้รถชนคนเดินข้ามถนนแต่จำเลยกลับขับรถจักรยานยนต์เร่งความเร็วแซงรถอื่นด้วยความเร็วสูง ทำให้รถชนผู้ตายตรงทางม้าลายจนร่างกระเด็นลอยสูงและตกลงพื้นห่างไกลจากจุดชนมาก ผู้ตายกะโหลกศีรษะแตก กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหักหลายซี่ ปอดฉีก เนื่องจากถูกรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับพุ่งชนอย่างรุนแรงลอยไปไกลตกกระแทกกับพื้นถนน

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจสมควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างอันดีงาม แต่จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายมากมายหลายประการ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบในเบื้องต้นต้องคำนึงถึงความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่พฤติการณ์ของจำเลยแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าจำเลยหาได้คำนึงถึงหน้าที่และความรับผิดชอบดังกล่าวแต่อย่างใดไม่

ทั้งพฤติการณ์ที่จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายประการแสดงให้เห็นว่า จำเลยเข้าใจว่าการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไม่จำเป็นต้องกระทำให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ได้ หน้าที่กระทำตามกฎหมายเป็นหน้าที่ของประชาชนธรรมดาทั่วไป การกระทำของจำเลยยังทำให้ประชาชนทั่วไปหลงผิดเข้าใจว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมิได้ใส่ใจอบรมบุคลากรของตนให้คำนึงถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยยึดถือความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้งเท่าที่ควรดังนี้

จึงเห็นว่า โทษที่ศาลชั้นต้นลงแก่จำเลยมานั้นเบาเกินไป ไม่เหมาะสมและไม่ได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของการกระทำความผิดของจำเลยและอัตราโทษที่กำหนดโดยกฎหมาย มิฉะนั้นคงไม่มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดในฐานนี้ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านี้ที่จะลงโทษหนักกว่านี้ได้ สมควรลงโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลชั้นต้น

กำหนดโดยไม่รอการกำหนดโทษและรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย เพื่อไม่เป็นเยี่ยงอย่าง ทำให้สังคมมีความสงบและมั่นใจในความปลอดภัยในการข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย สำหรับความผิดฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น เห็นควรให้วางโทษจำคุก 2 เดือน สำหรับความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000บาท เห็นควรวางโทษจำคุกจำเลย 10 ปี และเมื่อกำหนดโทษจำคุกจำเลยใหม่โดยไม่รอการลงโทษจำคุกซึ่งนับว่าเหมาะสมแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดของจำเลยแล้ว จึงไม่กำหนดโทษปรับในความผิดดังกล่าวอีก

ภายหลังเกิดเหตุจำเลยมิได้หลบหนีและให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาของศาลตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นเพราะมีพยานหลักฐานหนักแน่น หรืออาจเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานดังที่โจทก์ร่วมทั้งสองยกขึ้นอุทธรณ์ ก็ยังคงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ที่ศาลชั้นต้นลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองฟังขึ้นบางส่วน อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่นจำคุก 2 เดือน ความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น คงจำคุก 1 เดือน ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจำคุก 5 ปี เมื่อรวมกับโทษปรับในความผิดฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว คงจำคุก 5 ปี 1 เดือน และปรับ 4 พันบาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ทั้งนี้ ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 3 เเสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญาพิจารณาคำร้องเเล้วเห็นควรส่งศาลฎีกาพิจารณาประกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัวจำเลยไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างรอคำสั่งจากศาลฎีกา ซึ่งปกติเเล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน

ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก ‘ส.ต.ต.นรวิชญ์’ 1 ปี 15 วัน ไม่รอลงอาญา คดีขี่รถชน ‘หมอกระต่าย’ ขณะข้ามทางม้าลายเสียชีวิต

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า